เกาะติดสงครามสั่งสอน ข่าวหลอนปรับ ครม. ประยุทธ์-ภูมิใจไทย

บทความเกาะติดสงครามสั่งสอน ข่าวหลอนปรับ ครม. ประยุทธ์-ภูมิใจไทย

อาฟเตอร์ช็อกทางการเมือง หลังการอภิปราย งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ที่มีแรงกระเพื่อมต่อเนื่องจากวิวาทะ สงครามตัวแทน ระหว่าง 3 พรรคร่วมรัฐบาล

โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โดนกระทบชิ่ง จากทั่วทุกทิศทาง

ทางหนึ่งมาจากพรรคแกนนำรัฐบาล อันดับ 2 ภูมิใจไทย ภายใต้การกุมบังเหียนของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ผู้ครอบครองเสียง ส.ส.ในสภา 61 เสียง และมือที่มองเห็นจาก ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่อยู่ในเครือข่ายภูมิใจไทยอีก 4 เสียง ที่ถล่มโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ และการจัดทำงบประมาณ 2565 ว่าเป็นงบประมาณฉบับที่ “ไม่สนใจความรู้สึกประชาชน” และส่งสัญญาณ “ถอนตัว”

การสนธิกำลังของ ส.ส.หัวขบวน ขาใหญ่ อย่าง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ร่วมกับ ส.ส.หนุ่มฝีปากกล้า 2 พี่น้องทายาท สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อย่าง  นายภราดร และนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ปิดท้ายด้วยแรงส่ง ด้วยการสรุปโดย นายศุภชัย ใจสมุทร แทงตรงไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำนองว่า “จัดงบประมาณบนหอคอยงาช้าง…ใจดำกับประชาชน”

ละม้ายกับท่วงทำนองของ พรรคประชาธิปัตย์ ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ กุมจำนวนมือในสภา 50 เสียง ที่มีลูกพรรคอภิปราย แบบแบ่งรับ-แบ่งสู้

ไม่ควรลืมว่า ในห้วงแห่งการปรับคณะรัฐมนตรี ครั้งที่ผ่านมา มีการปล่อยข่าวหนาหูออกมาอย่างมีเลศนัย ว่า จะมีการ “ริบโควตารัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์” เพราะเหตุว่า ส.ส.ประชาธิปัตย์ มักให้สัมภาษณ์โจมตี พล.อ.ประยุทธ์ และการทำงานของรัฐบาลบ่อยครั้ง

ตามด้วยข่าว “รัฐมนตรีขี้นินทา” ที่ พล.อ.ประยุทธ์ และส.ส.พลังประชารัฐ พุ่งเป้าไปที่ รัฐมนตรีสายประชาธิปัตย์

ทว่าการการริบโควต้ารัฐมนตรี ก็ยังเป็นเพียงการ “หมายหัว” ไว้เท่านั้น ว่าจะริบตำแหน่งรัฐมนตรีคืนเป็นโควต้าของนายกรัฐมนตรี

เมื่อมาถึง วาระงบประมาณ มีการโจมตีนายกรัฐมนตรีซึ่งหน้าในรัฐสภา โดยหัวโจกพรรคภูมิใจไทย บรรดาเครือข่ายอำนาจของรัฐบาล ทั้ง 3 พลเอก และพลพรรคพลังประชารัฐ คงไม่ยอมปล่อยผ่าน

การยึดอำนาจเกือบทุกองคาพยพ จากกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่แผนฉีดวัคซีน ไปจนถึงแผนการจัดงบประมาณเพื่อการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ ย่อมต้องผ่านตระแกรงร่อนจากประมุขตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนทุกรายการ

แม้ฉากหน้า เสียงส่วนใหญ่ในพรรคร่วมรัฐบาล จะลงมติเห็นชอบ ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณในวาระ 1 ไปแล้ว

ตามด้วยอีเวนต์ใหญ่ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะมีงานมหกรรม ฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ ที่จะต้องแชร์ ฐานอำนาจ และฐานเสียงร่วมกัน ในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ที่ “ฮับบางซื่อ” อันเป็นฐานที่มั่นในการรวบโควตาวัคซีน ไปไว้ในมือของ เครือข่ายภูมิใจไทย และศูนย์ฉีดวัคซีนผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง อันเป็นฐานเสียงใหญ่ของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ ผู้ว่าฯ กทม. แห่งค่ายพลังประชารัฐ

ภายใต้กำหนดการรวมดาวรัฐมนตรี 2 ฝ่าย จากพลังประชารัฐ และภูมิใจไทย อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การยก์วินพงศ อธิบดีกรมควบคุมโรค

โดยที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ได้มีการจัดคิวให้ พล.อ.ประยุทธ์ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ทักทายไปยังหน่วยงานส่วนภูมิภาค 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ชลบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น และภูเก็ต และเป็นประธานสักขีพยานในโอกาส ปลัดกระทรวงคมนาคมมอบอุปกรณ์ ทางการแพทย์ เพื่อสนับสนุนภารกิจวาระการฉีดวัคซีนแห่งชาติ ให้แก่ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

หลังจากอีเวนต์การเมืองใหญ่ดังกล่าว ยังมี วาระร้อนเรื่องงบประมาณ รออยู่อีก 2 วาระ จนกว่าจะนำไปสู่การเบิก-จ่าย ที่ ส.ส.ภูมิใจไทย ฝากชนักปักหลังไว้ว่า “ครั้งนี้อาจเป็นการทำงบประมาณครั้งสุดท้ายของรัฐบาล”

มีวาระแทรก ว่าด้วยเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ดักหน้า ในสัปดาห์หน้า อีก 1 วาระ ว่าด้วย พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้าน

ภายใต้คลื่นใต้น้ำในรัฐบาล เป็นที่จับตาของนักการเมืองทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาล ว่า พล.อ.ประยุทธ์ และพี่น้อง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กลจักรสำคัญในการบริหารงบประมาณ และกระจายวัคซีนทั่วประเทศ จะมีท่าทีตอบโต้ การเขย่าขวัญของภูมิใจไทยอย่างไร

ข่าวที่เล็ดลอดใต้ถุนรัฐสภา ภายใต้ตำราก้นหีบทางการเมืองแบบเก่า คือ การปรับคณะรัฐมนตรี-การตัดโควตารัฐมนตรีภูมิใจไทย และการกระชับอำนาจรวบตึง ภายในศูนย์อำนวยการบริหารโควิด (ศบค.) มากขึ้นอีกระดับ

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ตอบคำถามถึงที่มาของข่าว ที่ว่า “อาจจะมีการปรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือไม่” ด้วยการโบกมือ เดินออกจากอาคารรัฐสภาทันที หลังการโหวตผ่านวาระ 1 ของงบประมาณรายจ่ายปี 2565

แต่สงครามการสั่งสอนพรรคภูมิใจไทย จะเป็นรูปธรรม หรือแค่เกมยื้อต่อท่ออำนาจ ของเครือข่ายรัฐบาลนายพล ล้วนเป็นวาระที่ ทั้งฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ และฝ่ายภูมิใจไทย ต้องประเมินแบบรายวัน