ปรับ ครม.ปลดระวาง “นายพล” สับเปลี่ยนกำลังทีมเศรษฐกิจ

สัญญาณการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ 5 ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี-หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือ “ครม.บิ๊กตู่ 5” ถี่ขึ้นทุกระดับ

ภายหลัง “บิ๊กบี้”-พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ยกทีมเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า “ไขก๊อก” เก้าอี้เจ้ากระทรวงแรงงาน หลัง พล.อ.ประยุทธ์ เซ็นคำสั่งหัวหน้า คสช. เด้งฟ้าผ่า “วรานนท์ ปีติวรรณ” อธิบดีกรมการจัดหางาน เพียงไม่กี่ชั่วโมง

ไฟต์บังคับ “ปรับเร็ว”

สำหรับการปรับ “ครม.บิ๊กตู่ 5” คาดว่าจะเป็นการ “ปรับเร็ว” โดยในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2560 “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี-รมว.กลาโหมได้นัด “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายก ฯ ด้านเศรษฐกิจ หารือเพื่อ “จัดคน-แบ่งงานใหม่”

สำหรับรายชื่อ “ติดโผ” แทน พล.อ.ศิริชัย มี “พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล” อดีตปลัดกลาโหม “พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ” และ “พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์” อดีตปลัดสำนักนายกฯ-อดีตรอง ผบ.ตร.

คนเด่น-ดังปัด-แทงกั๊กร่วม ครม.

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของคนเด่น-คนดัง อยู่ในโผ “คณิศ แสงสุพรรณ” นั้นโบกมือปฏิเสธตั้งแต่โผแรก เพราะตั้งใจจะทำภารกิจใหญ่ ดึงนักลงทุนต่างชาติเข้าพื้นที่ EEC จุดกระแสการลงทุนให้ติดลมตามเป้าเท่านั้น

ส่วน “อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม” อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน ไม่ปฏิเสธ ไม่ตอบรับ ใช้เวลาช่วงชื่ออยู่ในโผ ครม.ชุลมุน เดินสายท่องเที่ยวรับลมหนาวในยุโรป อีกหลายวันกว่าจะเห็นตัวเป็น ๆ ในเมืองไทย

ขณะที่ “โผลับ” ของตึกไทยคู่ฟ้า ที่ทีมนายกรัฐมนตรี “หมายตา-ไว้ใจ” ให้เข้าประจำการตำแหน่งใหญ่อีกราย คือ “ประสาร ไตรรัตน์วรกุล” อดีต “ผู้ว่าแบงก์ชาติ” ที่เป็นกำลังหลักเคลื่อนการปฏิรูปเศรษฐกิจรายการใหญ่ใกล้มาถึงฝั่ง

เวลานี้รัฐมนตรีพลเรือน-นักการเศรษฐกิจวงนอก ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ทำงานกับทหารยาก-มากพิธี-มีขั้นตอน” หลายคนจึงอยาก “ตีจาก” มากกว่าเคลื่อนตัวเข้าร่วมวงใน ครม.

ลุ้นล้างไพ่สายนายพล

ขณะที่ “กองเชียร์” ข้างเวที ตะโกนข้ามรั้วทำเนียบ “ยุส่ง” ให้ปรับ ครม.ในสัดส่วนรัฐมนตรี “สายนายพล” ที่ไม่มีผลงาน-มือไม่ถึง รวมทั้งสัญญาณจาก พล.อ.ประยุทธ์-พล.อ.ประวิตร แย้มว่า อาจ “ลดจำนวนทหาร” จาก 10 คน 11 ตำแหน่ง “พล.อ.ฉัตรชัย” ติดทุกโผ 3 ปีเต็ม พล.อ.ประยุทธ์ ปรับ ครม. ไปแล้ว 4 ครั้ง ทั้งปรับเล็ก-ปรับใหญ่

3 ป.บูรพาพยัคฆ์นำทีม

“ครม.บิ๊กตู่ 1” โปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2557 นำทีมโดย “พี่-น้อง 3 ป.” แห่งบูรพาพยัคฆ์ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์-ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) หัวหน้า คสช. เป็น “นายกรัฐมนตรี”

“พี่ใหญ่” บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร เป็น รองนายกรัฐมนตรี “ควบ” รมว.กลาโหม และ “พี่รอง” บิ๊กป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็น รมว.มหาดไทย ขณะที่เพื่อน “ร่วมเป็นร่วมตาย” ในตำแหน่ง “รองหัวหน้า คสช.” จึงไม่มีใคร “หลุดโผ” ครม.ประยุทธ์ 1

ครม.เพื่อน-พี่-น้อง

“พล.อ.ประยุทธ์-พล.อ.ประวิตร” ยังหอบ “เพื่อน-พี่-น้อง” มาร่วมหัวจมท้ายใน “ครม.บิ๊กตู่ 1” ตาม “คอนเซ็ปต์” ต้องเป็นคนที่ “ไว้ใจได้”

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. และเลขาธิการ คสช. เป็น รมช.กลาโหม พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เพื่อนร่วมรุ่น “พล.อ.ประยุทธ์” เตรียมทหาร (ตท.) รุ่นที่ 12 เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. (ตท.15) เป็น รมว.ยุติธรรม พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. (ตท.12) เป็น รมว.พาณิชย์

พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อนร่วมรุ่น พล.อ.ประยุทธ์ เป็น รมว.แรงงาน พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รองเสธ.ทหารบก (ตท.14) เป็น รมช.ศึกษาฯ

รียูเนี่ยนทีม ศก.รบ.ขิงแก่

ด้าน “ทีมเศรษฐกิจ-คุณชายอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายก ฯ และ รมว.คลัง ใน “รัฐบาลขิงแก่” พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นรองนายกฯ-“แม่ทัพเศรษฐกิจ”

นายสมหมาย ภาษี อดีต รมช.คลัง ในสมัย “รัฐบาลขิงแก่” เป็น รมว.คลัง นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา อดีตปลัดเกษตรฯ เป็น รมว.เกษตรฯ ใช้บริการ ขรก.ประจำเสนาบดี “ครม.ประยุทธ์ 1” มีหลายตำแหน่งที่ “ข้าราชการประจำ” ถ่างไปนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ได้แก่ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสภาพัฒน์ เป็น รมช.คมนาคม

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ

ทว่า พล.อ.ประยุทธ์บริหารงานไม่ถึงระยะ “ทดลองงาน” ต้อง “เสริมทัพ” ครม.ประยุทธ์ 2 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 คือ นายอำนวย ปะติเส เป็น รมช.เกษตรฯ และ นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ มาเป็น รมช.คลัง

รอยร้าวทีมเศรษฐกิจ คสช.

อย่างไรก็ตาม “ครม.บิ๊กตู่” ใช้เวลาบริหารประเทศมาเกือบ 1 ปีเต็ม ด้วย “ส่วนผสม” ทหาร-ผู้ทรงคุณค่าจาก “รัฐบาลขิงแก่” และข้าราชการประจำ

ทำให้นโยบาย-ขับเคลื่อน “ไม่โดนใจ-ไม่ทันใจ” โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง-สินค้าเกษตรตกต่ำ

ทว่า “ฟางเส้นสุดท้าย” คือ “ความขัดแย้ง” ภายในรัฐบาล-คสช. จน “คุณชายอุ๋ย” พ่นวรรคทอง “แบ่งแยกแล้วปกครอง”

อีกทั้งก่อนหน้านี้ก่อนปรับ ครม. มีข่าว-“คลิปหลุด” แชร์ในสื่อโซเชียลมีเดียว่า “คุณชายอุ๋ย” ไปพูดระหว่างประชุมกับสมาคมธนาคารไทยว่า “นายกฯไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจ”

โละทีมเศรษฐกิจ “คุณชายอุ๋ย”

จนนำมาสู่การ “ปรับใหญ่” ครม.ประยุทธ์ 3 เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2558 ทำสถิติ “สูงที่สุด” จำนวน 20 ตำแหน่ง โดยเฉพาะการ “โละ” ทีมเศรษฐกิจ “คุณชายอุ๋ย” ไล่ตั้งแต่ “แม่ทัพ” กระทั่ง “ขุนพล”

ขณะที่ “เสนาบดีนายพล” ที่ “มือไม่ถึง” ก็ถูกถอดสลักระเบิดเวลา ได้แก่ “พล.อ.ฉัตรชัย” จาก รมว.พาณิชย์ เป็น รมว.เกษตรฯ พล.อ.สุรศักดิ์ โยกจาก รมว.แรงงาน เป็น รมว.ทรัพยากรฯ นอกจากนี้ยัง “แขวน” เสนาบดี “สายนายพล” ไปนั่งเก้าอี้ “รองนายกฯ” และ “ปรับลด” ให้เหลือ 1 ตำแหน่ง เปิดทางให้ “มืออาชีพ” บริหารเต็มตัว

“ทีมสมคิด” ผงาดยกแผง

การยกเครื่องทีมเศรษฐกิจ โดยให้ “สมคิด” เป็น รองนายกฯด้านเศรษฐกิจ นายอุตตม สาวนายน เป็น รมว.ไอซีที นางอภิรดี ขยับจาก รมช.พาณิชย์ เป็น รมว.พาณิชย์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ เป็น รมช.คมนาคม พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ อดีตปลัดบัญชีทหารบก เป็น รมว.พลังงาน พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล อดีตปลัดกลาโหม เป็น รมว.แรงงาน

“เกาเหลา” สมคิด VS ฉัตรชัย

เมื่อ “ทีมเศรษฐกิจ” บริหารมาได้ระยะหนึ่ง เกิดความ “ไม่เป็นเอกภาพ” ในกระทรวงเศรษฐกิจของ “สมคิด” ถึงแม้ว่ากระทรวงเกษตรฯ ที่มี พล.อ.ฉัตรชัย กุมบังเหียน ในทาง “นิตินัย” จะ “ขึ้นตรง” กับรองนายกฯ-“สมคิด”

ทว่าในทาง “พฤตินัย” นายสมคิดไม่สามารถสั่งการได้ตาม “สายบังคับบัญชา” ทำให้การบริหารเศรษฐกิจของ “สมคิด” อยู่ในสภาวะ “ไร้การควบคุม”

ปมใหญ่ของ “เกาเหลาชามโต” เมื่อ พล.อ.ฉัตรชัย “งัดข้อ” กับนายอภิศักดิ์ เรื่องมาตรการช่วยเหลือ “ชาวนา”

และการตั้ง “หน่วยงานใหม่” ขึ้นตรงกับกระทรวงการคลัง เพื่อแก้ปัญหาสหกรณ์ออมทรัพย์-สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เรื่องมา “แดง” เมื่อ ครม.มีมติเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2559 ให้ “พล.อ.อ.ประจิน” กำกับกระทรวงเกษตรฯแทนนายสมคิด

เขย่า “ทีมสมคิด”

ไฟต์บังคับที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องตัดสินใจปรับ “ครม.บิ๊กตู่ 4” 12 ตำแหน่ง ในวันที่ 16 ธันวาคม 2559 ภายหลังมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง “พล.อ.ดาว์พงษ์” และ “พล.อ.ไพบูลย์” เป็นองคมนตรี นอกจากนี้ ผลของการเปลี่ยนชื่อกระทรวงไอซีที เป็น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ทำให้ นายอุตตม รมว.ไอซีที ขณะนั้น จึงต้องยื่นใบลาออก ขณะเดียวกัน โยก-สลับ นายออมสิน จาก รมช.คมนาคม เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายสุวิทย์ จาก รมช.พาณิชย์ เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ

รวมไปถึงการ “เขย่า” ทีมนายสมคิด สลับ นางอรรชกา จาก รมว.อุตสาหกรรม เป็น รมว.วิทยาศาสตร์ฯ นายอุตตม เป็น รมว.อุตสาหกรรม และนายพิเชฐ จาก รมว.วิทยาศาสตร์ฯ นั่งเก้าอี้ รมว.ดีอี-คนแรก

นางชุติมา บุณยประภัศร เป็น รมช.เกษตรฯ นายพิชิต อัคราทิตย์ เป็น รมช.คมนาคม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ และนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล เป็น รมช.ต่างประเทศ

สุดท้าย ใครจะได้พัก-ไปต่อ คงต้องรอถึง “โผสุดท้าย”