เมื่อเวลา 09.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ที่ให้ประสานกับคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ให้แยกงานสอบสวนออกมาให้ชัดเจนว่า มีประเด็นที่นายกฯ ได้สั่งการเอาไว้ 2 ข้อว่า เรื่องของการสอบสวนจะเป็นไปได้หรือไม่ที่ไม่จำเป็นต้องแยกออกมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เนื่องจากวันนี้มีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่แยกออกมาอยู่แล้ว ทั้งนี้ ปัจจุบัน สตช.ทำงานเป็น 2 แท่งคือ แท่งสอบสวน ตั้งแต่ ยศ ร.ต.ต.เติบโตไปจนถึง พล.ต.อ. กับอีกแท่งคือ ด้านการปราบปราม โดยต้องแยกส่วนงานให้ชัดเจน จึงไม่จำเป็นต้องแยกสอบสวนออกจาก สตช.
นายวิษณุกล่าวว่า แต่มีอีกส่วนคือ ดีเอสไอที่จะต้องปฏิรูปควบคู่กันไปด้วย ซึ่งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจไม่ได้ดูแลในส่วนนี้ แต่เป็นความรับผิดชอบคณะกรรมการปฏิรูปด้านกระบวนการยุติธรรมที่มุ่งไปที่กระบวนการศาลและอัยการ ดีเอสไอจึงเป็นช่องโหว่ เป็นเหมือนนกมีหูหนูมีปีก นายกฯจึงได้ฝากให้ตนกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ช่วยกันคิดหาวิธีปรับปรุงดีเอสไอให้มีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือ มีเกียรติและศักดิ์ศรี โดยทำเฉพาะคดีพิเศษจริงๆ ไม่ใช่ขี้หมูราขี้หมาแห้ง เอางานของตำรวจมาทำ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
รองนายกฯ กล่าวว่า การจะทำให้ดีเอสไอมีความเข้มข้นขึ้นควรจะเปิดรับบุคคลภายนอกเข้ามาทำหน้าที่ในดีเอสไอ ส่วนคนที่อยู่ในดีเอสไอหากต้องการจะไปทำงานสอบสวนใน สตช. ควรจะต้องเปิดทางให้เขาสามารถโอนย้ายกลับไปได้ เพื่อรับบุคคลภายนอกที่มีความรู้ความสามารถไม่ว่าจะเป็นด้านนิติศาสตร์หรือด้านอื่นๆ เพื่อผลิตน้ำดีขึ้นมาในดีเอสไอ
ที่มา : มติชนออนไลน์