สุดารัตน์ แถลงจุดยืน “ไทยสร้างไทย” หนุนตั้ง ส.ส.ร. เขียนรัฐธรรมนูญใหม่

สุดารัตน์ พรรคไทยสร้างไทย

“พรรคไทยสร้างไทย” แถลงจุดยืนสนับสนุนตั้ง สสร. แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ประกาศพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกกติกา ยันส่งผู้สมัครครบ 350 เขต

วันที่ 21 มิถุนายน 2564 เมื่อเวลา 13.30 น. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยสมาชิกพรรคกล่าวย้ำจุดยืนของพรรคไทยสร้างไทยในการเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดยยืนยันว่า วิกฤตของประเทศเกิดขึ้นจากการเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดเผด็จการ

ดังนั้นทางออกเดียวที่จะออกจากวิกฤตนี้ คือ ให้ประชาชนเป็นคนเขียนรัฐธรรมนูญของตนเอง จุดยืนของพรรคคือ ไม่ทรยศประชาชน และยังคงเดินหน้าคืนอำนาจให้กับประชาชน พร้อมทวงคำมั่นสัญญาจากทุกพรรคการเมืองที่ให้ไว้กับประชาชนว่า จะให้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน หากทุกพรรคจริงใจก็ขอให้ไปทำประชามติ เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเขียนรัฐธรรมนูญ

นายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ควรได้รับการแก้ไขทั้งฉบับเพื่อวางโครงสร้างใหม่ ส่วนจํานวน ส.ส. ที่ผ่านมา มีความหลากหลายตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งการเลือกตั้งแบบปี 2560 เพิ่งใช้ได้ครั้งเดียวจะไม่นำกลับมาใช้แล้วหรือ การกลับไปใช้แบบรัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 ซึ่งคณะรัฐประหารบอกว่าไม่ดี เพราะระบบการเลือกตั้งถูกมองว่า เป็นความได้เปรียบเสียเปรียบของพรรคการเมือง

ดังนั้น วิธีการแก้ปัญหาที่ดีจึงไม่ควรให้พรรคการเมืองที่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นผู้ตัดสินใจ และทางออกที่ดีที่สุดในเรื่องนี้คือการคืนอํานาจให้ประชาชนไปจัดทําร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งจะรวมถึงการออกแบบจํานวน ส.ส. และระบบการเลือกตั้งใหม่ด้วย

ที่ผ่านการรับหลักการแก้ไขมาตรา 256 ถูกโหวตคว่ำในวาระ 3 จึงไม่มีเหตุผลที่พรรคพลังประชารัฐ จะเสนอร่างญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีบัตร 2 ใบ ที่ตัวเองเคยลงมติไม่รับหลักการมาแล้วอีกครั้ง ควรนําเรื่องนี้ไปให้ประชาชนพิจารณามากกว่า

ขณะที่ นายวัฒนา เมืองสุข ประธานคณะกรรมการกฎหมายและการเมือง กล่าวว่า สิ่งที่ดีที่สุดในการขจัดความขัดแย้งนี้คือควรโยนให้ประชาชนเป็นคนเลือกเป็นคนสร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนขึ้นมาเอง

นอกจากนี้ นายพงศกร อรรณนพพร ประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามพรรคไทยสร้างไทยพร้อมที่จะส่ง ส.ส. ลงเลือกตั้ง 350 เขตทั่วประเทศแน่นอน ไม่ว่ากติกาการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรก็ตาม และมั่นใจว่าประชาชนคงจะเลือกพรรคไทยสร้างไทยเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศในตอนนี้

พรรคไทยสร้างไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเด็นการแก้ไขระบบการเลือกตั้งเป็นบัตรสองใบและการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่เป็น 400/100 มีดังนี้

1.รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ถูกออกแบบมาเพื่อสืบทอดอํานาจเผด็จการ โครงสร้างทางการเมืองที่ถูกวางไว้จึงมีปัญหาในทุกขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการเข้าสู่อํานาจทางการเมือง องค์กรที่ใช้อํานาจ วิธีการใช้อํานาจและการตรวจสอบ เป็นต้น ดังนั้นรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 จึงควรได้รับการแก้ไขทั้งฉบับเพื่อวางโครงสร้างใหม่

2.ส่วนจํานวน ส.ส. ที่ผ่านมามีความหลากหลายตามรัฐธรรมนูญ เช่น รัฐธรรมนูญ 40 กําหนด จํานวน ส.ส. เขต/บัญชีรายชื่อเป็น 400/100 รัฐธรรมนูญ 2550 กําหนดเป็น 375/125 และ รัฐธรรมนูญ 2560 กําหนดเป็น 350/150 การกลับไปใช้เขตเลือกตั้ง 400 เขต จึงเป็นการเปิดโอกาสให้มีการจัดเขตเลือกตั้งใหม่ ซึ่งถ้า องค์กรที่ดูแลเรื่องนี้ไม่เป็นกลางเพราะมาจากเผด็จการ ก็จะแบ่งเขตให้พวกตนได้เปรียบ

และเมื่อไม่มีการกําหนดซึ่งคะแนนความนิยม (Popular vote) ที่ได้รับต้องสัมพันธ์กับที่นั่งที่จะพึงได้ ก็แปลว่ารัฐธรรมนูญฉบับมีชัยที่ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวเพื่อไม่ให้คะแนนเสียงที่พรรคการเมืองได้รับ แต่ไม่ได้ ส.ส. เขตไม่เสียไป เอาไปคํานวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อได้เพื่อความเป็นธรรม หลักการเหล่านี้ เพิ่งใช้ได้ครั้งเดียวก็ไม่เอาอีกแล้วหรือ และกลับไปใช้แบบรัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 ซึ่งคณะรัฐประหารบอกว่าไม่ดี

3.เมื่อระบบการเลือกตั้งถูกมองว่า เป็นความได้เปรียบเสียเปรียบของพรรคการเมืองบางระบบถูกมองว่าเป็นประโยชน์กับพรรคใหญ่ บางระบบเป็นประโยชน์กับพรรคเล็ก จึงเกิดประเด็นโต้เถียง ในเรื่องนี้ขึ้นและจะนําไปสู่ความขัดแย้ง วิธีการแก้ปัญหาที่ดีจึงไม่ควรให้พรรคการเมืองที่เป็นผู้มี ส่วนได้ส่วนเสียเป็นคนตัดสินใจ

4.ทางออกที่ดีที่สุดในเรื่องนี้คือการคืนอํานาจให้ประชาชนไปจัดทําร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งจะรวมถึงการออกแบบจํานวน ส.ส. และระบบการเลือกตั้งใหม่ที่ประชาชนเห็นว่าเหมาะสม อันจะมีความเป็นธรรมและได้รับการยอมรับ เพราะเป็นการออกแบบและกําหนดมาจากเจ้าของอํานาจ คือ ประชาชน

หากจะแก้ไขเพียงประเด็นวิธีการเลือกตั้งและจํานวน ส.ส. เพียงอย่างเดียว นอกจากประชาชนไม่ได้ประโยชน์ด้วยแล้ว ยังอาจจะทําให้พรรคใหญ่ที่ได้ประโยชน์ไปแล้วไม่สนับสนุนให้มีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนทําให้ประชาชนเสียหาย ทุกพรรคจึงควรสนับสนุนการ แก้รัฐธรรมนูญแบบ ส.ส.ร. มากกว่าจะแยกไปทํารายประเด็น

5.ก่อนหน้านี้พรรคร่วมฝ่ายค้านเคยเสนอญัตติขอแก้ไขระบบการเลือกตั้งเป็นแบบบัตรสองใบมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยเสนอมารวม 5 ญัตติ พร้อมกับการแก้ไขมาตรา 256 โดยการตั้ง ส.ส.ร. แต่ร่างแก้ไข อีก 4 ฉบับ ถูกพรรคฝ่ายรัฐบาลและ ส.ว. ลงมติไม่รับหลักการทั้งหมดยกเว้นร่างแก้ไขมาตรา 256 ขอตั้ง ส.ส.ร. ที่ผ่านการรับหลักการแต่ถูกโหวตคว่ำในวาระ 3 จึงไม่มีเหตุผลที่พรรคพลังประชารัฐ จะเสนอร่างญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีบัตร 2 ใบ ที่ตัวเองเคยลงมติไม่รับหลักการมาแล้วอีกครั้ง ควรนําเรื่องนี้ไปให้ประชาชนพิจารณามากกว่า