“รังสิมันต์” จี้รัฐสภาเลิกเป็นหางเครื่องค่าตัวหลักแสน เล่นละครสืบทอดอำนาจ

รังสิมันต์ โรม ชวนรัฐสภาร่วมยกเลิก ม.272 ปิดสวิตช์ ส.ว.  ชี้ เป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนแปลงการเมืองหยุดเล่นละครปาหี่แก้รัฐธรรมนูญ

วันที่ 23 มิถุนายน 2564 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งสิ้น 13 ร่างในช่วงบ่ายนั้น  นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า  การพิจารณาญัตติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มากถึง 13 ญัตติในหลากหลายประเด็น พรรคก้าวไกลเห็นว่าประเด็นไหนที่สำคัญที่สุด จำเป็นเร่งด่วนที่สุดและต้องแก้ให้ได้โดยเด็ดขาด มีประเด็นเดียวคือการยกเลิกอำนาจของ ส.ว. ที่จะลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 272 ซึ่งพรรคก้าวไกลได้ลงชื่อในญัตติดังกล่าวร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ

ต้องยอมรับความจริงว่า ส.ว. 250 คนชุดนี้คือกลไกการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา การมี ส.ว. ที่มาจากการเลือกโดย คสช. และมีอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีแบบนี้ยังเป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองตามที่ประชาชนปรารถนา เพราะแม้ประชาชนจะอยากเห็นนายกรัฐมนตรีเป็นคนอื่น แต่หาก ส.ว. ไม่ยอมให้ ประชาชนก็ยังต้องทนอยู่กับนายกรัฐมนตรีคนเดิม มาตรา 272 จึงเป็นการแช่แข็งประเทศไทยไม่ให้ไปข้างหน้า 

วันนี้ข้อเสนอของสังคมกำลังไปไกลกว่าแค่ยกเลิกมาตรา 272 แล้ว อาจจะคิดไปถึงการยุบ ส.ว. และเปลี่ยนไปสู่ระบบสภาเดี่ยวก็เป็นไปได้ การยกเลิกมาตรา 272 จึงเป็นประตูแรกที่จะออกจากอำนาจเผด็จการที่กำลังปิดล้อมประชาชน หากเปิดประตูบานแรกสำเร็จ หนทางสู่การจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนก็ไปต่อได้ แต่ก็อย่างที่คาดหมายได้ ร่างแก้รัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐไม่มีเรื่องนี้ แต่ต้องการแก้บางมาตราให้เป็นไปตามแผนการรวบอำนาจของ คสช. เท่านั้น

อย่างระบบเลือกตั้งที่เป็นเหยื่อล่อเพื่อเชื้อเชิญให้เปิดประตูเมืองต้อนรับม้าไม้เมืองทรอย รู้นะว่าคิดอะไรกันอยู่ จะเปลี่ยนเขตเลือกตั้ง ก็เพราะต้องการให้ กกต. ขีดเส้นแบ่งเขตใหม่ใช่ไหม หรือบางเรื่องที่เสนอเข้ามาก็เป็นแค่แก้เพื่อโกง มาตรา 185 ยกเลิกข้อห้าม ส.ส. กับ ส.ว. แทรกแซงก้าวก่ายการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐและการไปร่วมใช้จ่ายงบประมาณหรืออนุมัติโครงการต่างๆ

มาตรา 144 ยกเลิกการลงโทษ ส.ส. และ ส.ว. ที่ไปแปรญัตติเพิ่มงบประมาณหรือเพิ่มรายการงบประมาณ เท่ากับต่อจากนี้จะแทรกแซงจะก้าวก่ายก็เชิญ ถ้าโดนจับได้ว่าแอบโยกงบเข้าพื้นที่หรือกลุ่มของตัวเองก็ไม่ว่า ทีหลังไปทำให้แนบเนียนขึ้น อย่างนั้นใช่หรือไม่ ไม่เอาแล้วหรือกับคำว่ารัฐธรรมนูญปราบโกงที่อวดอ้างกันนักกันหนา  

เรื่องการแก้ในเรื่องสิทธิเสรีภาพมีแต่เพียงการแต่งเติมในรายละเอียดปลีกย่อย ทั้งๆที่ระบอบประยุทธ์  ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนมากที่สุด หากเรามีรัฐธรรมนูญที่เคารพต่อเสียงของประชาชน ยกอำนาจของประชาชนและสถาบันที่ยึดโยงกับประชาชนให้เป็นใหญ่ ปราศจากกลไกการสืบทอดอำนาจเผด็จการ สิทธิเสรีภาพในรายละเอียดปลีกย่อยเหล่านั้นย่อมได้รับการคุ้มครองอยู่แล้ว

แต่หากการแก้รัฐธรรมนูญยังเป็นแบบที่พรรคพลังประชารัฐเสนอมายังแก้รายมาตราเพื่อการสืบทอดอำนาจของตัวเอง ต่อให้แก้เรื่องสิทธิเสรีภาพให้ดูสวยงามเพียงใด เมื่อประชาชนออกมาใช้สิทธิเสรีภาพ ออกมาตั้งคำถาม คัดค้าน วิพากษ์วิจารณ์ผู้มีอำนาจ สุดท้ายพวกเขาเหล่านั้นก็จะยังคงถูกข่มขู่คุกคาม ถูกกราดฟ้องสารพัดคดี ถูกปฏิเสธสิทธิในฐานะผู้บริสุทธิ์อย่างที่เคยเป็นมาอยู่ดี

“เชื่อว่าทุกคนในสภาแห่งนี้ ต่างรู้ดีว่าที่ทำกันอยู่ในวันนี้ ที่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหลายฉบับหลายมาตรา มันไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอะไร เป็นแค่เพียงการปรับแต่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ให้กลายพันธุ์ ให้ดูดี ดูน่าคบหา ถามจริงๆว่าจะเล่นปาหี่กันแบบนี้อีกนานไหม”

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนและพรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้ทุกคนกลับมาสู่แนวทางการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ในวันนี้ที่ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาและเตรียมประกาศใช้แล้วนั้น พรรคก้าวไกลเห็นว่าหนทางหนึ่งในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่รวดเร็วและตรงไปตรงมาที่สุด คือการจัดทำประชามติเพื่อถามประชาชนกันไปเลยว่าต้องการยกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 

และจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย ส.ส.ร. ที่ได้รับเลือกจากประชาชนหรือไม่ หากประชาชนเห็นชอบก็จะได้ไม่เหลือข้ออ้างอะไรให้ต้องมาหาเรื่องขัดขวางกันอีก รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะจัดทำต้องไม่ใช่การพาประเทศไทยกลับไปที่เดิม แต่ทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า อยากให้รับรองสิทธิเสรีภาพไว้อย่างไร  ตลอดจนระบบเลือกตั้งจะเอากันอย่างไร ให้ไปว่ากันในเวที ส.ส.ร.

“เลิกเสียทีกับการพยายามจำกัดเนื้อหาไม่ให้จัดทำในหมวด 1 และหมวด 2 อันเป็นการไม่เคารพต่อเจตจำนงของประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ ประชาชนจะเขียนในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ก็ให้พวกเขาได้รณรงค์และหาข้อสรุปด้วยตัวเอง สำหรับญัตติแก้รัฐธรรมนูญในครั้งนี้ พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาร่วมกันเห็นชอบกับการยกเลิกมาตรา 272 ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่สุดเฉพาะหน้าในการทลายการสืบทอดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ และหากปรากฏว่าในท้ายที่สุดญัตติยกเลิกมาตรา 272 เพื่อยกเลิกอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรีถูกคว่ำลงอีกครั้ง ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า ละครฉากนี้ที่มีนักแสดงค่าตัวแพงทั้งหลายในห้องนี้ เป็นแค่เพียงละครปาหี่ต่อพี่น้องประชาชนเพื่อกินรวบอำนาจของประชาชนทั้งกระดานเท่านั้นเอง”

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พอได้แล้วหรือไม่กับการยอมให้ทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เลิกเล่นตามเกมของผู้ที่ไม่เคยศรัทธาในประชาธิปไตย แล้วหันมาเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญในแบบที่ประชาชนได้เป็นผู้กำหนด และได้รับประโยชน์สูงสุดจริงๆ หยุดทำตัวเป็นหางเครื่องค่าตัวหลักแสนให้กับละครสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ และฝ่ายเผด็จการ คสช. เสียที