เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ปฏิบัติหน้าที่ประจำประตู 5 ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ ประจำทำเนียบรัฐบาล ติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 1 คน ขณะนี้เข้ารับการรักษาแล้ว
วันที่ 8 กรกฎาคม 2564 มติชนรายงานจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ทำเนียบรัฐบาลพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประจำประตู 5 ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นช่องทางเข้า-ออกหลัก สำหรับผู้ที่จะเข้ามาติดต่อราชการ ติดเชื้อโควิด-19 อีก 1 คน และขณะนี้ได้เข้ารับการรักษาตามขั้นตอนแล้ว
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
นายตำรวจคนดังกล่าวไม่ได้พักอาศัยที่เรือนนอนภายในทำเนียบรัฐบาล แต่อาศัยอยู่บริเวณชุมชุน ซอยพิษณุโลก 1 ซึ่งมีการระบาดไปก่อนหน้านี้ และจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลได้ทยอยกันเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดเพื่อเป็นการป้องกัน
ขณะเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาลบรรยากาศโดยรวมค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากทำเนียบรัฐบาลได้มีการกำหนดมาตรการเข้มในการดูแลรักษาความปลอดภัยการแพร่ระบาดของโรคไวรัส โควิด-19 ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่บ้านหรือเวิร์กฟรอมโฮม (WFH)
รวมไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด้วย ที่อยู่ระหว่างการกักตัวเป็นวันที่ 3 หลังใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อระหว่างการร่วมงานภูเก็ตแซนด์บอกซ์เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา และล่าสุดทำให้มีรัฐมนตรีหลายคนต้องกักตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของทำเนียบรัฐบาลล่าสุด หลังพบยอดผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตสูงสุดนับแต่มีการระบาดของโรค ว่า ปัจจุบันทำเนียบรัฐบาลได้ใช้มาตรการอย่างเข้มข้น ตามมาตรฐานสากล และกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว
ข้าราชการส่วนใหญ่ขณะนี้ก็ทำงานที่บ้าน ทุกคนและทุกหน่วยงานในสังกัด สามารถปรับตัวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามดำริของนายกรัฐมนตรี และผู้บังคับบัญชาระดับสูงทุกคน ที่ได้สั่งให้ดูแลผู้ปฏิบัติงานอย่างดี มีการตรวจหาเชื้อต่อเนื่อง
รวมทั้งจัดให้ฉีดวัคซีนตามกำหนด จึงไม่จำเป็นปรับมาตรการเพิ่มเติม อีกทั้งการประชุมต่าง ๆ ก็มีระบบการจัดการทางเทคโนโลยีพร้อมเพรียง ไม่ทำให้การบริหารราชการมีอุปสรรค สำหรับสื่อมวลชนที่ปฏิบัติงานในทำเนียบรัฐบาล ปัจจุบันยังไม่มีการออกมาตรการเพิ่มเติม จากเดิมที่จำกัดจำนวนอยู่แล้ว ซึ่งสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้จัดระบบการสื่อสารไว้รองรับและอำนวยความสะดวกทุกช่องทางอยู่แล้ว ทั้งเว็บไซต์ ออนไลน์และการติดต่อสื่อสารผ่านทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี