ฝ่ายค้านเร่งเครื่องล้ม “ประยุทธ์” ฉกข้อมูลไม่ไว้วางใจ วัคซีน-กองทัพ

ณ ขณะนี้ พรรคฝ่ายค้าน 6 พรรค ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นหัวขบวน พ่วงด้วย พรรคก้าวไกล พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังปวงชนไทย เปิดแคมเปญอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ใช้จังหวะที่ประชาชนกราดเกรี้ยว ไม่พอใจฝีมือการบริหารโควิด-19 ผิดพลาด ล้มเหลว ของรัฐนาวาประยุทธ์ เชิญชวนให้ประชาชนส่ง “ข้อมูล-หลักฐาน” มาร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้

เป้าหมายฝ่ายค้านที่ประกาศผ่านสาธารณะทั้งในโลกออฟไลน์-ออนไลน์ คือ แคมเปญเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในระบอบสภาผู้แทนราษฎร

พรรคเพื่อไทยปักหมุดซักฟอก 3 กลุ่มใหญ่ 4 เรื่อง ความผิดพลาด บกพร่อง ความล้มเหลวของการบริหารจัดการ และการบริหารจัดการเรื่องวัคซีน หลังจากนั้นจะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบมาทางด้านเศรษฐกิจ

“ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมด้วย เพราะประชาชนได้รับผลกระทบในวงกว้างและประชาชนได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากเป็นปัญหาโควิด-19 ดังนั้น ประชาชนควรจะมีส่วนในการร่วมอภิปรายครั้งนี้ ด้วยการส่งข้อมูล

มันไม่เหมือนการอภิปรายครั้งอื่นที่เป็นการอภิปรายเฉพาะที่ เฉพาะตัวบุคคล แต่ครั้งนี้เป็นการอภิปรายในภาพรวมประเทศ ข้อมูลที่คาดหวังจะได้จากประชาชน คือข้อมูลทุกเรื่องที่ประชาชนเห็นว่าบริหารผิดพลาดล้มเหลว ส่อไปทางทุจริต ขณะนี้เข้ามาหลายเรื่องแล้ว

“เช่น วันก่อนมีคนร้องเรียนเรื่องเตียงไม่พอ ก็เป็นปัญหาการบริหารงานบกพร่องของรัฐบาล เราจะเก็บรวบรวมมาอภิปรายในสภา” ประเสริฐกล่าว

ส่วนการอภิปรายส่วนอื่น ๆ เช่น งบฯกองทัพ เราก็ไม่ได้ละเลย แม้ว่าเรือดำน้ำจะถอยไปแล้ว แต่ก็ชี้ให้เห็นว่าเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่จัดลำดับความสำคัญ เพราะในสถานการณ์ขณะนี้โดยรวมควรจะถอย แต่บางอย่างยังเดินหน้า เช่น โดรนตรวจชายฝั่ง 4,100 ล้านบาท ท่าจอดเรือดำน้ำ ศูนย์วิทยุ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ควรจะชะลอไว้เช่นเดียวกัน

ด้านพรรคก้าวไกลเปิดแคมเปญตั้งเป้าว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ “ต้องเป็นครั้งสุดท้าย” ของรัฐบาลประยุทธ์

“ชัยธวัช ตุลาธน” เลขาธิการพรรคก้าวไกล บอกว่า จะอภิปรายแบบเน้นประเด็น ไม่กระจัดกระจายเหมือนที่ผ่านมา โดยจะร่วมมือกับประชาชน และข้าราชการที่ทนไม่ไหวกับรัฐบาล หากพี่น้องประชาชน และข้าราชการที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม และการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ก็สามารถส่งข้อมูลมาที่พรรคก้าวไกลได้

ส่วน “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า เราให้ประชาชนส่งข้อมูลเกี่ยวกับความบกพร่องของรัฐบาล ทั้งเรื่องทุจริต ด้อยประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล กำลังรวบรวมอยู่ ประเด็นสำคัญที่จะอภิปรายคือ ปัญหาประสิทธิภาพการบริหารจัดการสถานการณ์ การจัดการวัคซีน การจัดการผู้ป่วย ความไม่พอเพียงของสถานพยาบาล ประชาชนตายกลางถนน

แสดงให้เห็นว่า ความล้มเหลวระบบสาธารณสุขกำลังจะมาถึง มาจากความประมาทของรัฐบาล จะเห็นว่าการสั่งการของราชการ และการติดต่อผู้ผลิตวัคซีนมีปัญหาเยอะ ประชาชนจะช่วยก็ช่วยไม่ได้ เพราะโดนกีดกันโดยอ้างระบบราชการ ซึ่งความบกพร่องเหล่านี้ รัฐบาลต้องรับผิดชอบ เอาข้อมูลเหล่านี้มาเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบ เราจะได้ช่วยกันลงโทษรัฐบาลที่บริหารบกพร่องและไม่รับผิดชอบนี้

ในฐานะผู้มีประสบการณ์สูงสุดในหมู่ฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาชาติ ประเมินความเป็นไปได้ที่จะโค่นรัฐบาลในสภาว่า เราสามารถเอาข้อมูลมาได้ แต่การยกมือในสภา พรรคร่วมรัฐบาลส่วนมากยังเกรงใจ รักษาหน้ายกมือให้รัฐบาลไปก่อนเพื่อรักษาหน้า แต่เรื่องการแก้ไขปัญหาในรัฐบาลภายหลังนั้น ก็ไม่ทราบ

“แต่เมื่อมีข้อมูลอภิปรายที่ใช้กล่าวหารัฐบาลหนักขนาดนี้ พรรคร่วมรัฐบาลน่าจะป้องกันไม่ไหว มีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงรัฐบาลอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งคาดเดาไม่ได้ แต่รัฐบาลที่มีปัญหาอย่างนี้ในระบบประชาธิปไตยยังไงก็ต้องไป”

ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านใช้กลไกการเป็นคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 มาเป็นช่องทางเรียก “เอกสารราชการ” ใช้สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

เช่น “เพื่อไทย” นำโดยประเสริฐ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ ขอรายละเอียด

เกี่ยวกับโครงการจัดหาอากาศยานไร้คนขับ ประจำฐานบินชายฝั่งจำนวน 4,100 ล้านบาท เป็นงบฯผูกพันจนถึงปีงบประมาณ 2568 มีการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างไร

ขอรายละเอียดเกี่ยวกับเรืออ่างทองและเรือจักรีนฤเบศร สามารถปฏิบัติการตามภารกิจและสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ ตามที่กําหนดไว้มากน้อยเพียงใด ของกองทัพเรือ

ขณะที่พรรคก้าวไกล โดย “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรค ขอรายละเอียดเกี่ยวกับแผนแม่บทการปฏิรูปการบริหารจัดการ และการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงกลาโหมปีงบประมาณ 2560-2569 ในการปรับลดกําลังพล ปรับปรุงโครงสร้างหน่วยรบ และแผนการยุบควบรวมหน่วยที่ไม่จำเป็น ปรับโอนภารกิจให้กับเอกชน สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

ขอรายละเอียดเกี่ยวกับจํานวนกําลังพลของหน่วยงานในกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ในปัจจุบันเปรียบเทียบกับเดือนตุลาคม 2559 มีจํานวนลดลงมาก น้อยเพียงใด

ขณะที่งบฯกระทรวงสาธารณสุข พรรคฝ่ายค้านขอเอกสารส่วนใหญ่เป็นเรื่องของ “วัคซีน” โดย “ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” ส.ส.มหาสารคาม เพื่อไทย และ “พิธา” ก้าวไกล ขอทราบรายละเอียดสัญญาจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจํานวน 26 ล้านโดส ที่ไม่มีการลบเลือนตัวอักษรสีดํา พร้อมทั้งขอเอกสารสัญญาการจัดซื้อวัคซีนยี่ห้อซิโนแวคทั้งหมด

“ประเสริฐ จันทรรวงทอง” เลขาฯ เพื่อไทย ขอเอกสารการจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าทั้งหมด ขณะที่ “ศิริกัญญา ตันสกุล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ขอเอกสารมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กรมควบคุมโรคลงสัญญากับบริษัท ไฟเซอร์ และสัญญาการจัดซื้อวัคซีนกับบริษัท ซิโนแวคทั้งหมด

“ประชาชาติ” โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค ขอทราบข้อมูลเอกสารสัญญาการจัดซื้อวัคซีนทางเลือกของประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม “คนกลาง” อย่าง “สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีต กกต. และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์แคมเปญซักฟอกของฝ่ายค้านว่า เข้าใจว่าเป็นเรื่องการเปิดช่องทางที่ให้คนมีข้อมูล โดยเฉพาะจากราชการที่อยู่ใต้การบังคับบัญชาของฝ่ายการเมือง ถ้าเห็นข้อผิดพลาดของการบริหารของรัฐบาล สามารถส่งข้อมูลให้ฝ่ายค้านได้

จะเป็นการเสริมให้ข้อมูลครบถ้วนยิ่งขึ้น ไม่ได้มองว่าพรรคฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลจนจำเป็นต้องเรี่ยไรข้อมูลจากประชาชน เพราะความผิดพลาดในการบริหารสถานการณ์โควิด-19 มีข้อมูลที่เป็นประจักษ์พยานมากมาย พรรคฝ่ายค้านอาจอยากได้ข้อมูลเชิงลึก ถ้าได้ความร่วมมือของทางราชการเอาข้อมูลออกมาภายนอกก็จะมีประจักษ์พยานได้มากขึ้น

“คิดว่ามีข้าราชการจะส่งข้อมูลให้ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วคงไม่มีจดหมายจากทางราชการหลุดออกมามากมาย ที่ข้าราชการเห็นถึงความไม่ชอบมาพากลไม่ถูกต้อง เช่น กรณีหน่วยทหารไปขอวัคซีนโมเดอร์นา จากสภากาชาดไทย ก็ต้องเป็นคนในที่เป็นต้นทาง หรือปลายทาง”

ส่วนจะคว่ำรัฐบาลในสภาได้หรือไม่นั้น ปัจจัยอยู่ที่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล หากคุมเสียงกันได้ ต่อให้ฝ่ายค้านอภิปรายจนปากฉีกก็ไม่สามารถเอาชนะเสียงในสภาได้

แต่ถ้าข้อมูลเปิดเผยออกมาแล้วคิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะทนอยู่กับรัฐบาลได้ไหม ก็เป็นเรื่องตัดสินกัน ณ วันนั้น

“จึงเป็นโอกาสสำคัญที่อย่างน้อยที่สุด ที่รัฐบาลก็ควรจะต้องได้รับรู้ หรือถูกต่อว่ากลางสภาในเรื่องที่ตนเองผิดพลาด”