รังสิมันต์ โรม แฉ ตำรวจได้วัคซีนเข็ม 3 ก่อน รองผบช.น. ตอบแล้ว

รังสิมันต์ โรม วัคซีน ตำรวจ

รังสิมันต์ โรม โพสต์เดือด วอน ผบช.น. แจงเอกสารรายชื่อตำรวจที่จะได้รับวัคซีนเข็ม 3 ก่อน แต่แพทย์ด่านหน้ายังต้องรอ ประชาชนยังไม่ได้ฉีดแม้แต่เข็มแรก

วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (27 ก.ค.) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Rangsiman Rome – รังสิมันต์ โรม เรื่องการจัดสรรวัคซีนที่ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยข้อความทั้งหมดมีดังนี้

[หมอด่านหน้ายังไม่ได้เข็มสาม ประชาชนยังไม่ได้เข็มแรก แต่ตำรวจคุมม็อบจะได้ก่อนใครเพื่อน]

ท่ามกลางความสับสนอลหม่านของการบริหารจัดการวัคซีนที่ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล ประชาชนจำนวนมากยังไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว เห็นได้จากวันนี้พอมีข่าวว่าจะยุบศูนย์ฉีดที่บางซื่อ ปรากฏว่ามีประชาชนแห่แหนมารอเข้ารับการฉีดจนแออัดเบียดเสียดกันไปหมด (สะท้อนทั้งการที่ยังมีประชาชนไม่ได้ฉีดจำนวนมาก และการจัดการที่ย่ำแย่ที่ไม่ยอมกระจายศูนย์ตรวจตั้งแต่แรก)

ส่วนแพทย์และพยาบาลด่านหน้าแม้จะได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้ว แต่ก็ไม่มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับความเสี่ยงที่ต้องเผชิญกับเชื้อกลายพันธุ์ บางรายต้องเสียชีวิตแม้ได้รับวัคซีนครบก็มีมาแล้ว สิ่งที่จะช่วยเป็นประกันแก่ชีวิตของพวกเขาได้ก็คือการได้ฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยวัคซีนที่มีคุณภาพ

ทว่าที่ผ่านมารัฐบาลนี้ไม่เคยประพฤติตนให้เป็นที่ไว้วางใจได้เลยว่าจะจัดกระจายวัคซีนอย่างไม่มีลับลมคมใน ยกตัวอย่างเว็บไซต์ระบบตรวจสอบการกระจายวัคซีนที่เคยเปิดให้สาธารณะเข้าถึงได้ก็ถูกปิดตัวลง หรืออย่างกรณีวัคซีน Pfizer 1.5 ล้านโดสฟรีจากสหรัฐฯ ที่จะส่งมาวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ สังคมก็ต้องคอยส่งแรงกดดันและจับตามองอย่างไม่ลดละว่ามันจะถูกส่งให้กับบุคลากรด่านหน้าจริงๆ อย่างที่กระทรวงสาธารณสุขกล่าวอ้างหรือไม่

และถ้านั่นยังไม่น่าผิดหวังมากพอ… วันนี้ผมยังได้รับแจ้งถึงหนังสือภายในของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ที่กำลังให้หน่วยงานต่างๆ ในสังกัดจัดทำรายชื่อตำรวจเพื่อเตรียมรอรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 กันแล้ว ซึ่งในจำนวนนี้ให้รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีภารกิจในการควบคุมฝูงชนและสืบสวนในที่ชุมนุมด้วย โดยอ้างว่าตำรวจเหล่านี้เป็นเจ้าหน้าที่ด่านหน้าและมีความเสี่ยงสูง ลงนามในหนังสือโดย พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง รอง ผบช.น. ปฏิบัติราชการแทน ผบช.น.

ขอถามอีกทีนะครับ ในขณะที่ประชาชนจำนวนมากยังไม่ได้วัคซีนเข็มแรก ในขณะที่แพทย์พยาบาลด่านหน้าจำเป็นต้องได้วัคซีนเข็มสามแต่ยังไม่รู้จะได้มากพอและเร็วพอหรือไม่ ตำรวจคุมฝูงชนก็คิดจะมาเอาส่วนแบ่งกันแล้วหรือครับ ตำรวจที่ใส่หน้ากากกันแก๊สอย่างดี มีอุปกรณ์ป้องกันครบครัน ตำรวจที่เมื่อวันก่อนเห็นผู้ชุมนุมอยู่ไกลลิบๆ ก็ยิงแก๊สน้ำตาใส่แล้ว นี่หรือครับคือบุคลากรด่านหน้าความเสี่ยงสูงที่สมควรได้รับวัคซีนเข็มสามโดยเร็วที่สุด?

ผมต้องขอย้ำอีกครั้งด้วยว่าในการชุมนุมที่ผ่านๆ มานั้นถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ชุมนุมต่างก็คำนึงถึงความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 และพยายามตระเตรียมป้องกันตัวและประชาสัมพันธ์เรื่องดังกล่าวมาเป็นอย่างดี การที่ตำรวจไปใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมโดยที่ไม่มีเหตุอันได้สัดส่วน ไปฉีดน้ำ ยิงแก๊สน้ำตา สาดกระสุนยางจนผู้ชุมนุมแตกฮือ นั่นเสียอีกที่ทำให้การป้องกันที่ผู้ชุมนุมเตรียมมาเปราะบางลง และยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการระบาดมากขึ้น

หากตำรวจจัดลำดับความสำคัญให้กับการอำนวยการชุมนุมให้เป็นไปโดยราบรื่นดีแทนที่จะต้องกำราบประชาชนให้ต้องสยบยอมให้ได้ เมื่อบวกกับอุปกรณ์ป้องกันที่แน่นหนาของเจ้าหน้าที่แล้ว ความเสี่ยงที่อ้างกันมาก็คงไม่เกิดขึ้น

ทั้งหมดนี้ผมจึงต้องขอให้ ผบช.น. ในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุดของหน่วยงานเจ้าของเรื่อง ออกมาชี้แจงด้วยว่าการมีหนังสือเช่นนี้ออกมาหมายความว่าอย่างไร และขอให้มองไปยังประชาชนและแพทย์พยาบาลที่ยังรอคอยวัคซีนอยู่ด้วย

ที่ผ่านมาพวกท่านก็เป็นกลไกสำคัญในการค้ำตำแหน่งให้กับรัฐบาลชุดนี้ที่ไร้ประสิทธิภาพจนสมควรออกไปได้ตั้งนานแล้ว เป็นกลไกสำคัญในการกดทับการแสดงเจตนารมณ์ของประชาชนที่ทนไม่ไหวแล้วกับรัฐบาลชุดนี้ หากวันนี้จะมาเบียดเบียนเอาวัคซีนที่ควรมอบให้กับผู้จำเป็นต้องใช้อีก ก็คงต้องถามด้วยว่าพวกท่านจะเหยียบย่ำซ้ำเติมประชาชนกันไปถึงไหน?

รองผบช.น. แจงแค่สำรวจ

ล่าสุด พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ชี้แจงว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้สำรวจกำลังพลเจ้าหน้าที่ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนทั้ง 2 เข็ม อาจจะด้วยเหตุผลต่าง ๆ เช่น มีโรคประจำตัว หรือติดโควิด ขณะเดียวกัน ยังได้สำรวจกลุ่มตำรวจที่ปฏิบัติด่านหน้า เช่น ตำรวจจราจร ตำรวจที่เฝ้าแคมป์คนงาน และตำรวจควบคุมฝูงชน ยืนยันว่าเป็นขั้นตอนของการสำรวจเท่านั้น ยังไม่ได้มีการฉีดวัคซีนเข็ม 3 แต่อย่างใด

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า การเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียระบุว่า มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเพื่อไปปราบม็อบ ไม่เป็นความจริง และสร้างความเสื่อมเสียให้ตำรวจนครบาล ทางตำรวจกำลังพิจารณาว่าจะดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่ข่าวปลอมหรือไม่ด้วย