เรืองไกร ของขึ้น ร้อง กกต. ฟัน “ยุทธพงศ์” พ่วง กก.บห.เพื่อไทย พ้นตำแหน่ง

“เรืองไกร” เดือด ยื่น กกต.ฟัน “โจ้” ยุทธพงศ์-กก.บห.เพื่อไทย ฐานแถลงข่าวบิดเบือนปมซื้อรถหรู 5 ล้าน ทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง ข้อบังคับพรรค ตัดสิทธิ์ 5 ปี

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กล่าวว่า หลังจากติดตามการแถลงข่าวของนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และมีการโพสต์ลงในเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา กล่าวว่า ตนนำเงินสด 5 ล้านบาท ไปซื้อเบนซ์หรูนั้น ข้อความที่กล่าวอ้างเรื่องนำเงินสด 5 ล้านบาทไปซื้อรถนั้นเป็นเท็จและเป็นการบิดเบือนข้อมูล เพราะความจริงคือ ตนนำแคชเชียร์เช็คจำนวน 4.5 ล้านบาท ไปซื้อรถคันดังกล่าว

จากข้อเท็จจริงการแถลงข่าวดังกล่าว ซึ่งเป็นคลิปความยาวประมาณ 45 นาที และเหตุเกิดที่พรรคเพื่อไทย มีการลงในเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทยเผยแพร่สู่สาธารณะ ดังนั้น กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยจึงต้องรับรู้ด้วย

ดังนั้น การแถลงข่าวดังกล่าวจึงเข้าข่ายฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 22 ประกอบข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ข้อ 113 และ 114 และมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ 3 วรรคสอง และข้อ 15 ตามมา

ทั้งนี้ กรณีที่เข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรา 22 ดังกล่าว อาจทำให้กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะตามมาได้ ซึ่งเรื่องนี้ พ.ร.ป.พรรคการเมือง บัญญัติให้เป็นหน้าที่และอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมือง คือ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ที่จะต้องดำเนินการเสนอเรื่องต่อ กกต.

และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร จะเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 104 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ซึ่งมีโทษปรับและถูกศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งห้าปีตามมาด้วย หรือไม่ โดยตนจะส่งหนังสือร้องไปยังนายทะเบียนพรรคการเมืองในเช้าวันที่ 2 สิงหาคมนี้ ทางไปรษณีย์ EMS


นายเรืองไกรกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ รายการ Wake up Thailand ของ Voice TV ยังได้นำคลิปดังกล่าวไปตัดต่อและเผยแพร่เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตนจนทำให้ตนถูกดูหมิ่นเกลียดชังด้วยถ้อยคำต่าง ๆ มากมาย จึงเป็นข้อเท็จจริงที่เพียงพอที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไปหลายฉบับ ทั้งสมาชิกและกรรมการของพรรคเพื่อไทย รวมทั้ง กรรมการ บรรณาธิการ และพิธีกร ของ Voice TV ด้วย