เคยชุมนุม กปปส. ขอโทษทำไม “นิพิฏฐ์” ชี้จงภูมิใจ เราเคยปกป้องบ้านเมือง

พิฏฐ์ อินทรสมบัติ
PRACHACHAT/Illustration/Bhattarada Manee

นิพิฏฐ์ ไม่เข้าใจ “ไฮโซลูกนัท” ขอโทษทำไม เคยชุมนุม กปปส.  ชี้อย่าน้อยใจการกระทำในอดีตเลย จงหันไปดูด้วยความภูมิใจ เรานี่แหละเคยปกป้องบ้านเมือง

วันที่ 2 สิงหาคม 2564 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อเขียน เรื่อง ผมภูมิใจในสิ่งที่ทำและไม่ขอโทษใคร ระบุว่า ได้เห็นข่าวบางคนออกมาขอโทษที่เคยชุมนุมกับ กปปส. บางคนไปไกลถึงขนาดถอดเสื้อ กปปส. แล้ว มาใส่เสื้อแดง และบางคนไกลไปถึงขนาด ใส่เสื้อที่มีคำว่า “ไพร่” ที่หน้าอก ออกมาชุมร่วมกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา

“ที่ผมตกใจ คือ ไฮโซลูกนัท ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ถึงกับยกมือไหว้ขอโทษณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และณัฐวุฒิ รับไหว้พร้อมยิ้มที่มุมปาก”

ผมอยากเตือนว่า การกระทำของหลายคนในอดีต หากท่านคิดว่า การออกมาคัดค้านการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมล้างการทุจริต เป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้ว มาวันนี้ การกระทำที่ถูกต้องของท่านในวันนั้น มันก็ไม่ได้กลายเป็นความผิดขึ้นมาหรอก จะฟูมฟายเสียใจ ยกมือไหว้ณัฐวุฒิ ทำไม ?

หากทำเช่นนั้นเท่ากับยอมรับว่า การกระทำของณัฐวุฒิ ในอดีตเป็นสิ่งที่ถูกต้องสิ ถ้าคิดอย่างนั้น ผมจะแนะนำให้ลูกนัท นำพวงหรีด ไปวางที่ศาลฎีกา ที่ตัดสินจำคุกคุณทักษิณ และจำคุกณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เสียด้วย การกระทำของลูกนัท จึงจะสมบูรณ์ และลูกนัทสามารถใส่เสื้อแดงและทำกิจกรรมร่วมกับคนเสื้อแดงได้อย่างสนิทใจ

นายนิพิฏฐ์ ระบุต่อว่า ผมเห็นเด็ก ๆ คนรุ่นใหม่ สับสนกับเหตุการณ์ในอดีตกันเยอะ มองทุกอย่างเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” การชุมนุมในอดีตมันแยกเป็นส่วน ๆ ได้หลายตอน หลายคนก็ชุมนุมในบางเรื่อง แต่ไม่ร่วมชุมนุมในบางเรื่อง ดารา นักร้อง ก็ร่วมชุมนุมเยอะแยะ เพราะเขาแยกส่วน แยกวันเวลา ในการชุมนุมออกจากกัน

“อย่างผมและพรรคประชาธิปัตย์เราก็ชุมนุมคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ และ การออกกฎหมายนิรโทษกรรม พอ 2 เรื่องนี้ชนะ เราก็กลับเข้าพรรค แต่มีบางส่วนไปต่อเขาก็ลาออกจากพรรค ตั้งกลุ่มกปปส.ขึ้นมา ก็เป็นเรื่องของเขา ห้ามเขาไม่ได้ ไฮโซลูกนัท ผมไม่รู้จักหรอก เขาเป็นคนรุ่นใหม่ เคยสมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ แต่พอแพ้เลือกตั้งเขาก็ออกจากพรรคไป ผมเข้าใจ และเห็นใจเขา”

อย่าน้อยใจการกระทำในอดีตเลย แต่จงหันไปดูด้วยความภูมิใจดีกว่า ว่าเรานี่แหละเคยปกป้องบ้านเมือง ผมอยากจะเปรียบเทียบว่า ลูกนัท ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย กับผม เราก็เหมือนนักกีฬาวิ่งผลัด 4×100 นั่นแหละ ลูกนัทวิ่งไม้ 1 ผมวิ่งไม้ 2 กปปส. (ไม่ใช่ประชาธิปัตย์นะ) วิ่งไม้ 3 แล้ว กปปส. (ไม่ใช่ประชาธิปัตย์นะ) ส่งไม้ 4 ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

แต่ พล.อ.ประยุทธ์ แทนที่จะวิ่งเข้าเส้นชัย กลับหลงมุม วิ่งสวนทางกลับมายังจุดเริ่มต้นใหม่ อันนี้ ไม่ใช่ความผิดของลูกนัทหรอก ลูกนัทวิ่งได้ดีแล้ว เรารับผิดชอบเพียงไม้ 1 และ ไม้ 2 เท่านั้น นอกจากนั้นเกินความคาดหมายของเรา หรือ หากผมจะเปรียบเทียบว่า ไม้ 4 วิ่งเข้าเส้นชัยจริง แต่ปรากฏว่าไปกินยาโด๊ปมา ทั้งทีมถูกปรับแพ้ จะมาโทษเราได้อย่างไร เราจะรู้ได้ไงว่าไม้ 4 ไปกินยาโด๊ปมา

“ผมอยากให้ทุกคนเข้มแข็ง มองทุกอย่างตามความจริงของสถานการณ์ในเวลานั้น นี่ถ้าปรากฏว่า การชุมนุมของกลุ่มณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มีคนติดเชื้อโควิด ทำให้มีการระบาดใหญ่ใน กทม.คนบาดเจ็บล้มตายจากการชุมนุม ลูกนัท ไม่ต้องไปยกมือไหว้ขอโทษหมอกับพยาบาลอีกหรือที่เชียร์การชุมนุมของณัฐวุฒิ- ถ้าลูกนัท ไม่หนักแน่นพอ”

“ผมว่า ชีวิตลูกนัท ก็ไม่เป็นสุขหรอก วัน ๆ ได้แต่ยกมือไหว้ขอโทษคนนั้น คนนี้ ไม่เป็นอันต้องทำการทำงานอะไรกันพอดี ผมนี่ไม่ขอโทษใครหรอกแต่ผมกลับภูมิใจในการกระทำของผมในอดีตเสียด้วยซ้ำ ใครจะยกมือไหว้ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็เชิญตามสบายเถอะ แต่มือผมหนักยกไม่ขึ้นหากจะให้ผมไหว้ ก็คงตัดแขนผมไปทั้ง 2 แขนล่ะ”

นายนิพิฏฐ์ ระบุทิ้งท้ายว่า การเขียนแสดงความคิดเห็นครั้งนี้ เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์แต่อย่างใด