เพื่อไทย อดทนทำงานกับก้าวไกล ยันไม่ตีเช็คเปล่า 1.6 หมื่นล้าน ให้รัฐบาล

ประเสริฐ เลขาเพื่อไทย ออกโรงโต้ก้าวไกล ปมถูกกล่าวหา โหวตงบฯปี’65 จำนวน 1.6 หมื่นล้าน เข้างบฯกลาง ตีเช็คเปล่าให้รัฐบาล ชี้ พรรคมีความอดทนอดกลั้นมาตลอดในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ภูมิธรรม สอน มีกันไม่มากร่วมมือกันจะเป็นประโยชน์กว่า อย่าให้ร้ายกันโดยไม่จำเป็น 

วันที่ 3 สิงหาคม 2564 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 กล่าวถึงกรณี กมธ.ในส่วนพรรคเพื่อไทย ร่วมลงมติให้นำเงินงบประมาณที่ปรับลดจำนวน 16,362 ล้านบาทไปไว้ที่งบฯกลาง 

ภายหลังถูกโจมตีอย่างหนักจากพรรคก้าวไกล ว่าเป็นการอนุมัติเช็คเปล่าให้รัฐบาลนำไปใช้จ่าย ว่า สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และสร้างผลกระทบกับประชาชนอย่างหนัก กมธ.งบประมาณส่วนใหญ่จึงมีความเห็นตรงกันว่า การขอเพิ่มงบประมาณ ตามที่คณะรัฐมนตรีเสนอมานั้นควรนำมาตั้งไว้ในส่วนของงบฯกลาง ซึ่งมีวัตถุประสงค์ชัดเจนว่า เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ไขปัญหาและเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนสูงสุด


นายประเสริฐกล่าวว่า  นอกจากนี้รัฐธรรมนูญมาตรา 144 กำหนดว่า ในการพิจารณางบประมาณ การเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำใด ๆ ของ กมธ. มีส่วนไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย จะกระทำมิได้ 

โดย กมธ.งบประมาณในส่วนของพรรคเพื่อไทย เห็นตรงกับผู้อำนวยการสำนักงบประมาณในข้อวิตกกังวลนี้ และเห็นว่าการนำงบประมาณส่วนนี้ไปไว้ในงบฯกลาง จะตัดข้อสงสัยว่า ส.ส.หรือ กมธ.งบประมาณ มีส่วนร่วมในการใช้งบประมาณไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม 

ดังนั้น การตัดสินใจของ กมธ.งบประมาณในส่วนของพรรคเพื่อไทย ไม่เกี่ยวกับสถานภาพ หรือการยอมรับในตัวนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลชุดนี้ ที่พรรคเพื่อไทยเห็นว่าไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน และกำลังจะยื่นญัตติเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจในเร็ววันนี้

“ไม่ใช่เรื่องการกลัวจนเกินเหตุเหมือนที่ กมธ.งบประมาณในส่วนของพรรคก้าวไกลกล่าวอ้าง แต่พรรคเพื่อไทยซึ่งผ่านการรัฐประหาร ผ่านการยุบพรรคและผ่านการต่อสู้ทางการเมืองมามากว่า 20 ปี ให้เกียรติ ส.ส. ในการตัดสินใจประเมินความเสี่ยงทางการเมือง” นายประเสริฐกล่าว

นายประเสริฐกล่าวอีกว่า กมธ.งบประมาณในส่วนของพรรคเพื่อไทย ได้ตั้งข้อสังเกตในการใช้งบกลางก้อนนี้ที่จะต้องใช้ตรงตามวัตถุประสงค์ คือเป็นการใช้สำหรับการแก้ไขปัญหา เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 

โดยพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดินอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นงบฯกลาง หรือ งบประมาณรายจ่ายด้านอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ โดยนายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร อยู่จะติดตามตรวจสอบอย่างเข้มข้น  

“พรรคเพื่อไทยขอเรียนให้พี่น้องประชาชนทราบว่า พรรคมีความอดทนอดกลั้นมาตลอดในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ที่ต้องการรักษาเอกภาพและบรรยากาศทำงานร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้านไว้ให้ดีที่สุด ความคิดเห็นที่แตกต่างกันในกระบวนการทำงานเป็นสิทธิและความเห็นที่พรรคให้เกียรติพรรคร่วมฝ่ายค้านมาโดยตลอด” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว

นายประเสริฐยังกล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการไม่พูดข้อเท็จจริงให้รอบด้าน การพูดในที่ประชุมอย่างหนึ่งแล้วสื่อสารในโซเชียลมีเดียอีกอย่างหนึ่ง เป็นการสร้างความสับสน สร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน อาจส่งผลต่อความหวังของพี่น้องประชาชนที่ต้องการเห็นพรรคร่วมฝ่ายค้านทำงานร่วมกัน เพื่อยุติการสืบทอดอำนาจของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สำเร็จ 

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การแสดงความเห็นวิจารณ์การตัดคืนงบประมาณไปสู่งบฯกลาง เพื่อให้รัฐบาลหรือผู้มีอำนาจหน้าที่ไปใช้ เพื่อแก้ “วิกฤตโควิต” ที่กำลังรุนแรง กลับถูกมองด้วยความแคลงใจจากบางส่วน อยากเสนออีกแง่มุมมองให้พิจารณา มากกว่าโยนข้อหา กล่าวหาให้ร้ายกัน เพราะจะเป็นการบั่นทอนการทำงานร่วมกันโดยไม่จำเป็น

วิกฤตที่สุดวันนี้คือวิกฤตโควิด-19 ชีวิตและความทุกข์ประชาชนวันนี้สุดจะกล่าว การเสนอรวมทรัพยากรไปให้ผู้มีหน้าที่แก้ปัญหาให้ประชาชน มิใช่เรื่องผิด ถ้ามีปัญหาเราคงต้องมาเล่นงานคนที่บกพร่องกันอีกครั้ง ไม่อยากให้เอา “การเมือง” มาใช้จน เป็นอุปสรรคที่ขวางความพยายามช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้ประชาชน

“ขอเสนอข้อคิดให้ผู้หวังดีต่อบ้านเมือง มีกันไม่มากนักพยายามสงวนข้อแตกต่างและร่วมมือกันให้มากขึ้น น่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่า … อย่าให้ความยึดมั่นของตน เป็นอุปสรรค ทำลายความร่วมมือกันของภาคประชาชนเลย เพราะหนทางข้างหน้า ยังอีกยาวไกล ผมคิดอย่างนี้จริง ๆ” นายภูมิธรรมระบุ