ปรับ ครม.ปลดหน่วยรบพิเศษ “สมคิด” เพิ่มโควตาพลเรือนมืออาชีพ

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 เสียงสั่งลาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ช่วงท้ายของการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนเดินทางประชุมเอเปก-อาเซียนซัมมิต ระหว่างวันที่ 10-15 พฤศจิกายน ทิ้งช่วงเวลาให้รัฐมนตรีประเมินผลงานตัวเอง-ทำใจ

วันที่ 15 พฤศจิกายน เวลา 11.00 น. พลันที่ “พล.อ.ประยุทธ์” เดินทางกลับมาประจำการทำเนียบรัฐบาล-ซุ่มอยู่บนตึกไทยคู่ฟ้า งดภารกิจทั้งหมด ทำให้สัญญาณการปรับ ครม.ประยุทธ์ 5 งวดเข้ามาทุกขณะ

ก่อนจะเรียกประชุมคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา-คณะเล็ก เพื่อหารือมาตรการแก้ไขปัญหาการศึกษา-พิจารณาร่างกฎหมายกองทุนเรียนฟรีให้กับเด็กยากจน เป็นวาระจร-เร่งด่วน รวมถึงเรียก พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กำกับกระทรวงศึกษาธิการ และ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าหารือทั้งเรื่องการปฏิรูป-ทิศทางการศึกษาไทย

วันรุ่งขึ้น 16 พฤศจิกายน พล.อ.ประยุทธ์ได้ “ยกเลิก” กำหนดการนอกทำเนียบ ทั้งหมด 2 วันเต็มที่ พล.อ.ประยุทธ์ใช้เวลาสมาธิจัดทัพ-จัดโผรัฐมนตรีทั้งสายนายพล-พลเรือน

ข่าวแรง “พล.อ.ประยุทธ์” นำรายชื่อ ครม.ประยุทธ์ 5 ทูลเกล้าทูลกระหม่อมเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยแล้วตั้งแต่วันที่พล.อ.ประยุทธ์กลับจากการประชุมเอเปก-อาเซียนซัมมิต

ฉะนั้นโผ ครม.ประยุทธ์ 5 จึง “นิ่ง-สะเด็ดน้ำ” ตั้งแต่วันที่ พล.อ.ประยุทธ์เข้าประจำการภายในทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ในเวลา 11.00 น. ภายหลังกลับจากการประชุมอาเซียน ซัมมิตในช่วง 2.15 น.วันเดียวกัน

ทุกสายตาจึงเฝ้ารอเห็น “โฉมหน้า” ครม.ประยุทธ์ 5 ด้วยใจระทึก !

เฉพาะอย่างยิ่ง ทีมเศรษฐกิจ ที่กุมเบ็ดเสร็จอยู่ในมือ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” คาดกันว่า จะรวบรวมมืออาชีพเข้าสู่ห้องครม.เพิ่มขึ้น ทั้งชื่อ รมว.เกษตรฯ,ท่องเที่ยว, พลังงาน เป็นการ “เพิ่มทีม” ให้ “สมคิด” โดยตรง

ส่วนสายความมั่นคงหัวใจอยู่ที่ “สองพี่เลิฟ” แห่งบูรพาพยัคฆ์ ทั้ง “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ทว่าช่วง “โค้งสุดท้าย” เก้าอี้ “พล.อ.ประวิตร” พี่ใหญ่ กลับมาสั่นคลอนอีกครั้งว่า จะ “หลุด” ทั้งเก้าอี้รองนายกฯ-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สัญญาณผิดจังหวะ เมื่อ พล.อ.ประวิตรมอบหมายให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี

อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 3/2560 ที่จังหวัดสงขลา และการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดปัตตานี ระหว่างวันที่ 27-28 พฤศจิกายนแทน

มีข่าวว่า “พล.อ.ประวิตร” เดินทางไป ต่างประเทศกะทันหัน-ภารกิจลับ ทั้ง ๆ ที่ในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ยัง “ต่อคำ” กับผู้สื่อข่าวถึงข่าวการปรับ ครม.ประยุทธ์ 5 ว่า “ยังไหว”

แน่นอนว่ากระทรวงแรงงานที่ “ว่างลง” ต้องหาแม่ทัพมากุมบังเหียน โดยมีชื่อของ “พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ “พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล” อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นแคนดิเดต

กระทรวงที่มีข่าว “เด้งรายวัน” คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ของ “พล.อ.ฉัตรชัย” รัฐมนตรีว่าการ ล่าสุด “เขย่าแรง” ถึงขั้น “ถูกแขวน” ให้ไปเป็นรองนายกรัฐมนตรี

แม้กระทั่ง “ลดเกรด” นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แทน “พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์” เพื่อนรัก พล.อ.ประยุทธ์ทั้งคู่

นอกจากนี้ยังมีชื่อ “ยุคล ลิ้มแหลมทอง”  อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ มีชื่อเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรีพลเรือนที่ทีมสมคิดต่อสายชักชวนเข้าสู่วงการ

รวมถึง “ลักษณ์ วจนานวัช” อดีตผู้จัดการ ธ.ก.ส.มาช่วยงาน-รับตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ ร่วมภารกิจดึงเงินลงสู่หมู่บ้าน

ขณะเดียวกันดัน “น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร” รัฐมนตรีช่วยว่าการ ข้ามกระทรวงไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แทน “นางอภิรดี ตันตราภรณ์” ขณะมีชื่อติดโผขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการ น.ส.ชุติมายังอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจที่ประเทศเยอรมนี

อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการ “โค่น” เก้าอี้ “พล.อ.ฉัตรชัย” มีทั้งม็อบเสียงหนุน-เสียงค้านให้ออกจากตำแหน่ง จนหัวบันไดกระทรวงเกษตรฯไม่แห้ง ถึงขั้น พล.อ.ฉัตรชัย หลั่งน้ำตาพร้อมกับสั่งเสีย “ผมนอนตายตาหลับแล้ว”

โดยหน้าห้องรัฐมนตรี-พล.อ.ฉัตรชัย เริ่มมีความเคลื่อนไหวการเก็บของเพื่อย้ายสถานที่ทำงานใหม่กันแล้ว ขณะที่นางชุติมา รมช. กลับมีความเป็นไปได้สูงที่จะ “เลื่อนชั้น” ไปเป็น รมว.พาณิชย์

ขณะที่ “มาแรง” แซงทุกเก้าอี้อย่าง “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่มีข่าว “เซ็นใบลาออก” วางไว้บนโต๊ะแล้ว เพื่อมารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แทน “พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว” โดยขณะนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ อยู่ระหว่างเดินทางไปราชการที่สหรัฐอเมริกาในระหว่างวันที่ 13-19 พฤศจิกายน

การลาออกจึงเป็นการทิ้งเก้าอี้เบอร์ 1 สีกากีก่อนเกษียณ 3 ปี (เกษียณปี”63) เพื่อแลกกับเก้าอี้รัฐมนตรี หรือเพื่อทำตามสัญญาใจที่ให้ไว้กับ พล.อ.ประวิตร ภายหลังผงาดเป็น ผบ.ตร.

รัฐมนตรี “ทีมเศรษฐกิจ” ของ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี อาศัย “ท่องคาถา” สงบสยบความเคลื่อนไหว ก้มหน้าก้มตาทำงานและช่วงโค้งสุดท้ายภาษากาย-สะท้อนคล้ายได้สัญญาณ จำนวนเก้าอี้รัฐมนตรีพลเรือนมาเสริมทัพขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ทว่าระหว่างทางในทำเนียบ มีเสียงสนทนาพรายกระซิบ ลอยลมไร้น้ำหนักทำนองว่า “สมคิด” อาจจะเล่นบท “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” ดันนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์-เพื่อนรักโยกคุมกระทรวงคมนาคม

สวนทางกับเสียงจากกระทรวงการคลังว่า “อภิศักดิ์” อยากเสริมรัฐมนตรีช่วยว่าการอีกตำแหน่ง เพื่อเร่งรัดงานด่วน-เคลื่อนงานโหลดขณะนี้

สำหรับกระทรวงพลังงาน นอกจากชื่อ “อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม” อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน ที่มีชื่อ “ติดโผ” ตั้งแต่แรกลาออกจากบอร์ดการบินไทย แทน “พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์” รัฐมนตรีว่าการแล้วยังมาพร้อมกับมีชื่อ “พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ” ที่ลาออกจากประธานบอร์ดรฟม. ซึ่งความเคลื่อนไหวสุดท้าย-ชี้ขาดว่าจะเข้ามารับเก้าอี้รัฐมนตรีนายพลอีกคนหรือไม่ คือ การลาออกจากการเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

นอกจากนี้ยังมีชื่อ “ไพรินทร์ ชูโชติถาวร” อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันเป็นกรรมการในคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีชื่อ “อรรชกา สีบุญเรือง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโยกมาแทน นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร

ขณะที่รัฐมนตรีที่มี “ข่าวลวง” ว่ามีการ “เก็บของ” เตรียมโบกมือลาออกมาจากตำแหน่ง ได้แก่ “พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย” รองนายกฯ อาจหลุดจากตำแหน่ง ยังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ซึ่งหากปรับออกจริง เก้าอี้รองนายกฯ จะว่างอีก 1 ตำแหน่ง

“ออมสิน ชีวะพฤกษ์” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลุดออกจากตำแหน่งก็ยังทำหน้าที่ปกติ โดยมี “จิรชัย มูลทองโร่ย” อดีตปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี “มือปิดบัญชี” โครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาลยิ่งลักษณ์คั่วเก้าอี้

แม้ “จิรชัย” จะเคยออกมาลั่นวาจาในช่วงได้รับตำแหน่งปลัดสำนักนายกฯว่า “ผมพอแล้ว” ทว่าหลังจากเกษียณอายุราชการ ก็ได้รับตำแหน่งต่อในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปสื่อ

ด้านกระทรวงศึกษาธิการ “วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์” อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงและสมาชิก สนช. มีชื่อเป็นรัฐมนตรีว่าการ แทน นายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์

ขณะที่ “โผลับ” ของตึกไทยคู่ฟ้า ที่ทีมนายกรัฐมนตรี “หมายตา-ไว้ใจ” ให้เข้าประจำการตำแหน่งใหญ่อีกราย คือ “ประสาร ไตรรัตน์วรกุล” อดีต “ผู้ว่าการแบงก์ชาติ” ที่อาจ “เข้าป้าย” อย่างเงียบ ๆ

กระทรวงยุติธรรมของ “สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ” ที่มีชื่อ “ติดโผ” ทว่ากลับเงียบหายในช่วงโค้งสุดท้าย ครม.ประยุทธ์ 5 แต่งตัวเสริมทีมพลเรือนมืออาชีพสายเศรษฐกิจ เรียกคะแนนนิยมโค้งสุดท้าย