บก.ลายจุดวอน ตำรวจ-ผู้ชุมนุม ช่วยกันเบรก สกัดความรุนแรงในม็อบ

บก.ลายจุด ถอดบทเรียนเหตุปะทะการชุมนุม

บก.ลายจุดเผย ในม็อบมีกลุ่มคนปริศนาอยู่ในแนวปะทะ ควบคุมไม่ได้ ยันไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยกับความรุนแรง วอนฝั่งตำรวจปฏิบัติตามหลักการ ทั้งสองฝ่ายต้องช่วยกันเบรกจากฝั่งตัวเอง

วันที่ 18 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีกระแสการชุมนุมที่ผ่านมา ซึ่งเกิดเหตุปะทะระหว่างผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ล่าสุด นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด แกนนำกลุ่มคาร์ม็อบ ให้สัมภาษณ์ในรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางช่อง MCOT HD โดยระบุว่า เป็นสถานการณ์ที่สะสมมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ต่างฝ่ายต่างใช้ความรู้สึกต่อกัน

บก.ลายจุดกล่าวว่า ฝั่ง คฝ.กระทำภายใต้ความรู้สึก แม้จะมีกฎหมายหรือเครื่องมือ แต่การปฏิบัติงานเต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกสูงมาก จึงอยากฝากถึงผู้บังคับบัญชาให้ช่วยควบคุม คฝ.ให้ยึดหลักปฏิบัติตามหลักการ ขณะที่ฝั่งผู้ชุมนุม เท่าที่ได้คุยกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มองว่ามีกลุ่มหนึ่งที่ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร เป็นกลุ่มคนจำนวน 30-50 คน ที่อยู่ในแนวปะทะ และยังจำแนกได้ไม่ชัดว่าเป็นใคร

“สิ่งที่เป็นแนวทางที่กระทำได้ คือกันมวลชนขนาดใหญ่ไม่ให้เข้าไปเติมในขณะเกิดเหตุปะทะ และพยายามแยกมวลชนที่เป็นผู้ร่วมสังเกตการณ์ออกจากพื้นที่ให้ได้ก่อนเวลามืดค่ำ เพื่อลดความเสียหายหรือโอกาสขยายการปะทะ” บก.ลายจุดกล่าวและว่า

เมื่อไม่มีมวลชน ตำรวจจะได้ไม่ต้องเข้าไปในเขตชุมชน สังเกตว่าหลายครั้งที่ดินแดง การเคลื่อนของ คฝ.เข้าไปในพื้นที่ชุมชน ถึงขนาดจะเข้าไปในบ้านคนเลยทีเดียว เลยเกิดความขัดแย้งระหว่างชุมชนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ” บก.ลายจุดกล่าว พร้อมยอมรับด้วยว่า ปัญหานี้ยังหาทางแก้ไขไม่ได้

ต่อคำถามที่ว่า กลุ่มคนจำนวน 30-50 คน ทราบหรือไม่ว่าเป็นใคร มาจากสถาบันไหน บก.ลายจุดตอบว่า ไม่ทราบ แต่เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มอาชีวะที่คาดว่าเป็นกลุ่มใหญ่ ได้โทรศัพท์ประสานงานกัน และทางเราได้ขอร้องไม่ให้มีการปะทะ คิดว่ากลุ่มอาชีวะที่เป็นกลุ่มใหญ่เข้าใจแนวทางที่เสนอและให้ความร่วมมือดี แต่สำหรับกลุ่มที่อยู่ด้านหน้ายังไม่ทราบว่าเป็นใคร

พิธีกรถามอีกว่า กลุ่มอาชีวะที่นายณัฐวุฒิโทร.ไป ได้ให้ข้อมูลหรือไม่ว่ากลุ่มคนที่ปะทะกับตำรวจเป็นใคร บก.ลายจุดตอบว่า ไม่ทราบ แต่เป็นไปได้ว่าจะรู้จักกัน พร้อมยืนยันว่าวันที่ 15 ส.ค.ไม่ใช่กลุ่มของ “ม่อน อาชีวะ” แต่หลังจากจะมีการพูดคุยลงรายละเอียดเรื่องนี้ต่อไป

“เราเห็นคนที่มีการแต่งกาย รวมถึงการสื่อสารที่ใช้กัน มันมีคนจำนวนหนึ่งที่สื่อสารกันเป็นกลุ่มก้อน แต่ก็เป็นไปได้ที่จะมีพวกอิสระ ตามเข้าไปสมทบ ผมไม่รู้ว่าขาประจำหรือเปล่า จริง ๆ ถ้าได้รู้จักตัวก็ดี อยากจะเข้าใจและดูว่าสิ่งที่ผลักดันอยู่เบื้องหลังมันคืออะไร และเขาคิดอะไร มันอาจจะมีคำตอบหรือหาทางออกให้กับสถานการณ์แบบนี้ได้ โดยการใช้สันติวิธี โดยไม่ต้องทำอย่างที่เราเห็นกันอยู่” บก.ลายจุดกล่าว พร้อมยกตัวอย่างเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (17 ส.ค.)

“ม็อบเมื่อวาน แรงสุดที่กลุ่มน้อง ๆ ทำ คือการสาดสี หลังจากตามมาด้วยแก๊สน้ำตา ปัญหาคือผู้ชุมนุมมองว่า อะไรคือสิ่งที่เขาแสดงออกและทำได้ คือทั้งสองฝ่ายต้องมีเส้น ค่อย ๆ ปรับเข้าหาเส้นกัน ผมเข้าใจว่าน้องเขาก็พยายามที่จะลดความแรงนั้นลง แต่ถ้าสาดสีเข้าไปใน สตช. มันเป็นเรื่องที่ฝ่ายโน้นอาจจะยอมรับไม่ได้ เราอาจจะต้องพิจารณาลดวิธีการ ถอยวิธีการออกไปอีก ไม่ใช่วิธีการแบบนั้น และดูว่ายังเกิดเหตุการณ์อีกหรือเปล่า”

เมื่อพิธีกรรายการถามว่า บก.ลายจุดเคยได้ยินหรือไม่ว่า กลุ่มที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่แถวแยกดินแดง ในจังหวะปะทะ มีการถ่ายภาพและนำภาพมาโชว์ในกลุ่ม เป็นเหมือนใบรับรองมาตรฐานว่าสอบผ่านในกลุ่ม บก.ลายจุดตอบว่า ไม่เคยได้ยิน

“ตอนนี้ผมคิดว่าฝั่งผู้ชุมนุมมีตัวหลักหลายคนพยายาม ถ้าคุณดนัย (พิธีกร) จะให้ความเป็นธรรมกับฝั่งผู้ชุมนุม มันไม่ได้แปลว่าทุกคนเห็นด้วยหรือคนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ เราจะเห็นความพยายามอย่างมากในการดึง ในการแก้ปัญหาและทำความเข้าใจเรื่องนี้จากฝั่งผู้ชุมนุม แกนนำกลุ่มน้อง ๆ พยายามจะปรับ แต่เขาก็ไม่ยอมถอย หมายความว่าให้เขาเลิกเขาทำไม่ได้หรอก เพราะจิตใจเขาต่อสู้

ทีนี้ทางฝั่งตำรวจ ฝั่ง คฝ. ผมคิดว่าผู้ใหญ่ในกรมตำรวจ จะต้องพยายามกลับเข้ามาสู่แนวหลักวิชาการให้ได้ อย่าปล่อยให้น้อง ๆ เขาอยู่ภายใต้แรงกดดันและอารมณ์ ต่างคนต่างช่วยกันเบรกจากฝั่งของตัวเองและห้ามปล่อยมือ ถ้ายังไม่บรรลุผล ห้ามปล่อยมือ”