ประยุทธ์ ปัด จัดงบปูทางอำนาจการเมือง ร่ายยาว งบกองทัพมีไว้ทำไม ?

นายกร่ายยาวเรื่องงบกองทัพ
ภาพจากเว็บไซต์ thaigov

ประยุทธ์ ปัด จัดงบปูทางทางการเมือง ร่ายยาว งบกองทัพ-ทหารมีไว้ทำไม ท้าไปหามาใครรับเงินทอน-ยืดอกถูกตรวจสอบ สั่ง อนุทิน แจง ส่วนต่างจัดซื้อวัคซีน ลั่น แก้หนี้ครัวเรือน 10 ล้านบัญชี ผ่อนรถ-ผ่อนบ้านรับอานิสงส์ ส่งสัญญาณปิดจ็อบกู้เพิ่ม 

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นประธาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ว่า

ท่านเป็นรุ่นพี่ผม หลายอย่างคิดไม่ตรงกัน อาจเป็นเพราะประสบการณ์ต่างกัน เพราะท่านเป็นแค่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ผมเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ท่านอ้างว่าผมไม่รู้เรื่องโน้น เรื่องนี้

ปัดจัดงบปูทางทางการเมือง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในการจัดทำงบประมาณ ที่ท่านบอกว่าจัดทำขาดดุล ไม่มีความก้าวหน้า ไม่มีแผนงาน ใช้เงินเพื่อปูพื้นฐานทางการเมืองอะไรทำนองนี้ ท่านรู้ดีเหลือเกิน เพราะผมไม่เคยทำแบบนี้ ไม่เคยคิดแบบนี้เลย

การจัดทำงบประมาณมี 3 รูปแบบ งบประมาณแบบขาดดุล รายได้จัดเก็บได้ต่ำกว่างบประมาณ งบประมาณแบบสมดุล และงบประมาณแบบเกินดุล การทำงบประมาณขาดดุลทุกท่านทราบดีอยู่แล้ว ถ้าใครที่เคยอยู่ในรัฐบาลมาก่อน แม้แต่ระเบียบการใช้งบกลาง งบกลางปีนี้ยอดสูงขึ้น จากงบประมาณในการแปรญัตติประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่าใช้สำหรับโควิดทั้งสิ้น ไม่ได้เพิ่มเติมเป็นพิเศษแต่ประการใด

มีหลายท่านอยากได้เงินจำนวนนี้ไป ซึ่งงบกลางเป็นการใช้จ่ายตามระเบียบของสำนักงบประมาณ มีการตรวจสอบและเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผมไม่สามารถไปชี้นิ้วอะไรได้เลย ต้องผ่านการกลั่นกรองทุกประการ ผ่านการตรวจสบทุกประการ ผมไม่อยากมีปัญหาแบบก่อนหน้านั้น ที่มีปัญหาในเรื่องทุจริต มีตัวอย่างอยู่แล้ว

“การทำงบประมาณขาดดุลยังมีอยู่ เพราะจัดเก็บรายได้น้อยกว่ารายจ่าย เพื่อขับเคลื่อนให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการใช้เงินภายในประเทศ เพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชนพออยู่ พอกิน พออาศัยอยู่ได้ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังต้องใช้งบประมาณเพื่อการลงทุนในต่างประเทศ เราหยุดไม่ได้เลย เพิ่มการใช้จ่ายภายในประเทศ เพิ่มการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจใหม่ สร้างสาธารณสุข ท่านบอกว่าไม่มีผลงานอะไรเลย ท่านคงต้องกลับไปดูใหม่ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในประเทศไทย ในมุมกว้างประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปมากขณะนี้ ซึ่งเป็นผลดีกับอนาคตทั้งสิ้น

“การดูแลสังคมในกลุ่มเปราะบาง เราเพิ่มเงินให้ แม้ไม่มากนัก ไม่เป็นที่น่าพอใจ แต่ก็เพิ่มให้แล้ว ไม่ได้น้อยไปกว่าเดิม เราคาดหวังว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะเพิ่มสูงขึ้น ช่องว่างระหว่างรายได้ของประชาชนจะลดลง เพิ่มความเสมอภาคในแต่ละกลุ่ม รัฐบาลดูทุกกลุ่ม ว่าจะให้ได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่มีอยู่ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีการเก็บรายได้น้อยลง”

ร่ายยาว งบกลาโหม-ทหารมีไว้ทำไม ?

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องงบประมาณกระทรวงกลาโหม การจัดทำงบประมาณ หลักการแรก จะต้องพิจารณาจากสัดส่วนของงบประมาณต่อวงเงินงบประมาณในแต่ละปี ปี 62 เท่ากับร้อยละ 7.57 ในอดีตที่ผ่านมาพบว่าสัดส่วนกระทรวงกลาโหมต่องบประมาณสูงสุด ในปี 53 อยู่ที่ร้อยละ 9.06 ในปี 52 ร้อยละ 8.72 ปี 51 ร้อยละ 8.61 วันนี้ ปี 62 ที่ท่านว่าสูงสุด เพียงร้อยละ 7.57 กรุณาย้อนกลับไปดูด้วย รัฐบาลไหนก็แล้วแต่ เพราะฉะนั้นไม่ได้สูงตามที่อภิปรายนอกจากนี้เมื่อเทียบกับต่างประเทศจะพบว่า งบประมาณกระทรวงกลาโหมต่อจีดีพีปี 63 ไทยอยู่ที่ร้อยละ 1.48 สิงค์โปรร้อยละ 3.02 เกาหลีใต้ร้อยละ 2.75 ผมต้องระมัดระวังการใช้จ่ายงบประมาณให้มากที่สุด

“บางอย่างหยุดไม่ได้ ต้องทำ ท่านบอกว่ามีทหารไว้ทำไม มีไว้ก็ไม่ได้รบ วันนี้ทหารทำอะไรบ้างครับ ไม่ว่าจะสถานการณ์โควิด ไม่ว่าจะน้ำท่วม ฝนแล้ง ภัยพิบัติ ดูแลแรงงานต่างด้าว การลักลอบเข้าประเทศ 13 กองกำลังอยู่ชายแดนกี่หมื่นคนครับ ที่ใต้อีกกี่หมื่นคนครับ หมุนเวียนกำลังพลจากทุกภาคลงไป หน้าที่การเป็นทหารระบุไว้รัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ชายไทยทุกคนต้องเป็นทหาร มันยากแค่ไหนครับ”

“การเป็นทหารเพื่อรับใช้ชาติ  แล้วเอาเข้ามาไม่ใช่ใช้งานอย่างเดียว ไม่ใช่เอามารบอย่างเดียว เอามาช่วยงานในทุกภารกิจของกองทัพ เรื่องป้องกันชายแดน เรื่องความมั่นคงภายใน สนับสนุนกระทรวงต่าง ๆ ป้องกันการลักลอบชนส่งสินค้าตามแนวชายแดน ช่วยเหลือภัยพิบัติ วันนี้ช่วยเหลือเรื่องโควิดเข้าไปอีก มีเงินเดือน มีเบี้ยเลี้ยงไม่ได้มากมาย แต่ต้องใช้คนจำนวนมากพอสมควรในการแก้ปัญหาโควิด”

เรื่องศักยภาพทางสงครามเป็นเรื่องสำคัญ ต้องมียุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยบ้าง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตของเขา ลูกเรา หลานเรา เป็นทหารมีความเสี่ยงตลอดเวลา และวันนี้มีอาวุธที่รุนแรงขึ้น ลูกหลานของท่าน ถ้าไม่ดูแลเขา เขาจะอยู่ให้เราไหม เขาจะไปอยู่ชายแดนให้เราหรือเปล่า จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น กองทัพก็จะพิจารณาจัดซื้อตามความจำเป็น 1 ใน 3 เพื่อทดแทนของเก่าที่หมดอายุ

“เมื่อสักครู่ท่านเอารถถังทิ้งน้ำ รถถังทิ้งน้ำนั่น 50 ปีมาแล้วนะครับ เขาถึงไปทิ้ง เพราะซ่อมไม่ไหวแล้ว เอาไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น ไปทำปะการังเทียมมั่ง อะไรมั่ง ก็ดีกว่าไปจอดทิ้งไว้เฉย ๆ ไม่ใช่ซื้อมา 10 ปีแล้วทิ้งซะที่ไหน วันนี้ที่ใช้อยู่ในกองทัพก็อายุมากก็ 40 ปี 30 ปี ซึ่งมันจะซ่อมไม่ไหวอีกต่อไป”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญคือ ทำไมเราจะต้องมีอาวุธทันสมัยไว้บ้าง ท่านอาจจะมองว่าการรบในวันนี้มันยังไม่เกิดขึ้น ท่านแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดขึ้น จากผลกระทบต่าง ๆ ตามแนวชายแดน อาจจะเริ่มจากเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ต้องประเมินไว้ เป็นแผนเผชิญเหตุไว้ล่วงหน้า ถ้ามาคิดทีหลัง ทหารก็ไม่ต้องมี อาวุธก็ไม่ต้องใช้ เราไม่รู้ว่าจะไปรบกับใคร วันหน้ารับผิดชอบด้วยแล้วกัน

วันนี้สถานการณ์ในภูมิภาคไม่ว่า ทะเลจีนใต้ ประเทศรอบบ้าน จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ท่านทราบไหมครับ ท่านคาดการณ์ได้หรือไม่ เพราะฉะนั้นนี่คือต้องวางแผนไว้ล่วงหน้า สอดประสานกับเรื่องการใช้เทคโนโลยีเพื่อลดกำลังคนลงมา ซึ่งอยู่ในแผนปฏิรูปกองทัพ

ลั่น แก้หนี้ยึดบ้าน-ยึดรถ สิบล้านบัญชี

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในเรื่องของหนี้สาธารณะส่งต่อมาหลายรัฐบาลแล้ว ผมก็มีเพิ่มขึ้นในสมัยรัฐบาลผม แต่เป็นหนี้ที่เกิดมูลค่า เช่น สาธารณูปโภคพื้นฐาน น้ำ ถนนหนทาง รถไฟ รถไฟฟ้า เราหยุดไม่ได้ ต้องมีการพัฒนา ซึ่งประชาชนทุกคนพอใจ ถ้าท่านมองว่า ไม่ต้องทำก็ได้ กู้มาแจกให้ประชาชนอย่างเดียวดีกว่าไหม ผมว่าไม่ใช่ เพราะฉะนั้นท่านก็คงอยู่แค่นี้ท่านบอกว่าผมไม่รู้กฎหมาย ผมไม่จำเป็นต้องรู้ทั้งหมด แต่ผมรู้ว่าจะบังคับใช้กฎหมายได้อย่างไร โดยใช้คนที่ทำหน้าที่ตรงนี้ให้อิสระและเสรีในการตัดสินใจ ในการเสนอข้อพิจารณา

ผมฟังทุกคน ในการแต่งตั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผมให้ ผบ.ตร.พิจารณาร่วมกับคณะกรรมการขึ้นมา ผมคิดว่าผมทำได้ดีกว่าสมัยก่อนมากเหมือนกันนะ ลองไปดู ที่ท่านพูดมาทั้งหมด ก็เป็นปัญหาที่ท่านเจอมาแล้วทั้งสิ้น และท่านก็ไม่ได้แก้ วันนี้ผมแก้ไปหลายอย่าง

หนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หนี้ครัวเรือน หนี้ยึดบ้าน ผ่อนรถ ผมอยู่ระหว่างกระบวนการแก้ปัญหาของคณะกรรมการแก้หนี้ แล้วคอยดู ประชาชนจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้เท่าไหร่ หลายสิบล้านบัญชี เราต้องทำอย่างไรให้หนี้เก่ามันหยุดไป แล้วหนี้ใหม่อาจจะต้องเกิดขึ้น เพื่อจะทำให้ทุกคนชำระหนี้ได้ ไม่งั้นก็ไม่ชำระหนี้ เกิดเป็นหนี้เสีย (NPLs) ระบบธนาคารมีปัญหา เงินตั้งสำรองจ่ายเกิน กระทบต่อธุรกิจและนักลงทุน

“กรณีที่กล่าวว่า ที่มีมาตรการต่าง ๆ ออกมาเพื่อให้คนรัก ให้ผมเป็นนายกฯต่อ คงไม่ใช่ ผมจะอยู่ต่อหรือไม่อยู่ต่ออยู่ที่กระบวนการประชาธิปไตยสภาก็ว่ากันไป ผมไม่สามารถที่จะไปหลอกล่อใครได้ วันนี้ประชาชนเปิดหูเปิดตามากขึ้นแล้ว”

ควานหาคนบงการม็อบป่วน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปัญหาการทุจริตก็เช่นกัน ผมประกาศไปแล้ว ถ้าท่านมองตัวเลขการดำเนินคดี วันนี้มีการถูกดำเนินคดีทั้งข้าราชการระดับสูง ระดับกลาง ระดับล่าง ไล่ออก ปลดออก มีคดีจำนวนมาก ท่านบอกว่าวันนี้มีมาก สมัยก่อนก็มีมากกว่านี้ แต่ไม่ถูกดำเนินคดี ลองไปเปรียบเทียบดู วันนี้มีใครถูกดำเนินคดี ระดับอธิบดี ถูกดำเนินคดีติดคุกตลอดชีวิต มีไหมครับสมัยก่อนที่ผ่านมา หรือสมัยก่อนมี แต่หนีคดี วันนี้มีไหมครับ คิดอย่างนี้สิครับจะได้เป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ถ้าช่วยกันจะไปได้หมด

รายได้ประเทศ คาดการณ์ว่าใน 5 ปีข้างหน้า ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ 5 ปี  เช่น การลงทุน การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ การลงทุนอีอีซี เอสอีซี การลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ กำลังดำเนินการอยู่ ตั้งแต่ต้นปีมีการลงทุนสูงขึ้น ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอมากขึ้น

“วันนี้ต้องใช้โอกาสที่บ้านเมืองเราสงบสุข มีเสรีภาพ มีความมั่นคง ไม่ใช่มีการสนับสนุนให้มีการวุ่นวาย ทุกท่านทราบดี หลายท่านทราบทั้งหมด วันนี้มีการตรวจสอบว่ามีใครทำให้เกิดบ้านเมืองเสียหาย มีทุกอย่างนะครับ ผมไม่ได้ขู่ใครทั้งสิ้น เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่จะต้องดำเนินการ ผมไปก้าวล่วงไม่ได้เลย”

รัฐบาลทำเต็มที่ ตำรวจทำเต็มที่ การบอกว่าจะไปใช้อำนาจกับประชาชน เยาวชน เด็ก แล้วมันเป็นเรื่องที่ควรจะไปกันไหมล่ะครับ วันนี้กฎหมายมีอยู่ทุกตัว ท่านบอกว่า ผมใช้อาวุธ ผมไม่เห็นตำรวจถืออาวุธจริงสักคน ท่านมองไม่ออกหรอครับว่าอันไหนอาวุธจริง อาวุธปลอม กระสุนยาง ท่านเป็นถึงผบ.ตำรวจนะครับ มีแต่ตำรวจถูกยิงอยู่ทุกวัน ทำไมมองว่าตำรวจใช้ความรุนแรง ขัดแย้งความเป็นจริง อย่าเลือกดูภาพในโซเชียล ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเอาออกมา

“ผมยืนยันว่า ไม่มีการสั่งการให้ใช้อาวุธจริงทั้งสิ้น คอยดูต่อไป ว่าใครจะเริ่มก่อน ด้วยแรงสนับสนุนจากใคร เป็นสิ่งที่รัฐบาลระมัดระวังที่สุด”

กู้เงินเท่าที่จำเป็น

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องสถานะทางการเงิน ผมยืนยันว่า ระดับประเทศดีอยู่มาก เวิร์ดแบงก์ ไอเอ็มเอฟ ประเมินความเข้มแข็งและขีดความสามารถทางการเงินการคลังอยู่ในระดับ 3 บีบวกเช่นเดิม สะท้อนให้เห็นว่าไทยยังมีความเชื่อมั่นในเวทีโลก ในเวทีสากล การจะกู้เงิน การใช้เงิน เราจะทำเท่าที่จำเป็น เท่าที่จำเป็น โดยเฉพาะสถานการณ์วิกฤตโควิด ฝากมุมมองตรงนี้ไปด้วย  เราต้องเร่งรัดการใช้จ่ายภายในประเทศ เติมมาตรการลงไป

“ผมก็เห็น 30 -40 ล้านคนได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ไป ซึ่งไม่เคยมีมาตรการไหนที่ทำให้คน 30-40 ล้านคนได้รับประโยชน์ แล้วเขาจะเลือกผมหรือเปล่าผมยังไม่รู้เลย คนที่ท่านไปเยี่ยมมาทั้งหมด ที่ประชาชนไม่พอใจ เขาก็รับเงินตรงนี้ไปทั้งสิ้น เพราะผมดูแลคนที่มีรายได้น้อยเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการค้าขายรายย่อย รายปลีก”

การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเน้นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจใหม่ ไม่ใช่เน้นการส่งออกและการท่องเที่ยว ซึ่งสถานการณ์โควิดทำให้รายได้ลดลงหมด การที่บอกว่าประชาชนเดือดร้อน ผมก็มีมาตรการทางการคลังออกมาทุกครั้ง 1 เดือน 3 เดือน มีมาตรการชะลอหนี้ ลดภาษีให้ การจัดเก็บรายได้จึงน้อยลง

“บอกว่าผมนึกไม่นึกถึงประชาชนหรอ ผมนึกถึงประชาชนทุกวัน ท่านบอกว่าผมทำงาน work from home 14 วัน เพราะคนข้างผมติดโควิด หมอสั่งให้ผมทำงานที่บ้าน อาทิตย์หนึ่งผมทำงานเกือบทุกวันที่ทำเนียบ เป็นการประชุมออนไลน์ teleconference กับหน่วยงานต่าง ๆ ได้ตลอดเวลา ติดต่อกันทางวิดีโอคอล ทางไลน์ ทุกต่อกันทุกวัน วันนี้การทำงานมันเป็นอย่างนี้ นี่คือโลกยุคใหม่แล้ว”

ท้าไปหามารัฐบาลใครรับเงินทอน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องเงินทอน ท่านไปหาว่าใครได้ ผมยืนยัน ผมยอมรับการตรวจสอบทุกชนิด อย่าบอกว่าเป็นคสช.แล้วไม่ถูกตรวจสอบ ผมถูกตรวจสอบหมด องค์กรอิสระเขาก็ตั้งเรื่องมา ผมก็สู้ไป ชี้แจงข้อเท็จจริงไป ก็ยังไม่มีเรื่องอะไรที่หนักหนาสาหัส ชี้แจงได้ก็จบ อย่าบอกว่าผมไม่ได้รับการตรวจสอบ ใช้อำนาจรัฐประหาร ท่านเข้าใจอะไรไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่

“เรื่องค่าใช้จ่ายอะไรที่ว่า ท่านบริจาคเงินมากกว่าผม ก็ดีอยู่แล้ว ขอบคุณมาก ขอบคุณนะครับ ผมก็มีแต่เงินเดือน ไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ ไม่ได้มีลูกหลานทำธุรกิจ ทำที่พัก รีสอร์ท ไม่มี ก็มีแต่เงินเดือนท่านั้นที่ใช้อยู่ และไม่เคยเรียกรับผมประโยชน์ใครทั้งสิ้น ผมสวดมนต์ทุกวัน เพราะฉะนั้นผมจะไม่ทำอะไรที่ผิด ขอให้เข้าใจได้”

ผมพูดกับท่านเพราะท่านเป็นรุ่นพี่ผม ท่านก็พูดอยู่เสมอว่า ท่านเป็นรุ่นพี่ผมเท่านั้นปี เท่านี้ปี น้องนุ่งก็เคารพอยู่ อะไรอยู่ ก็ระวังแล้วกันวันหน้าเขาจะไม่เคารพก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาคิดเป็นแล้ววันนี้ เด็กอ่ะนะ จริงๆ แล้ว ยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะพูด แต่ก็จำเป็นเพราะเป็นพี่ พี่ผม ผมก็ต้องพูดสักหน่อย ตั้งใจจะไม่พูด แต่เผอิญท่านพูดมาก่อน ท่านตำหนิน้องท่านมากไปสักนิดหนึ่งนะ ผมก็ไม่โกรธไม่เคืองท่านอยู่แล้ว เพราะผมจะให้พรรคฝ่ายค้านมาชมผมก็ไม่ได้ แต่ขอให้คำนึงถึงความจริง

ผมขอฝากประชาชนที่บ้าน ที่ได้ฟังผมอยู่ตอนนี้ ท่านดูหน้าผม ท่านฟังผม ผมพูดจากหัวใจของผม ผมพูดจากสมองที่ท่านบอกว่าน้อยนิดของผมออกมา แต่ท่านอย่าลืมว่าผมมีประสบการ 6-7 ปีมาแล้ว ตรงนี้คือความแตกต่าง ที่ผมน่าจะรู้มากกว่าท่าน ผมยืนยัน รัฐบาลทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยประชาชน และพิจารณาตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ มาโดยตลอด

“เรื่องราคาวัคซีน เรื่องการบริหาร เดี๋ยวท่านรองนายกฯ (อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข) ชี้แจงได้หมดทุกตัว ฟังด้วยแล้วกัน ถ้าไม่ใช่ไปตรวจสอบ แต่ถ้าไปพูดข้างนอกอาจจะมีปัญหา ไม่ได้ขู่ท่าน เพราะเป็นการพูดในสภา ก็ต้องระมัดระวังเหมือนกัน เพราะประชาชนเข้าใจผิด ด้วยความเคารพพี่นะครับ สวัสดีครับ”