นพ.ชลน่านอ้างพรายกระซิบ มี 3 ตน พบ “ประยุทธ์” เปลี่ยนข้อสั่งการ ซื้อ ATK  

หมอชลน่าน เพื่อไทย ขู่ฟ้อง ป.ป.ช. ศาลอาญาทุจริต ปมจัดซื้อ ATK 8.5 ล้านชุด มีพรายกระซิบ 3 ตน พบ “ประยุทธ์” เปลี่ยนข้อสั่งการ เพื่อพลิกเกมการประมูล 

วันที่ 31 สิงหาคม 2564 ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ตอนหนึ่งถึงการจัดซื้อชุดตรวจ Antigen Test Kit ATK) จำนวน 8.5 ล้านชุด ในข้อหาปฏิบัติ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต จงใจ ใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี

นพ.ชลน่านฉายภาพว่า พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน กระทำการส่อทุจริต และละเมิดข้อสังการของตนเองในการจัดซื้อชุดตรวจ (ATK) เรื่องนี้นอกจากจะสามารถดำเนินการในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว ยังสามารถดำเนินคดีโดยการฟ้องตรงไปที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้ด้วย 

เจตนา 8.5 ล้านชุด เกิดจากที่ชมรมแพทย์ชนบทอาสาเข้ากรุงช่วยตรวจโควิด-19 ตามคำร้องขอของ สปสช. เนื่องจากใน กทม.มีคอขวดในการตรวจโควิด-19  ดังนั้น กลุ่มแพทย์ชนบทจึงเขาเอาชุดตรวจ 1.1 ล้านชุด ที่ได้รับการบริจาคจากสวิตเซอร์แลนด์ และเอาจากโรงพยาบาลที่ซื้อมาช่วยตรวจ 

เพิ่มการรักษา เพิ่มการตรวจ เพื่อทำ Home Isolation สิ่งที่เขาขอรับการสนับสนุนเพิ่มจาก สปสช.คือ ชุดตรวจ 8.5 ล้านชุด เป็นชุดตรวจบุคลากรทางการแพทย์ และบุคลากรทางสาธารณสุขเพื่อนำไปใช้วินิจฉัย จะได้ไม่เป็นคอขวด เมื่อชุดตรวจ 8.5 ล้านชุด เขาจึงขอเงินไป 1,024 ล้านบาท บวกกับค่าตรวจอีกชุดละ 10 บาท จึงมีเงิน 100 ล้านบาทขอมาด้วย  

จึงมีการขอ ATK ที่เป็น Professional Use เพื่อความแม่นยำในการตรวจ และสามารถให้ประชาชนตรวจเองได้ด้วย และบอกว่าต้องการด่วนมาก จะต้องได้ในวันที่ 10 สิงหาคม เพื่อลดคอขวด ไม่ต้องตรวจ TC-PCR ดังนั้นต้องมีความแม่นยำสูง จึงกำหนดสเป็กไว้ค่อนข้างสูง 

นพ.ชลน่านกล่าวว่า กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ATK ไม่ควรเกิด เพราะ สปสช.ต้องการสเป็กแบบนี้ ต้องการตรวจเร็ว ตรวจด่วน จึงแจ้งไปที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) แต่มีการคุยกันไปมามีการเปลี่ยนลักษณะชุดตรวจที่ก้านตรวจจากก้านยาว Professional Use มาเป็นก้านสั้นแบบ Home Use ที่สำคัญเปลี่ยนความแม่นยำ

“พล.อ.ประยุทธ์สั่งการว่าต้องแม่นยำ ประสิทธิภาพสูง ความแม่นยำ วัดผลลบลวง คือ ตรวจเป็นลบ แต่เป็นบวกซ่อนอยู่  อภ.กับองค์การอาหารและยา (อย.) ไปกำหนดเอาที่ความไว ร้อยละ 90 หมายความว่าตรวจ 100 คน ในนั้นมีผลลบหมด แต่มีคนที่เป็นผลบวกอยู่ 10 คน ลองคิดง่าย ๆ 8.5 ล้านชุด ไปตรวจคน 8.5 ล้านคน จะมีผลลบลวง 8.5 แสนคน ปล่อยให้คนพวกนี้ไปแพร่เชื้อได้อย่างไร ทั้งที่ สปสช.ต้องการผลลบลวงที่ 95” นพ.ชลน่านกล่าว 

สิ่งที่ สปสช.ต้องการถูกเปลี่ยนสเป็ก เพราะบริษัทที่จะเข้าการแข่งขันมีลักษณะเป็น home use ราคาก็ถูก ถ้าคิดอย่างนี้ สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เห็นความทุกข์ยากของประชาชน ไม่มีทางตัดสินใจที่จะเลือกของที่เสี่ยงมาก จึงออกข้อสั่งการ พล.อ.ประยุทธ์ วันที่ 16 สิงหาคม กำหนดคุณสมบัติ ATK ต้องผ่านการรับรองจาก WHO และมีความแม่นยำ 

แต่ในทางปฏิบัติ ข้อสั่งการของนายกฯ ใช้อำนาจตามกฎหมายบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 11 ต้องปฏิบัติ แต่นายอนุทินเพิกเฉย ถ้าเป็นปกติ ถ้านายอนุทินเห็นเรื่องนี้เป็นประโยชน์มาก ๆ ต้องแจ้ง อภ.ถือว่าไม่มีการประมูล เนื่องจากมีเงื่อนไขการประมูลใหม่ต้องผ่าน WHO และมีความแม่นยำ แต่ไม่ทำ อนุทินปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตด้วยเช่นกัน

“แต่ พล.อ.ประยุทธ์เปลี่ยนข้อสั่งการวันที่ 20 สิงหาคม โดยแก้ไขเป็นไม่ต้องผ่าน WHO และข้อสั่งการเรื่องความแม่นยำถูกตัดออก พล.อ.ประยุทธ์กลืนน้ำลายตัวเอง เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า มีพรายกระซิบมาบอกผมว่า อะไรไม่รู้ 3 ตน เข้าไปหาท่าน เปลี่ยนข้อสั่งการทันที ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงผมขนลุก ชีวิตคนไทยเมื่อสู้กับคน 3 คน ท่านเลือกเอาผลประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ท่านทำอย่างนั้นได้อย่างไร” นพ.ชลน่าน กล่าว 

นพ.ชลน่านกล่าวว่า มีเจตนาพิเศษอย่างชัดแจ้งที่จะไปลดเงื่อนไขข้อสั่งการตนเอง ที่การประมูลล้มไปแล้ว   แต่พอแก้ไขข้อสั่งการที่ 2 ก็ไปทึกทักเองว่าประมูลต่อได้ และเมื่อ 30 สิงหาคม มีการเซ็นสัญญา ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ดังนั้น ข้อสังการที่ 2 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ 

การกระทำทรยศต่อพี่น้องประชาชน ข้อสั่งการที่ 2 เป็นเจตนาไม่สุจริต กระทำผิดต่อหน้าที่ทุจริต เราเตรียมคำร้องต่อ ป.ป.ช.ไว้เรียบร้อย ฝ่ายการเมือง ฝ่ายประจำร่วมกันทำความผิดอย่างเป็นกระบวนการ โดยแบ่งหน้าที่กันทำ ไม่รู้ว่าฝ่ายไหนจะโดนหนักกว่ากัน และจะถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแน่นอน และฟ้องตรงศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง