จุลพันธ์ อัด ประยุทธ์ ครบ 8 ปีเข้าสู่อำนาจ แก้เศรษฐกิจล้มเหลว หนี้ครัวเรือนพุ่ง 90% หนี้สาธารณะ 9 ล้านล้าน
วันที่ 1 กันยายน 2564 ที่รัฐสภา พรรคฝ่ายค้านเริ่มต้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันที่ 2 โดยพรรคเพื่อไทย ส่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายเป็นคนแรก ไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ครบรอบ 8 ปีในการ ที่ครบรอบการขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ ในวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
เป็น 8 ปีของความล้มเหลว เศรษฐกิจไทยพังพินาศ ตัวเลขจีดีพีตกต่ำต่อเนื่อง ช่วงเศรษฐกิจโลกขาขึ้น ราบรื่น ลมฝนไม่มี เรือเป๊ะลำนี้เดินหน้าแบบเชื่องช้า แต่วันที่ลมฝนกระหน่ำเกิดวิกฤตโควิด-19 เรือเป๊ะทำท่าจะจมลง เวลานี้คนไทยไร้อนาคต ตัวเลขป่วยคนเสียชีวิตเป็นตัวเลขที่น่ากลัว แต่ตัวเลขที่น่ากลัวกว่าคือจำนวนคนที่ตัดสินใจจบชีวิตเพราะพิษเศรษฐกิจ
การล็อกดาวน์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่าเดือนละ 2-3 แสนล้านบาท การล็อกดาวน์แบบไม่มีแบบแผน ไม่มีกำหนดเวลา หรือทิศทางแก้ไขปัญหา การเยียวยาเหมือนจับสลากชิงโชค รัฐบาลบอกหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น
จะใช้แบบอู่ฮั่นโมเดล ถ้าหากล็อกดาวน์ กทม. และปริมณฑลแบบอู่ฮั่น กทม.ที่เป็น 47% ของจีดีพีของประเทศ เป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน เศรษฐกิจจะเดินอย่างไร แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ สักแต่พูด แต่ไม่เข้าใจเศรษฐกิจเลย การล็อกดาวน์ ภาคธุรกิจ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม ทยอยปิดตัว
ส่วนตัวเลขว่างงานในระบบเกือบล้านคน เด็กจบใหม่หลายล้านคนหางานทำไม่ได้ ไม่แปลกใจที่ออกมาประท้วงขับไล่รัฐบาล เพราะพรากอนาคตเขาไป จึงต้องออกมาประท้วง นี่คือความล้มเหลวการบริหารเศรษฐกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ ประเทศไทยเคยเป็นเป้าหมายนักลงทุนทั่วโลก