ไม่ไว้วางใจ ประยุทธ์ เกิน 241 เสียง ครม.พ้นทั้งคณะ-มีผลทันที

ประยุทธ์

เลขาฯ ชวน-ประธานสภา เผยคะแนนลงมติไม่ไว้วางใจ-เลือกนายกฯคนใหม่ ไม่ไว้วางใจเกินครึ่ง หรือ 242 จาก ทั้งหมด 482 เสียง ประยุทธ์-ครม.ไปทั้งคณะ นายกฯ ในบัญชีพรรคการเมืองแต่งตัวเป็นนายกฯ คนใหม่ แต่ ประยุทธ์ ยังกลับมาใหม่ได้

วันที่ 4 กันยายน 2564 นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา กล่าวก่อนการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า การลงคะแนนมติไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ เป็นการลงคะแนนไม่ไว้วางใจ ดังนั้นคะแนนไม่ไว้วางใจต้องมากกว่ากึ่งหนึ่ง หรือ มากกว่า 241 ขึ้นไป (242) จากจำนวน ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้เท่าที่มีอยู่ทั้งหมดขณะนี้ 482 คน

โดยมี ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ถูกตัดสิทธ์ 11 คน และไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ 6 คน ได้แก่ ตามคำสั่งศาล คือ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร นายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี และน.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ

กรณีลงมติไม่ไว้วางใจ ถ้าเป็นรัฐมนตรีมีผลให้พ้นสภาพรัฐมนตรีเป็นการเฉพาะตัว แต่ถ้าเป็นนายกรัฐมนตรี ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 และส่งผลถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) พ้นทั้งคณะ ตามรัฐมนตรีตาม 167 เมื่อความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงส่งผลให้ ครม.พ้นทั้งคณะทันที

ขั้นตอนต่อไป คือ การเข้าสู่กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 ซึ่ง เป็นผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ในรัฐสภาตามมาตรา 272

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 88 คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์และนายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย รวมถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรคพลังประชารัฐก็ยังสามารถเสนอชื่อรับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบได้