ประยุทธ์ บี้คลัง ผู้ประกอบการหักภาษีซื้อ ATK 1.5 เท่า เติมเงินแอป “เป๋าตัง”

ศบค. ไม่ลดจังหวัดโซนสีแดงเข้ม คง เคอร์ฟิว 29 จังหวัด ไฟเขียวแผนกระจายวัคซีนเดือนตุลาคม 24 ล้านโดส เคาะ เกณฑ์ฉีดวัคซีนเด็ก 12 ปีขึ้นไป-อนุโลมเด็กเกิน 18 ปี ประยุทธ์ จี้ คลัง สนับสนุนสิทธิประโยชน์ผู้ประกอบการซื้อ ATK หักภาษีได้ 1.5 เท่า เติมเงินใส่ “เป๋าตัง” ซื้อ ATK ตรวจเอง  

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 (ศบค.) แถลงผลการประชุมศบค.ครั้งที่ 14/2564 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศบค. เป็นประธานมีมติคงมาตรการป้องกันควบคุมโรคตามระดับพื้นที่สถานการณ์ ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 32) ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564

โดยยังคงมาตรการห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ตั้งแต่เวลา 21.00 น. – 04.00 น.ของวันถัดไปในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) จำนวน 29 จังหวัด การทำงานที่บ้าน (Work from home) เพิ่มความเข้มข้นในการควบคุมตามมาตรการ COVID Free Setting มาตรการควบคุมแบบบูรณาการในการปิดสถานที่เสี่ยงต่างๆ และสื่อสารให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention 

จัดหาวัคซีนเดือนตุลาคม 24 ล้านโดส

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับแผนการให้บริการวัคซีนเดือนตุลาคม 2564 จำนวน 24 ล้านโดส จากทั้งหมดของแผนการจัดหาวัคซีนของประเทศไทยจำนวน 152.9 ล้านโดส ประกอบด้วย ซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 10 ล้านโดส ไฟเซอร์ 8 ล้านโดส

แบ่งออกเป็น กลุ่มเป้าหมาย 1.ประชาชนทั่วไป ที่มีอายุ 18 ขึ้นไปทั่วประเทศ สูตรวัคซีน ซิโนแวค+แอสตร้าเซนเนก้า ร้อยละ 70 จำนวน 16.8 ล้านโดส 2.นักเรียนที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี ทั่วประเทศ ไฟเซอร์+ไฟเซอร์ ร้อยละ 20 จำนวน 4.8 ล้านโดส 3.แรงงานในระบบประกันสังคม ซิโนแวค+แอสตร้าเซนเนก้า ร้อยละ 3 จำนวน 0.8 ล้านโดส

4.หน่วยงานอื่น ๆ เช่น องค์กรภาครัฐ ราชทัณฑ์ ซิโนแวค+แอสตร้าเซนเนก้า ร้อยละ 5 จำนวน 1.1 ล้านโดส และ 5.ผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม และต้องกระตุ้นเข็ม 3 ซิโนแวค+ซิโนแวค + แอสตร้าเซนเนก้า ร้อยละ 2 จำนวน 0.5 ล้านโดส 

ไฟเขียวเกณฑ์ฉีดเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป – อนุโลมฉีกเด็กเกิน 18 ปี  

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ยังเห็นชอบแนวทางการฉีดวัคซีนในเด็ก หรือ การให้บริการวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป กลุ่มเป้าหมาย นักเรียน/นักศึกษา ที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช./ปวส.) หรือเทียบเท่าแบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะแรก จัดวัคซีนสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 หรือ ปวช./ปวส.หรือ เทียบเท่า ระยะถัดไป จัดสรรวัคซีนสำหรับระดับชั้นอื่น ๆ ที่เหลือ 

รูปแบบการให้บริการ ให้บริการผ่านสถานบริการ ให้บริการผ่านสถานศึกษา อาทิ โรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดรัฐบาลและเอกชน สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) โรงเรียนตระเวนชายแดน สังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โรงเรียนสอนศาสนา สถาบันการศึกษาอื่น ๆ ที่มีผู้มีอายุ 12 ปี กำลังศึกษาอยู่ เช่น โรงเรียนทหาร 

ทั้งนี้ หากนักเรียน/นักศึกษาในสถาบันการศึกษาดังกล่าว มีอายุเกิน 18 ปี ให้รับวัคซีนไฟเซอร์ได้โดยอนุโลม 

ทั้งนี้ มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขจัดสรรวัคซีนในเดือนตุลาคม และให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ และให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงต่างประเทศขออนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป 

ชง หักภาษีซื้อ ATK 1.5 เท่า – เติมเงิน “เป๋าตัง”

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ขณะที่สถานการณ์การระบาดโควิด 19 ในโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีเป้าหมายในเดือนกันยายน – พฤศจิกายน 2564 แบ่งออกเป็น โรงงานอุตสาหกรรม ที่มีการใช้เครื่องจักรตั้งแต่ 50 แรงม้า หรือ ใช้คนงานตั้งแต่ 50 คน จำนวนทั้งสิ้น 70,000 โรงงาน สถานประกอบกิจการ 70,000 โรง และแคมป์แรงงานก่อสร้าง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,317 แคมป์ ที่ประชุมจึงเห็นชอบการสนับสนุนขอรับคำแนะนำ เรื่อง บับเบิ้ลแอนด์ซีล 48 % ค่าใช้จ่าย 32 % และการสนับสนุน ATK 20 % 

“ผู้อำนวยการศบค.ให้โจทย์ไปกับท่านอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของศบค. และกระทรวงสาธารณสุขที่จะเพิ่มการตรวจ ATK ของกลุ่มประชากรและกลุ่มแรงงาน เพื่อให้เดินหน้า ติดโควิดไม่ปิดประเทศ ติดโควิดไม่ปิดโรงงาน ติดโควิดไม่ปิดตลาด รมว.คลังรายงานว่ามี 2 มาตรการ หนึ่ง ผู้ประกอบการสามารถนำค่าใช้จ่ายสำหรับซื้อ ATK นำมาลดหย่อนภาษี 1.5 เท่าของค่าใช้จ่ายที่จ่ายไป และ 2.เพิ่มวงเงินในแอปเป๋าตัง ให้ประชาชนได้หาซื้อ ATK มาตรวจด้วยตัวเอง”