จุรินทร์ แจกโฉนดเกษตรกร ลั่นเลือกตั้งครั้งหน้ากวาด ส.ส. ชุมพร ครบ 3 เขต

“จุรินทร์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ควง “สราวุธ-ลูกหมี” แจกโฉนดกองทุนฟื้นฟูเกษตรกร มั่นใจ ทวงคืนภาคใต้ ลุ้นเลือกตั้งสมัยหน้ากวาดเก้าอี้ ส.ส. ชุมพร ครบ 3 เขต

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดพัทลุงเพื่อติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน พร้อมเป็นประธานพิธีมอบเช็คชำระหนี้และมอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้แก่เกษตรกรจังหวัดชุมพร ที่โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ ตำบลบางลึก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร

นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับปีนี้โครงการประกันรายได้ ย่างเข้าสู่ปีที่ 3 ซึ่งได้เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อรอการพิจารณา ประกอบด้วย ข้าว ข้าวโพด และมันสำปะหลัง ส่วนยางพารา อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน หากผ่านที่ประชุมแล้ว ก็จะได้ลงนามเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเดินหน้าได้ เพราะเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลแล้ว ส่วนปาล์มนั้น เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการจ่ายเงินงวดสุดท้ายของปี 2 ดังนั้นจึงต้องรอให้จบก่อน หลังจากนั้นจะได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป

“ขณะนี้ปาล์มถือว่ามีราคาสูงขึ้นมาก เพราะประกันรายได้ที่ กก.ละ 4 บาท แต่ ณ วันนี้ โดยเฉพาะที่ชุมพร ก็ได้สอบถาม ส.ส. สราวุธ และ ส.ส.ชุมพล ก็ตอบตรงกันกับเกษตรกรว่า วันนี้ราคาขึ้นไป กก.ละ 7.20 บาท สูงกว่ารายได้ที่ประกันไว้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี สะท้อนให้เห็นว่านโยบายกระทรวงเกษตร กระทรวงพาณิชย์ และนโยบายรัฐบาลถูกทาง ช่วยให้ราคาปาล์มดีขึ้น เกษตรกรไม่ต้องพึ่งเงินส่วนต่าง แต่ถ้าวันไหนราคาตกลงมาต่ำกว่า 4 บาท ก็จะมีเงินส่วนต่างตามนโยบายประกันรายได้เข้าไปช่วยชดเชยให้ ช่วยให้ชาวบ้านมีหลักประกันว่าอย่างน้อยปลูกปาล์มก็มีรายได้ กก.ละ 4 บาท ที่น้ำมัน 18%”

นายจุรินทร์กล่าวว่า ส่วนเรื่องกองทุนฟื้นฟูพัฒนาเกษตรกร ซึ่งเป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยรัฐบาลชวน 2 โดยนายจุรินทร์ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกในขณะนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยซื้อหนี้ที่เกษตรกรเป็นหนี้สถาบันการเงิน เพื่อให้เกษตรกรมาผ่อนชำระกับกองทุน แทนที่จะต้องไปผ่อนกับสถาบันการเงิน โดยเฉพาะกรณีที่ผ่อนกับสถาบันการเงินแล้วประสบปัญหาทำให้ถูกยึดที่ดิน และถูกฟ้องร้องดำเนินคดี แต่เมื่อโอนหนี้มาเป็นกองทุนแล้ว กองทุนจะไม่ยึดที่ดินทำกิน อีกทั้งยังมีดอกเบี้ยต่ำเพียงร้อยละ 1 ซึ่งขณะนี้เหลือร้อยละ 0 หรือไม่คิดดอกเบี้ย ก็จะช่วยให้เกษตรกรสามารถผ่อนชำระหนี้ได้คล่องตัวขึ้น เมื่อผ่อนหมดก็จะคืนโฉนดให้

นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับความพร้อมเรื่องการเตรียมการเลือกตั้งในจังหวัดชุมพรทั้ง 3 เขตนั้น กล่าวว่า ทั้ง 3 เขต ก็มั่นใจว่าการเลือกตั้งเที่ยวหน้า ไม่น่ามีปัญหาอะไร ประชาธิปัตย์ก็มีโอกาสที่จะได้รับการเลือกตั้งทั้ง 3 เขต เพราะบุคลากรของเราก็มีศักยภาพ ส.ส.เขต 1 ชุมพล จุลใส ถือว่าเป็นผู้แทนที่มีศักยภาพ เป็นที่ยอมรับของประชาชน ใกล้ชิดกับชาวบ้านมาก ลงพื้นที่สม่ำเสมอต่อเนื่อง สำหรับเขต 2 สราวุธ อ่อนละไม ทำงานในพื้นที่ดีมาก ลงพื้นที่สม่ำเสมอ ส่วนเขต 3 เราได้ตัวผู้สมัครแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผย แต่มีศักยภาพที่จะได้รับการยอมรับจากพี่น้องประชาชนต่อไป ส่วนคดีของนายชุมพล จุลใสนั้น จนถึงนาทีนี้ยังถือว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะอยู่ในขั้นตอนกระบวนการพิจารณาของศาล และเป็นคดีการเมือง

“เป็นคดีการเมืองนะครับ ไม่ใช่ไปทำความผิดอะไรที่ทำให้เสียหายในทางส่วนตัว จนถึงนาทีนี้ พรรคก็ยังเป็นกำลังใจให้ลูกหมีอยู่ และเราก็อยากเห็นลูกหมีสามารถกลับมาทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรได้อีกต่อไป”

นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับการเมืองภาพรวมในภาคใต้ มีการประเมินการเลือกตั้งครั้งหน้าว่าจะได้ ส.ส. มากขึ้นอย่างไรนั้น เท่าที่ประเมินและจากการทำงานมาโดยต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ตนมาเป็นหัวหน้าพรรค เราได้ตรวจสอบความนิยม การได้รับการยอมรับในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เฉพาะพี่น้องชาวภาคใต้ ต้องถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น เป็นที่ยอมรับมากขึ้น และการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก่อนที่ตนมาเป็นหัวหน้าพรรค ก็ต้องถือว่าการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนจำนวนหนึ่งหลังจากได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกันแล้วก็ทำให้ทราบว่ามีลักษณะคล้ายกับเป็นอุบัติเหตุทางการเมือง แต่สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปพี่น้องจะให้การต้อนรับ และสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้นายจุรินทร์ ได้ดำเนินการคืนโฉนดให้เกษตรกร 86 ราย รวมทั้งมอบวุฒิบัตรให้กับเกษตรกรที่ไม่มีหลักประกัน และใช้บุคคลค้ำประกัน ซึ่งถือว่าเป็นเกษตรกรที่มีความรับผิดชอบสามารถชำระหนี้ได้ครบถ้วน นอกจากนี้ยังมีโครงการดูแลพัฒนาการผลิตและการตลาดในพื้นที่จังหวัดชุมพร สำหรับปาล์ม 2 โครงการ สำหรับยางพารา 1 โครงการ สำหรับโครงการปศุสัตว์อีก 1 โครงการ ใช้งบประมาณราว 8.6 ล้านบาท ซึ่งตั้งแต่ปี 2540 ในภาพรวมทั้งประเทศกองทุนฟื้นฟูได้ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้ว รวม 7,300 ล้านบาท มีการซื้อหนี้ให้เกษตรกรไปประมาณ 30,000 ราย