รัฐบาลชวนโหลด แอป “ทางรัฐ” เข้าถึงข้อมูลประชาชน 30 รายการ ค่าไฟ-โฉนดที่ดิน

รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์

รัชดา-รองโฆษกรัฐบาล ตีปี๊บ ชวนโหลดแอป “ทางรัฐ” เข้าถึงบริการภาครัฐได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว ดาวน์โหลดผ่านทั้งระบบ iOS และ Android

วันที่ 12 กันยายน 2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เร่งขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาภาครัฐสู่การเป็น “รัฐบาลดิจิทัล” มาโดยตลอด เพื่อพัฒนาระบบการบริการประชาชนให้ดีขึ้น การทำงานโปร่งใสตรวจสอบได้ ลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากเกินความจำเป็น

ล่าสุด สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. และหน่วยงานรัฐ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กรมการปกครอง สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด และสำนักงานประกันสังคม ได้ร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มกลาง ภายใต้ชื่อ “ทางรัฐ” ซึ่งเป็นแอปพลิเคชัน ที่รวบรวมงานบริการภาครัฐต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการติดต่อขอรับบริการผ่านช่องทางออนไลน์ ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐจากทุกที่ทุกเวลา ผ่านสมาร์ทโฟน โดยดาวน์โหลดได้จากทั้งระบบ iOS และ Android

น.ส.รัชดา กล่าวว่า แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อตอบไลฟ์สไตล์ของประชาชนยุคดิจิทัล สามารถตรวจสอบสิทธิ จ่ายบิล หรือติดตามสถานะการขอใช้บริการจากภาครัฐได้อย่างสะดวก และหน่วยงานภาครัฐที่ต้องการยกระดับการให้บริการประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นสามารถนำข้อมูลและบริการต่าง ๆ มาให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้

ปัจจุบันมีบริการที่พร้อมให้บริการประชาชนกว่า 30 บริการ เช่น การตรวจสอบสิทธิประกันสังคม สถานะผู้ประกันตน สิทธิหลักประกันสุขภาพ เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ข้อมูลเครดิตบูโร หนังสือรับรองผลการทดสอบ O-Net เช็คโฉนดที่ดิน รวมถึงบริการค่าน้ำ ค่าไฟ ที่สามารถชำระค่าบริการผ่าน QR Code โดยอนาคตจะมีบริการที่ครอบคลุมกว่า 100 บริการ ที่จะให้บริการประชาชนได้อย่างสะดวกรวดเร็วซึ่งจะเป็นศูนย์รวมบริการภาครัฐให้บริการประชาชนได้แบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว

“จึงขอเชิญชวนประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ เพื่อการเข้าถึงบริการภาครัฐได้แบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว และตลอด 24 ชั่วโมง”

ทั้งนี้รัฐบาลจะมุ่งมั่นสร้างสรรค์งานบริการให้ดียิ่งๆขึ้น ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม จนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล กล่าวคือ อันดับรัฐบาลดิจิทัลของไทย อยู่ที่ 57 จาก 193 ประเทศ ในปี2563 ดีขึ้น จากอันดับที่ 73 ในปี 2561 และอันดับที่ 77 ในปี 2559 นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมการพัฒนาอย่างชัดเจนนี้ พร้อมขอบคุณทุกความร่วมมือ และความพยายามของทุกหน่วยงานภาครัฐในการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลตามนโยบายและยุทธศาสตร์ชาติที่วางไว้