อัยการยื่นฟ้องวิรัช รัตนเศรษฐ กับพวก 87 คน คดีทุจริตสร้างสนามฟุตซอล

อัยการยื่นฟ้องวิรัช
แฟ้มภาพ

อัยการยื่นฟ้อง “วิรัช รัตนเศรษฐ” กับพวก 87 คน คดีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอลโคราช ลุ้นที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ตั้งองค์คณะสั่งประทับฟ้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

วันที่ 14 กันยายน 2564 มติชน รายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายสายัน จันทะรัง พนักงานอัยการสำนักงานปราบปราบทุจริต 2 และคณะทำงาน นัดส่งตัวยื่นฟ้องในคดีที่อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ กับพวกรวม 87 คน เป็นจำเลยในคดีทุจริตสนามฟุตซอลโรงเรียนในจังหวัดนครราชสีมา ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

คดีนี้ทาง ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนการสอบสวน พร้อมชี้มูลความผิดนายวิรัช สมัยเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมกันกับพวกรวม 87 คน ทุจริตเงินจัดสรรงบประมาณปี พ.ศ. 2555 จัดสร้างสนามฟุตซอลให้กับโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา 18 จังหวัด มูลค่า 4,459 ล้านบาท รวมทั้งโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา เขต 2 จ.นครราชสีมาด้วย แต่ปรากฏว่า การสร้างสนามฟุตซอลใน จ.นครราชสีมา กลับสร้างไม่ได้มาตรฐาน ไม่สามารถใช้งานได้

โดยช่วงเช้าวันนี้กลุ่มผู้ถูกกล่าวหาในคดีทุจริตสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียน ในจังหวัดนครราชสีมา ทยอยเดินทางเข้ามารายงานตัวตามนัดของพนักงานอัยการคดีปราบปรามการทุจริต 2 จำนวน 81 คน ไม่มารายงานตัวและขอเลื่อนอ้างเหตุผลว่าอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 6 คน

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ภายหลัง ป.ป.ช.ส่งสำนวนมาให้แล้ว อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานอัยการปราบปรามทุจริต 2 เป็นคณะทำงานขึ้นมารับผิดชอบสำนวนคดีนี้ ซึ่งพิจารณาแล้วจึงมีคำสั่งฟ้องนายวิรัช รัตนเศรษฐ ผู้ต้องหาที่ 1 และมีจำนวนผู้ต้องหาทั้งหมด 87 คน โดยแต่ละคนจะข้อหาไม่เหมือนกัน แต่ในภาพรวม 14 ข้อหาด้วยกัน ประกอบด้วย

  • เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐทุจริตในการร่วมกันออกแบบ กำหนดเงื่อนไขอันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม
  • เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยรัฐ หรือกระทำการใด ๆ โดยมิได้มุ่งหมายแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
  • เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองร่วมกระทำความผิดการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ
  • เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐมีอำนาจหน้าที่ในการอนุมัติพิจารณาหรือดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคาครั้งใด รู้หรือมีพฤติการณ์แจ้งชัดว่าควรรู้ว่าการเสนอราคาในครั้งนั้นมีการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยรัฐ เพื่อให้มีการยกเลิกการดำเนินการเกี่ยวกับเสนอราคาในครั้งนั้น
  • เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งโดยทุจริต
  • เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
  • เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ
  • เป็นเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ทำเอกสาร หรือกรอกข้อความลงในเอกสารในการปฏิบัติการตามหน้าที่รับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น หรือว่ากระทำการอย่างใดต่อหน้าที่ของตนอันเป็นเท็จ
  • ร่วมกันใช้อุบายหลอกลวงหรือกระทำการโดยวิธีอื่นใดเป็นเหตุให้ผู้อื่นไม่มีโอกาสได้เสนอราคาอย่างเป็นธรรม
  • ตกลงร่วมกันเสนอราคาเพื่อวัตถุประสงค์เพื่อจะเป็นประโยชน์แก่ผู้หนึ่งผู้ใด เป็นผู้มีสิทธิในการทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
  • ร่วมกันใช้เอกสารราชการปลอม
  • ร่วมกันปลอมเอกสาร
  • ร่วมกันใช้เอกสารปลอม
  • สนับสนุนเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าพนักงานของรัฐในการทำหน้าที่โดยทุจริต
  • พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 10, 11, 12, 13
  • พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157, 162, 264, 265, 268, 83, 86, 91

นายประยุทธกล่าวต่อว่า ส่วนผู้ต้องหาที่ขอเลื่อนจำนวน 6 คนนั้น แบ่งเป็นบุคคล 5 คน และนิติบุคคล 1 แห่งด้วย ส่วนใหญ่อ้างประเด็นสถานการณ์โควิด-19 แต่ไม่ได้ป่วยหรือติดเชื้อโควิด-19 โดยนายวิรัชและนางทัศนียา รัตนเศรษฐ ภรรยา ผู้ต้องหาที่ 1-2 ที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อ้างว่าอยู่ในสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร อัยการพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่ได้เป็นข้อห้ามในการยื่นฟ้องต่อศาล

จึงแจ้งกลับไปว่า ไม่อนุญาตให้เลื่อน ส่วนกระบวนพิจารณาของศาลจะดำเนินไปได้เพียงใดนั้น เป็นขั้นตอนที่ทางศาลฎีกาฯ จะได้เป็นผู้พิจารณา

“เมื่อถึงกำหนดนัดหมายแล้วผู้ต้องหาทั้ง 77 คน มารายงานตัวกับพนักงานอัยการแล้ว พนักงานอัยการจะนำคำฟ้อง สำเนาคำฟ้องพร้อมกับสำนวนไต่สวนของ ป.ป.ช.ไปยื่นต่อศาล และขั้นตอนของกฎหมายบัญญัติไว้ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 กำหนดไว้ในมาตรา 26 ว่า

“การฟ้องโดยหลักต้องฟ้องส่งตัว แต่กรณีถ้าหากไม่สามารถฟ้องส่งตัวได้ จะเป็นกรณีเข้าข้อยกเว้นที่ไม่มีการส่งตัว ตามมาตรา 21 ซึ่งเป็นกรณี หลบหนี หรือประวิงคดี หรืออ้างเหตุขอเลื่อนโดยไม่มีเหตุอันสมควรทางอัยการก็จะยื่นฟ้องทั้งหมด เมื่ออัยการยื่นฟ้องต่อศาลฎีกา ศาลฎีกาก็จะมีขั้นตอนตามมาตรา 11 ของ ป วิ.อม. ที่จะกำหนดวันนัดประชุมใหญ่ศาลฎีกา เพื่อเลือกองค์คณะทั้ง 9 คน

ซึ่งแต่ละคนจะต้องเป็นผู้พิพากษาระดับชั้นศาลฎีกาเพื่อรับผิดชอบสำนวนคดี และออกหมายเรียกให้จำเลยมาตามกำหนดนัดพิจารณา โดยจะนำผู้ต้องหาทั้งหมดไปยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาในช่วงเช้าวันนี้” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวและว่า

เมื่อถามว่าคดีจำเลยเป็นนักการเมือง พนักงานอัยการมีความรู้สึกหนักใจหรือไม่ นายประยุทธกล่าวยืนยันว่า อัยการทำสำนวนคดีตามพยานหลักฐาน ไม่ได้วิตกกังวลแต่อย่างใด เรื่องนี้ไม่มีประเด็นนอกสำนวน หรือการเมือง ทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังยื่นฟ้องวันนี้ ทางศาลฎีกา นักการเมืองจะรับคำฟ้องไว้พิจารณาเพื่อส่งเข้าที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาดำเนินการคัดเลือกองค์คณะประจำคดีทั้ง 9 คน เเละเลือกผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน โดยองค์คณะในคดีดังกล่าวจะเป็นผู้มีคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณาหรือไม่ รวมถึงคำสั่งเกี่ยวกับการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกนำตัวไปยื่นฟ้องวันนี้ก็จะต้องยื่นประกันตัวต่อศาล