รองโฆษกตำรวจ ย้ำ ทำข่าวม็อบต้องยืนยันต้นสังกัด ไม่มีใครได้อภิสิทธิ์

ตำรวจแถลงนักข่าวต้องมีต้นสังกัด

รองโฆษกตำรวจ ย้ำ ทำข่าวม็อบต้องยืนยันต้นสังกัด หากไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้เป็นสื่อมวลชนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

วันที่ 14 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรานงานว่า เมื่อช่วง 11.00 น. ที่ผ่านมา สมาพันธ์สื่อไทยเพื่อประชาธิปไตย (Democracy Alliance :DemAll) ออกแถลงการณ์ กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อำนาจตรวจสอบบัตรสื่อมวลชนและบังคับให้สื่อหยุดรายงานสด (ไลฟ์สด) จากสถานที่เกิดเหตุสลายการชุมนุมที่แยกดินแดง ใจความตอนหนึ่งระบุว่า

สมาพันธ์สื่อไทยเพื่อประชาธิปไตย (Democracy Alliance :DemAll) ขอเรียกร้องให้ทางตำรวจหยุดคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน คำว่าสังกัด ไม่ควรจำเพาะเจาะจงองค์กรสื่อขนาดใหญ่ แต่ประชาชนทุกกลุ่มล้วนเป็นสังกัดของตนเอง หยุดเข้าไปใช้อำนาจข่มขู่ หยุดปิดกั้นการทำงาน และหยุดใช้อำนาจกฏหมายควบคุมตัวสื่อมวลชน เพราะความเห็นทางการเมืองเป็นสิทธิส่วนบุคคล สื่อเลือกข้างเป็นเรื่องปกติของโลกยุคปัจจุบัน บัตรผู้สื่อข่าวไม่ใช่สารัตถะสำคัญ แม้แต่สื่อภาคประชาชนก็ถือว่าเป็นสื่อมวลชน ทำหน้าที่ถ่ายทอดข้อมูลเหตุการณ์ไปสู่ประชาชนได้

ล่าสุด มติชน รายงานว่า ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ฐานะโฆษก บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงข่าวสรุปสถานการณ์การชุมนุมเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2564 ของกลุ่มทะลุแก๊ซ บริเวณแยกดินแดง

ในตอนหนึ่ง พ.ต.อ.กฤษณะ ระบุถึงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในการรายงานข่าวการชุมนุม ว่า กรณีฟรีแลนซ์ ยูทูบเบอร์ ทางสมาพันธ์สื่ออยู่ระหว่างจัดระเบียบอยู่ ไม่ว่าจะเป็นทั้งสื่อไทยและสื่อต่างประเทศต้องปฏิบัติตามสื่อมวลชนโดยทั่วไป มีการยืนยันต้นสังกัด สัญลักษณ์บอกฝ่าย ไม่มีใครได้รับอภิสิทธิ์ทำข่าว เนื่องจากในพื้นที่มีตำรวจ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แพทย์พยาบาล หน่วยกู้ภัย

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า นอกเหนือจากนี้ ยังมีสื่อมวลชนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อรายงานข่าว หากไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้เป็นสื่อมวลชนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนการเข้ามาสังเกตการณ์ต้องมีการทำหนังสือส่งมาให้รับทราบ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแฝงตัวของมือที่สามเข้ามาก่อเหตุความวุ่นวาย