ประยุทธ์ ขาลอย-ประวิตร เบ่งบารมี ลงพื้นที่แก้น้ำท่วมเพชรบุรี-อยุธยา

ประยุทธ์ ขาลอย ลงพื้นที่เยี่ยมประชาชน จ.เพชรบุรี ตรวจราชแก้ปัญหาน้ำท่วม “เขื่อนเพชร” แต่กำลังใจจากคนเมืองเพชรเกินร้อย ขอถ่ายรูป-เซลฟี่ ตลาดแตก ร้องลั่น “ลุงตู่สู้ๆ” ประวิตร เบ่งบารมี ตรวจราชการคลองส่งน้ำบางบาล อยุธยา ส.ส.-รมต. แกนนำพรรคพลังประชารัฐตบเท้าร่วมคณะพรึบ

เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะ อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน พบปะผู้ประกอบการร้านค้าและประชาชนชาวท่ายางในโอกาสเดินทางมาตรวจราชการที่บริเวณตลาดเทศบาลตำบลท่ายาง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี โดยมี ส.ส.เพชรบุรีของพรรคพลังประชารัฐ ข้าราชการ  คณะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนชาวท่ายางมารอให้การต้อนรับ

พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินเยี่ยมผู้ประกอบการร้านค้าต่าง ๆ พร้อมทักทายพูดคุยกับประชาชนสอบถามถึงความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพด้วยความห่วงใย โดยนายกฯ บอกให้ทุกคนรักษาสุขภาพ ช่วยกันดูแลซึ่งกันและกัน ย้ำทุกคนในประเทศต้องรักกัน ทั้งประชาชน พลเรือน ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ ซึ่งรัฐบาลทำฝ่ายเดียวคงไม่ได้ หากทุกคนไม่ช่วยกันทำทุกอย่างก็คงไม่สำเร็จตามเป้าหมาย

ขณะที่ประชาชนชาวท่ายางก็ได้ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี พร้อมมอบดอกไม้ พืชผลการเกษตร ให้กับนายกรัฐมนตรีเป็นที่ระลึก ประชาชนต่างตะโกน “รักลุงตู่” “ลุงตู่สู้ ๆ” “นายกฯ สู้ ๆ” และมีตัวแทนประชาชนกล่าวว่าได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลแล้ว  โดยนายกฯ กล่าวยืนยันทำงานเพื่อทุกคน อนาคตต้องดีกว่าวันนี้ โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เข้าสักการะศาลเจ้าพ่อกวนอูเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งนายกฯ กล่าวว่าได้อธิษฐานขอพรให้ประเทศชาติปลอดภัย และทำงานได้สำเร็จ

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์และคณะ เดินทางต่อไปยังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี (เขื่อนเพชร) ตำบลท่าคอย อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เพื่อตรวจสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำและแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมลุ่มน้ำเพชรบุรี 

สำหรับการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากอยู่บ่อยครั้ง กรมชลประทาน ได้ดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่างอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยควบคุมการระบายน้ำที่เขื่อนเพชรให้ไหลลงสู่แม่น้ำเพชรบุรีในอัตรา 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อลดผลกระทบด้านท้ายน้ำ ที่อำเภอเมือง

น้ำส่วนที่เหลือจะถูกผันน้ำเข้าระบบส่งน้ำและระบบระบายน้ำของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่างฯ ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ซึ่งเป็นการบริหารจัดการลุ่มน้ำเพชรบุรีทั้งระบบ ที่ได้กำหนดแนวทางการเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำเพชรบุรีออกสู่ทะเลอ่าวไทย ด้วยการปรับปรุงคลองระบายน้ำ คลองส่งน้ำ และการขุดขยายคลอง ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ หากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จทั้งหมด จะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการลงพื้นที่แต่ละครั้งว่า เพราะตนเองมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ตั้งใจมารับฟังข้อมูลและรับทราบปัญหาในแต่ละพื้นที่โดยตรง รวมทั้งให้ความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกพื้นที่ โดยมอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีแผนแม่บทในการบริหารจัดการน้ำที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ

โดยกำหนดแผนแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตรและน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม เพื่อความมั่นคงทางด้านน้ำในอนาคต โดยให้เป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำที่สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้อย่างเพียงพอและลดผลกระทบในช่วงฤดูน้ำหลากด้วย 

พล.อ.ประยุทธ์กำชับในการเสนอของบประมาณจะต้องเป็นแผนงานที่ทำได้จริง แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด พร้อมทั้งวางแผนใช้งบประมาณแบบต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญในการใช้งบประมาณแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งทุกภาคส่วนทั้งส่วนราชการ ส.ส. และประชาชนต้องร่วมมือกัน เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในระยะยาว

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังได้เน้นย้ำให้ส่วนราชการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เกษตรกร ในการปรับเปลี่ยนแนวคิด พฤติกรรมการทำการเกษตรให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และความต้องการของตลาด เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยด้านอุตสาหกรรมการเกษตร สร้างรายได้ เพิ่มมูลค่าให้กับภาคการเกษตรมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมคณะ อาทิ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานกรรมการยุทธศาตร์พรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค นายสันติ พร้อมพัฒน์ ผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐและรมช.คลัง

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและรมว.ดีอีเอส นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม บุตรชายนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและประธานวิปรัฐบาล นายประสาน หวังรัตนปราณี กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรีและกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี

และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ไปปฏิบัติราชการ ณ คลองส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี นายภานุ แย้มศรี  ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้การต้อนรับ


พล.อ.ประวิตร และคณะได้รับฟังการบรรยายสรุปภาพรวม การบริหารจัดการน้ำหลากตามมาตรการ และแผนงานการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทั้งระบบในลุ่มน้ำเจ้าพระยา จาก สทนช.และรับทราบแนวทางการจัดเตรียมพื้นที่รับน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มต่ำจาก กรมชลประทาน  รวมถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือ เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  

ซึ่งเป็นไปตามแผนงาน และนโยบายของรัฐบาล ด้วยดี  อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบายที่สำคัญเร่งด่วน เนื่องจากสถานการณ์น้ำในขณะนี้ ยังมีความน่าเป็นห่วงจากภาวะฝนตกหนัก ต่อเนื่อง จากอิทธิพลหย่อมความกดอากาศต่ำ กำลังแรง

ประกอบกับ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา โดยได้กำชับ กอนช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ให้เร่งรัด 10 มาตรการรับมือฤดูฝน อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะพื้นที่บางบาล และบางไทร ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมน้ำหลาก ซ้ำซาก และอยู่ระหว่างการแก้ปัญหา บริเวณคลองระบายน้ำหลาก บางบาล-บางไทร 

พล.อ.ประวิตร  ยังได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงาน ต้องบูรณาการทำงาน อย่างจริงจัง ทั้งในส่วนของจังหวัด และท้องถิ่น ร่วมกับ กอนช.เพื่อแก้ปัญหาน้ำให้ครอบคลุมทุกมิติ อย่างยั่งยืน รวมถึงการกักเก็บน้ำบนดิน ใต้ดิน ไว้รองรับในฤดูแล้งหน้าได้ด้วย และต้องสร้างการรับรู้/ความเข้าใจให้กับประชาชน/เกษตรกรในการร่วมแก้ไขปัญหาน้ำไปด้วยกัน เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำ มีความยั่งยืน  

จากนั้น พล.อ.ประวิตร และคณะฯ ได้เดินทางต่อไปยังประตูระบายน้ำปากคลองบางบาล ซึ่งทำหน้าที่รับน้ำหลากเข้าพื้นที่ที่เตรียมไว้ เพื่อลดผลกระทบจากปริมาณน้ำ พร้อมกล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ได้เสียสละ ทุ่มเทปฏิบัติงานด้วยดี จากนั้นได้เดินทางไปพบปะกับชาวบ้าน เพื่อเยี่ยมเยียน และขอบคุณที่ให้การต้อนรับและให้ความร่วมมือแก้ปัญหาเรื่องน้ำ พร้อมมอบสิ่งของที่จำเป็นให้กับตัวแทนชาวบ้าน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ต่อไป