‘มีชัย’โล่งชงกม.ลูกครบ 10 ฉบับ เผยกม.เลือกส.ส. ต้องชนะโหวตโน ปัดเอื้อพรรคขนาดกลาง

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการส่งกฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้าย ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา ว่า รู้สึกโล่งอก กรธ.กังวลเหมือนกันว่า จะทำไม่ทัน กรอบเวลา 240 วัน ดูเหมือนยาว แต่ต้องทำกฎหมาย 10 ฉบับ แล้วมันสั้น ตกไม่ถึงภเดือนต่อหนึ่งฉบับ จะเห็นได้ว่าการร่างกฎหมายลูกด้วยคนชุดเดียวกับที่ร่างรัฐธรรมนูญมีความสำคัญ เพราะจะรู้จุดสำคัญของรัฐธรรมนูญ ต่างจากเดิมที่ให้องค์อิสระทำแล้วเสนอ ก็จะเป็นเรื่องอำนาจเป็นหลัก ไม่เหมือนการมีคนกลางมาจัดทำ จากนี้ก็จะส่งตัวแทนไปร่วมเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. แล้วก็รอดูการปรับแก้ของสนช. ซึ่งไม่มีสัญญาณความเห็นต่างอะไร เนื่องจากเรารับฟังความเห็นจากทางสนช. และมีตัวแทนจากกกต.เข้าร่วมประชุมตลอด ส่วนกรธ.ก็จะนัดประชุมสัปดาห์ละ 1-2 วัน เพื่อพิจารณารายงานการประชุมที่ผ่านมา

นายมีชัย กล่าวว่า เนื้อหาในร่างกฎหมายลูกส.ส. ก็เป็นไปตามหลักการในรัฐธรรมนูญ ใช้บัตรใบเดียว ทุกคะแนนมีความหมาย ประชาชนมีทางเลือก ไม่เลือกใครก็ได้ คนที่จะชนะเป็นส.ส.ต้องชนะคะแนนที่ประชาชนไม่เลือกใคร ถ้าคะแนนไม่เลือกใครชนะในเขตไหน ต้องเลือกตั้งใหม่ และผู้สมัครฯคนเดิมจะลงอีกไม่ได้ แล้วเพื่อความสอดคล้องกัน ก็ให้กำหนดเบอร์ผู้สมัครฯตามเขต เพื่อให้ประชาชนดูทั้งคนและพรรคก่อนจะเลือก ส่วนเรื่องเงินก็คล้ายของเดิม แต่ให้กกต.สามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องตามสภาพของเศรษฐกิจได้ ทั้งนี้จะต้องมีการหารือกับพรรคก่อน ส่วนคุณสมบัติก็มีความเข้มข้นขึ้น ต้องแสดงบัญชีรายการเสียภาษีย้อนหลัง 3 ปี ส่วนวิธีการเลือกตั้งยังใช้บัตรเหมือนเดิม แต่เปิดช่องให้ใช้เครื่องได้ในอนาคต หากมีความปลอดภัย และป้องกันการซื้อเสียงได้

นายมีชัย กล่าวอีกว่า สำหรับเนื้อหาในร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. หลักการคือ ให้เลือกผู้สมัครฯ จากระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ ผู้ได้รับเลือก 10 คนแรก จะได้เป็นส.ว. ส่วนอีก 5 คนถัดมาให้เป็นสำรอง วิธีการจะป้องกันการฮั้วมากที่สุด โดยจะแบ่งเป็น 4-5 สาย แล้วให้จับสลาก เลือกข้ามกลุ่ม เพื่อให้แต่ละกลุ่มไม่รู้ว่า จะได้เลือกกลุ่มไหน การเลือกแบบนี้ เป็นการเลือกกันเองสำหรับคนที่สนใจต่างจากเลือกตั้งส.ส. เพราะพิธีรีตรองไม่มีมาก เวลาหาเสียงเงินทองไม่ต้องใช้ ค่าสมัคร 2,500 บาท ถ้าได้รับเลือกก็คืนให้ ปิดช่องไม่ให้พรรคการเมืองยุ่ง มีอิสระ มาจากหลากหลายอาชีพ ไปถึงรากหญ้าที่อยากทำงานด้านนิติบัญญัติอย่างแท้จริง

เมื่อถามถึงระบบเลือกตั้งแบบนี้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้พรรคขนาดกลาง ลดฐานเสียงพรรคใหญ่ นายมีชัย กล่าวว่า ไม่จริง เป็นเรื่องเดากันทั้งนั้น เราคิดถึงประชาชนที่ไปลงคะแนนให้มีความหมายมากที่สุด ส่วนผลก็จะเป็นไปตามตรรกะของมัน นี่เป็นของใหม่ที่ยังไม่เคยใช้ ซึ่งระบบนี้ จะทำให้ทุกคะแนนมีความหมายส.ส.จะมีตามสัดส่วน โอกาสที่จะได้ส.ส.มากกว่าสัดส่วนส.ส.ที่พึงมี เป็นไปได้ยาก แต่เราก็เปิดช่องให้ ที่เกรงว่า จะได้เสียงข้างมากแล้วตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็ต้องดูด้วยว่า ได้มากขนาดไหน เดิมคะแนนที่แพ้จะไม่ถูกนับเลย แต่ครั้งนี้คะแนนนั้นจะถูกไปนับให้คะแนนบัญชีรายชื่อ แม้แต่คะแนนไม่เลือกใคร ก็ยังมีฤทธิ์มีเดช

 

ที่มา มติชนออนไลน์