ครม. รับทราบ กลุ่มกิจการร่วมค้า GPC คว้าท่าเรือแหลมฉบับเฟสสาม ท่าเทียบเรือ F สัมปทาน 35 ปี
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลการคัดเลือกเอกชน ผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดให้ความเห็นชอบและตามมติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ได้แก่ กลุ่มกิจการร่วมค้า GPC (บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด บริษัท ไชนาร์ฮาเบอร์ เอ็นจิเนียร์ริ่ง จำกัด) ซึ่งได้เสนอผลประโยชน์ผลตอบแทนทางการเงินของรัฐคิดเป็นค่าสัมปทานคงที่ มูลค่า 29,050 ล้านบาท และค่าสัมปทานแปรผัน 100 บาทต่อ TEU (ตู้สินค้าขนาด 20 ฟุต) ระยะเวลาร่วมทุน 35 ปี
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับกลุ่มกิจการร่วมค้า GPC เป็นเอกชนผู้ยื่นข้อเสนอรายเดียวที่ผ่านการประมูล หากมีการคัดเลือกใหม่อาจจะส่งผลให้เกิดความล่าช้า 2 ปี และอาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยง เช่น ปริมาณตู้สินค้าเกินขีดความสามารถในการรองรับในปี 2568
รวมถึงข้อจำกัดในการรองรับเรือสินค้าขนาดใหญ่และผลกระทบจากโรคโควิด -19 ซึ่งส่งผลต่อประมาณการตู้สินค้าในปัจจุบัน ซึ่ง กพอ.พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบตามเหตุผลและความจำเป็นเร่งด่วนดังกล่าว การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 จะเป็นการช่วยสนับสนุนการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังให้เป็นประตูการค้าและการลงทุนของภูมิภาคได้อย่างเต็มที่