ธนาธร ประกาศชัยชนะ 38 อบต. สถานีต่อไปชิงเก้าอี้นายกเมืองพัทยา

ประธานคณะก้าวหน้า ประกาศความสำเร็จ ได้เก้าอี้นายก อบต.38 เก้าอี้ ปลื้ม ก้าวหน้า ได้รับเสียงตอบรับดีขึ้น “ชัยธวัช” ก้าวไกล แสดงความยินดี ถือเป็นปรากฏการณ์ของการเมืองท้องถิ่น

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ที่อาคารอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ว่า คณะก้าวหน้าส่งผู้สมัครทั้งหมด 196 แห่งทั่วประเทศ ได้รับชัยชนะ 38 อบต. หรือ คิดเป็น 19.4 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่ส่งทั้งหมด โดยในจำนวนนี้อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 53 ปี และมีผู้ที่อายุน้อยที่สุด 35 ปี ซึ่งเพิ่งผ่านเกณฑ์ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกฯ อบต. ได้

นอกจากนี้ยังมีนายกฯ เป็นเพศหญิง 3 คน เพศชาย 35 คน มีประสบการณ์การเมืองท้องถิ่นมาแล้ว 23 คน ไม่มีประสบการณ์ หรือหน้าใหม่เลย 15 คน ซึ่งชัยชนะใน 38 อบต.นี้ กล่าวได้ว่าเราภูมิใจกับผลการเลือกตั้ง เพราะถ้าย้อนไปในการเลือกตั้ง ส.ส.แบบเขต จำนวนที่เราส่ง 350 เขต ชนะ 30 เขต หรือคิดเป็น 8.6 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่ส่ง

ตอนเลือกตั้ง อบจ. จำนวนที่ส่ง 42 จังหวัด ไม่ชนะเลย มาในระดับเทศบาลเราส่ง 106 เทศบาล จำนวนที่ชนะ 16 เทศบาล หรือคิดเป็น 15.0 เปอร์เซ็นต์ และล่าสุดระดับ อบต.ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบท เป็นพื้นที่ที่ความเป็นเมืองมีน้อย สัดส่วนคนรุ่นใหม่ไม่มาก

หลายคนบอกว่าไม่ใช่ลักษณะพื้นที่กลุ่มเป้าหมายเรา ไม่ใช่ลักษณะคนใช้โซเชียลมีเดีย หลายคนสบประมาทคิดว่าเราทำไม่ได้ แต่ผลการเลือกตั้งที่ออกมาถือว่าประชาชนให้การตอบรับคณะก้าวหน้าดีขึ้นเรื่อยๆ

“ผมอยากชวนพิจารณาด้วย ในส่วนของพื้นที่ที่เราไม่เคยเจาะได้เลย ไม่ว่าจะการเลือกตั้งสนามไหน รอบนี้เราสามารถทำได้ เช่นที่ จ.เพชรบูรณ์ จ.สุพรรณบุรี จ.นครราชสีมา นอกจากนี้เรายังมีพื้นที่ได้รับการตอบรับดีขึ้นจากผลงานที่ดีของเทศบาลที่ผ่านมา เช่น จ.อุดรธานี จ.ร้อยเอ็ด และยังมีพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นเมืองด้วยเช่นกันคือ ที่ จ.นครปฐม”

นายธนาธร กล่าวว่า การเลือกตั้ง อบต.ครั้งนี้ เราแสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้เข้าถึงเฉพาะเมืองใหญ่ ไม่ได้เข้าถึงเฉพาะที่เป็นคนวัยรุ่นหนุ่มสาวอาศัยอยู่เยอะเท่านั้น แต่พื้นที่ที่เป็นเขตชนบท เป็นเขตเกษตรกรรม เราก็สามารถเข้าถึงได้ด้วยเช่นกัน รวมงบประมาณ อบต.ที่เราชนะต่อปี 1,649,351,116 บาท ประชากรรวม 244,409 คน อบต.ที่มีงบประมาณมากที่สุดอยู่ที่ 81,375,762 ล้านบาท และ อบต.ที่มีประชากรมากที่สุดที่ 15,664 คน

นายธนาธร กล่าวว่า อาวุธสำคัญของเราคือนโยบายที่ตอบสนองพื้นที่ ตอบสนองชีวิตความเป็นอยู่พี่น้องประชาชน เช่น นโยบายด้านแก้ปัญหาปากท้อง นั่นคือส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับชุมชน เป็นต้น นโยบายเกี่ยวกับน้ำ เช่น ทำให้มีน้ำสะอาด น้ำสำหรับการชลประทาน และอีกหนึ่งนโยบายที่มีปัญหามากในหลายๆ อบต. นั่นคือ นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม

การจัดการขยะ เราเชื่อว่าการออกแบบนโยบายที่สอดคล้องกับสภาพปัญหา นโยบายที่โดนใจประชาชน ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากประชาชน รวมถึงผลงานที่ผ่านมา จากการบริหารจริงในระดับเทศบาลด้วย ซึ่งเรามีผลงานมากมายที่เชื่อว่าพ่อแม่พี่น้องประชาชนได้เห็น ว่าเราส่งมอบนโยบายได้สำเร็จตามที่เราสัญญาไว้ เราทำได้จริง

ไม่ว่าจะเป็นการไปสร้างฝายชั่วคราวที่เทศบาลตำบลเหมืองจี้ จ.ลำพูน ที่พังมากว่า 7 ปี ทำให้พี่น้องเกษตรกรมีน้ำใช้ ซึ่งฝายนี้ก็มีการทำงานร่วมกันระหว่าง ส.อบจ.คณะก้าวหน้าใน จ.ลำพูน กับ นายเทศมนตรี ใน จ.ลำพูน ทำให้ประชาชนใน 3 ตำบล กว่า 3,600 ครัวเรือน กลับมามีน้ำใช้ ยังมีเรื่องน้ำประปาดื่มได้ เรื่องการศึกษา เรื่องการท่องเที่ยวชุมชน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ประชาชนจับต้องได้ นำมาซึ่งอัตราชนะที่มากขึ้น

นายธนาธร กล่าวว่า ระดับ อบต.จะเริ่มทำงานทันที หลังได้รับการรับรองจาก กกต. โดยเราเชื่อว่าขณะนี้ การที่เรามีเพื่อน ส.ส.พรรคก้าวไกล ทำงานในสภา มี ส.อบจ. 57 คน มีนายกเทศมนตรี 16 แห่ง มีสมาชิกสภาเทศบาล 130 คน และล่าสุดคือ นายก อบต.อีก 38 คน เราจะมีคลังความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาที่ใหญ่มาก เราไม่ได้มีแค่ทฤษฎี ไม่ได้มีแค่นโยบาย

แต่การทำงานท้องถิ่นอนุญาตให้เราลงมือทำจริง ว่าอะไรคือความล้มเหลว อะไรคือความสำเร็จ นอกจากนี้ อีกไม่กี่เดือน ในการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา เราจะส่งผู้สมัครเราเข้าแข่งขันด้วย จากนั้น อีก 2-3 ปี จะวนมาถึงการเลือกตั้ง อบจ.อีกรอบ เราตั้งเป้าว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ได้บริหารระดับจังหวัดด้วย ซึ่งถ้าให้กลไกนี้หมุนไปสัก 2-3 รอบ องค์ความรู้จากการลงมือทำจริงของเราจะเยอะที่สุดในประเทศไทย

“เราเชื่อมั่นว่าการเมืองระดับชาติกับท้องถิ่นแยกกันไม่ออก การเมืองระดับชาติเข้มแข็งได้ การเมืองท้องถิ่นต้องเข้มแข็งก่อน ต้องทำให้ประชาชนจับต้องได้ เป็นประชาธิปไตยที่กินได้จริง ให้พี่น้องประชาชนตระหนักว่าทุกการเลือกตั้ง ทุกการหย่อนบัตรลงคะแนน สามารถสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้จริงๆ” นายธนาธร กล่าว

ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวแสดงความยินดีต่อชัยชนะของคณะก้าวหน้า ว่า นี่คือปรากฏการณ์ความตื่นตัวของการเมืองท้องถิ่น ที่พี่น้องประชาชนต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงในท้องถิ่นตนเอง ซึ่งการเมืองระดับท้องถิ่นเป็นการเมืองที่ตัวแทนของพี่น้องประชาชนสามารถใช้ความรู้ ความสามารถและงบประมาณในการพัฒนาได้อย่างเต็มที่

พรรคก้าวไกล ก็มีนโยบายที่สอดคล้องกับคณะก้าวหน้า คือ พยายามผลักดันให้มีการกระจายอำนาจรวมศูนย์ ให้ท้องถิ่นมีอำนาจในการบริหารจัดการงบประมาณได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งพรรคก้าวไกลเองกำลังเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ…. ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญ

โดยพรรคก้าวไกล มีข้อกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มอำนาจของ ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ในการเข้ามาใช้อำนาจสอบสวนสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งเป็นการแทรกแซงท้องถิ่น เกินอำนาจและบทบาทของผู้กำกับดูแล ขัดต่อหลักการกระจายอำนาจและความเป็นอิสระของท้องถิ่นอย่างชัดเจน

“ความเข้มแข็งของการเมืองในระดับท้องถิ่นจะสามารถเป็นตัวสะท้อนว่าการเมืองระดับชาติพร้อมเดินไปข้างหน้า และเชื่อว่า เราจะได้เห็นปรากฎการณ์ใหม่อีกครั้งในการเลือกตั้งระดับชาติ” นายชัยธวัช กล่าว