สภาวุ่น ส.ส.รัฐบาล ขวางก้าวไกลเลื่อนญัตติขบวนเสด็จ เพื่อไทยงดออกเสียง

ก้าวไกลเปิดเกมร้อน ขอเลื่อนญัตติขบวนเสด็จ วันที่ 14 ตุลาคม 2563 ขึ้นมาพิจารณา ส.ส.รัฐบาลขวางทันควัน ด้าน หมอชลน่าน หัวหน้าเพื่อไทย ออกตัว “งดออกเสียง” ที่สุดต้องลงมติด้วยการขานชื่อ โฆษกก้าวไกล เสียใจ สภาไม่ให้ความสำคัญ

วันที่ 1 ธันวาคม 2564 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ น.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล เสนอให้ที่ประชุมเลื่อนญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาข้อเท็จจริงในข้อบกพร่องการกำหนดเส้นทางเสด็จ และการถวายความปลอดภัยของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2563 ซึ่งเสนอโดย พล.ต.ตงสุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และคณะ

ซึ่งถูกบรรจุวาระไว้ในการประชุมสภา วันที่ 2 ธันวาคม 2564 ให้เลื่อนการพิจารณาในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลได้ลุกขึ้นประท้วง จึงเสนอให้มีการลงมติเพื่อเลื่อนญัตติด่วนเรื่องขบวนเสด็จฯ ขึ้นมาพิจารณา ทำให้นายชวนขอให้ผู้ควบคุมเสียงของฝั่งรัฐบาลและฝั่งฝ่ายค้านหารือเพื่อให้ได้ข้อตกลงร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะตัวแทนวิปรัฐบาล ขอให้ประธานสั่งพักการประชุม 15 นาที เพื่อตกลงร่วมกันและไม่เสียเวลาที่ประชุม ขณะที่นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประท้วงว่า เป็นเรื่องแปลกประหลาด เพราะเป็นการประชุมปกติและประธานได้บรรจุญัตติไว้แล้ว ควรดำเนินการตามวาระ ไม่ใช่สิทธิที่จะบอกไม่ให้พิจารณาเรื่องนี้

ก่อนที่นายชวนอนุญาตให้พักประชุม 10 นาที หลังจากที่เริ่มเข้าสู่การประชุมได้เพียง 9 นาที แต่ปรากฏว่าหลังพักการประชุมแล้วไม่สามารถตกลงร่วมกันได้ ทำให้ต้องใช้การลงมติเพื่อตัดสิน ต่อมาเวลา 10.50 น. กลับมาประชุมอีกครั้ง โดย น.ส.วรรณวรียืนยันเหตุผลให้เลื่อนญัตติขบวนเสด็จฯ ขึ้นมาพิจารณาก่อน

เพราะหากสภาไม่นำญัตตินี้ขึ้นมาพิจารณา จะทำให้ญัตติด่วนอื่น เช่น ญัตติการตรวจสอบการสลายการชุมนุม ญัตติการตรวจสอบการใช้กฎหมายที่ขัดกับหลักนิติธรรมกับผู้ต้องขังทางการเมืองจะไม่ได้รับการพิจารณา

ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ที่ผ่านมาการเลื่อนระเบียบวาระ ต้องคุยกันทั้งสองฝ่าย ฝ่ายค้านควรยอมรับกลไกของสภาและไปหารือกันก่อน และสมาชิกทุกคนให้ความสำคัญกับทุกระเบียบวาระอยู่แล้ว จึงขอให้ดำเนินการตามระเบียบวาระ

จากนั้นนายชวนได้ขอมติที่ประชุมว่าจะเห็นด้วยให้มีการเปลี่ยนระเบียบวาระหรือไม่ แต่นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เสนอให้ที่ประชุมลงคะแนนแบบเปิดเผยด้วยการขานชื่อ

นายชวนจึงขอมติที่ประชุมว่าจะเห็นชอบให้ลงมติแบบขานชื่อหรือไม่ ผลปรากฏว่าที่ประชุมเห็นด้วยให้ลงมติด้วยการขานชื่อ 219 ต่อ 49 คะแนน งดออกเสียง 15 ไม่ลงคะแนน 3 จากนั้นจึงลงมติด้วยการขานชื่อ

ทั้งนี้ก่อนประกาศผล นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นกล่าวว่า ตนขอใช้สิทธิไม่ออกเสียง เนื่อจากเห็นว่าวิธีการที่ใช้ เป็นการรบกวนสภาโดยไม่จำเป็น แต่นายชวนได้ตัดบท ไม่ให้อภิปรายต่อ เพราะอยู่ระหว่างการรวบรวมคะแนน

ผลปรากฏว่า ไม่เห็นด้วยให้เลื่อนญัตติขบวนเสด็จฯ ขึ้นมาพิจารณา 246 เสียง เห็นด้วย 45 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง จากนั้นเข้าสู่การพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่) พ.ศ….จำนวน 7 ฉบับ

ต่อมาเวลา 12.30 น. พรรคก้าวไกล นำโดย นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม โฆษกพรรคก้าวไกล และ น.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส.กทม. พรรคแถลงภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติไม่เห็นด้วยให้มีการเลื่อนญัตติขบวนเสด็จ

ทั้งนี้ นายณัฐชากล่าวว่า พรรคก้าวไกลรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่สภาไม่เห็นความสำคัญของการเสนอญัตติด่วนเรื่องขบวนเสด็จ ที่พรรคก้าวไกลยื่นในเรื่องนี้ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2563

เราต้องการที่จะนำความจริงมาเปิดเผยและต้องการให้สภาผู้แทนราษฎรได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่สมเกียรติตัวแทนของประชาชน เพราะมีประชาชนและนายตำรวจที่ได้รับความเดือดร้อนจากคดีที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว โดยมีประชาชนโดนดำเนินคดีตามมาตรา 110 ซึ่งมีโทษถึงประหารชีวิต แต่วันนี้มีคนโหวตเห็นด้วยเพียง 45 เสียงเท่านั้น ซึ่งพรรคก้าวไกลยืนยันว่าจะตามหาความจริงต่อไป


ยืนยันว่าญัตตินี้ยังคงเป็นญัตติด่วนที่เราจะต้องต่อสู้เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาใน กมธ. เราหวังให้สภาฯเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการตรวจสอบและตามหาความจริง ส่วนกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านงดออกเสียง ก่อนหน้านี้ได้มีการประชุมในวิปฝ่ายค้าน และพรรคก้าวไกลได้แจ้งเรื่องนี้ไปแล้ว ส่วนการโหวตก็เป็นมติของแต่ละพรรค เราเคารพการตัดสินใจของพรรคร่วมฝ่ายค้าน