“ประวิตร” มั่นใจร่างสัญญาประชาคมจะเป็นที่ยอมรับของทุกคน สั่งมท.-กอ.รมน.เตรียมเผยแพร่

“ประวิตร” มั่นใจประชาชนรับร่างสัญญาประชาคม ปูทางสร้างความปรองดอง มอบ “มหาดไทย-กอ.รมน.จังหวัด” เตรียมเผยแพร่ทุกหมู่บ้าน ด้านโฆษกปรองดองเผยเตรียมส่งร่างฯ ป.ย.ป.ชุดใหญ่ 24 ก.ค.นี้ เชื่อร่างฯไม่สร้างเงื่อนไขขัดแย้งในอนาคต

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 กรกฎาคม ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรองประธานคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการครั้งสุดท้าย เพื่อสรุปร่างสัญญาประชาคม หลังจากจัดเวทีสาธารณะเพื่อชี้แจงร่างสัญญาประชาคม 4 กองทัพภาค เมื่อวันที่ 17-20 กรกฎาคมที่ผ่านมา

โดย พล.อ.ประวิตร แถลงภายหลังการประชุม ว่าในวันนี้เป็นการรับฟังข้อคิดเห็นภายหลังจากเปิดเวทีสาธารณะเพื่อชี้แจงร่างสัญญาประชาคมในพื้นที่ 4 กองทัพภาค รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมจากคณะกรรมการฯ และทุกภาคส่วน ว่าจะดำเนินการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อให้เกิดความชัดเจน แม้ว่าความคิดเห็นร่วมทั้ง 10 ข้อจะเป็นนามธรรมก็ตาม แต่เราจะต้องมีหลักการที่จะทำให้เกิดความร่วมมือกัน เพื่อให้ร่างสัญญาประชาคมเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้จากการเปิดเวทีสาธารณะทั้ง 4 กองทัพภาคที่ผ่านมา ตนมีความพึงพอใจในระดับหนึ่ง ที่มีข้อคิดเห็นต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ก่อนที่จะนำข้อคิดเห็นทั้งหมดมาสรุป ซึ่งตนคิดว่าจะแล้วเสร็จ 1-2 วัน เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดิน ตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความปรองดอง (ป.ย.ป.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นประธาน และเมื่อผ่านที่ประชุม ปยป.ก็จะลงไปแถลงรายละเอียดทั้งหมดผ่านโทรทัศน์ จากนั้นจะนำสัญญาประชาคมลงไปให้ประชาชนทุกหมู่บ้านรับทราบและเข้าใจ โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (กอ.รมน.จังหวัด) ดำเนินการ

“ผมเชื่อว่าร่างสัญญาประชาคมฉบับนี้จะเป็นที่ยอมรับของทุกคน อีกทั้งร่างสัญญาประชาคมก็เป็นส่วนหนึ่งของโรดแมป เพื่อให้รัฐบาลเดินต่อไปข้างหน้าได้ ผมจึงคิดว่าน่าจะประสบความสำเร็จ” พล.อ.ประวิตร กล่าว

เมื่อถามว่า แต่พรรคเพื่อไทยปฏิเสธไม่ยอมรับร่างสัญญาประชาคมจะส่งผลอะไรหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ส่งผลอะไร เพราะเราไปรับฟัง และชี้แจงทุกรายละเอียดให้ประชาชนทั้ง 4 กองทัพภาคแล้ว ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่เปลี่ยนท่าที แค่เป็นการพูดแบบเก่า และยังเป็นพรรคที่มีหลายพวกหลายคน ฉะนั้นเราต้องฟังความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ที่มีความคิดเห็นคล้ายคลึงกัน

เมื่อถามถึงกรณีการตัดสินคดีจำนำข้าวของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะส่งผลกระทบการสร้างความปรองดองหรือไม่ รองนายกฯประวิตรกล่าวว่า เรื่องคดีเป็นเรื่องของศาล และกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทางฝ่ายบริหารไม่ได้เกี่ยวข้อง ดังนั้นเชื่อว่าจะไม่กระทบกระบวนการสร้างความปรองดอง

ด้าน พล.ต.คงชีพ ตัณตระวาณิชย์ ประธานอนุกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง กล่าวว่า จากการรับฟังแนวทางปรองดองของประชาชนของทุกฝ่าย ได้เอาผลสะท้อนในรูปแบบของคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดองถึงความสมบูรณ์ของร่างสัญญาประชาคม เพื่อนำร่างดังกล่าวเสนอให้กับ ป.ย.ป. ในวันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม เพื่อให้คณะกรรมการชุดใหญ่ได้พิจารณาร่วมกัน ทั้งนี้การปรับไม่ได้มีการปรับอะไรมากเป็นเพียงปรับการปรับตามที่คณะกรรมการแนะนำ และที่ทำเพิ่มเติม 15 ข้อนั้น เป็นข้อปฏิบัติที่นำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมให้มากขึ้น ซึ่งหลังจากการประชุมในวันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคมนี้จะต้องขอดูรายละเอียดของเวลาที่เหมาะสมในการจะเผยแพร่ร่างสัญญาประชาคมต่อประชาชนต่อไป

“ความคิดเห็นร่วม 10 ข้อเป็นข้อคิดเห็นของประชาชนทั้งประเทศ ส่วน 15 ข้อ นั้นคือกรอบแนวทางที่จะนำไปสู่การปฏิบัติพี่จะเป็นรูปธรรมมากขึ้น ขณะนี้เราสัญญาดำเนินการไปแล้ว 98% เพราะได้รับการตอบรับจากประชาชนทั้ง 4 ภาคเป็นอย่างดี และมองตรงกันว่าถ้าเราร่วมกันทำให้เกิดเป็นรูปธรรมก็จะเกิดไม่มีการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งขึ้นในอนาคตอีก” พล.ต. คงชีพ กล่าว

 

ที่มา : มติชนออนไลน์