ครม.เห็นชอบขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบ-นำส่งเงินสมทบผ่านระบบ e-Payment ออกไปอีก 7 วัน นับจากวันที่ 15 ของทุกเดือน เป็นระยะเวลา 24 เดือน
วันที่ 4 มกราคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) พ.ศ….. ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการขยายกำหนดเวลายื่นแบบฯ ออกไปอีก 7 วันทำการ นับแต่วันที่พ้นกำหนดวันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการหักเงินสมทบไว้
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- ตรวจหวย ใบตรวจหวย ผลรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน 2567
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ร่างประกาศกระทรวงแรงงานฉบับนี้ จะมาทดแทนประกาศฉบับเดิมที่เริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค. 2562 และสิ้นสุดในเดือน ธ.ค. 2564 ซึ่งประกาศฉบับเดิมนั้นได้กำหนดให้นายจ้างจะต้องหักค่าจ้างของผู้ประกันตนและให้ถือว่าผู้ประกันตนทุกครั้งที่มีการจายค่าจ้างตามจำนวนที่ต้องนำส่งเป็นเงินสมทบและให้นายจ้างนำเงินสมทบทั้งส่วนของลูกจ้างและนายจ้างส่งแก่สำนักงานประกันสังคมภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการหักเงินสมทบไว้พร้อมยื่นแบบรายการแสดงการนำส่งเงินดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 13) เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2564 ได้เห็นว่าเพื่อส่งเสริมและรองรับความสะดวกในการประกอบธุรกิจของนายจ้าง และเพื่อประโยชน์ของผู้ประกันตนให้ได้รับความคุ้มครอง และสนับสนุนให้นายจ้างทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นสอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
จึงเห็นชอบให้ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ออกไปอีก 7 วัน นับแต่วันที่พ้นกำหนดวันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการหักเงินสมทบไว้ และนำเสนอต่อ ครม. และประกาศมีผลบังคับสำหรับค่าจ้างตั้งแต่เดือนที่ประกาศมีผลใช้บังคับเป็นระยะเวลา 24 เดือนต่อไป