กรธ.ฉลุย ไม่ขัดสนช.ยื้อ 5 ตุลาการ อ้างคำวินิจฉัยศาลรธน.ไม่เซ็ตซีโร่ผู้ตรวจฯ ยันไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แถลงผลการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ที่สนช.มีมติเห็นชอบทั้ง 3 วาระว่า กรธ.พิจารณาแล้ว ไม่มีความเห็นอะไรเพิ่มเติม ไม่มีความเห็นแย้งกับสนช.เพื่อตั้งกมธ.ร่วม 3 ฝ่าย เนื่องจากที่ผ่านมาตัวแทนจากกรธ.ที่เข้าร่วมเป็นกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายลูกว่าด้วยศาลรัฐธรรมนูญ ได้ชี้แจงเหตุผลและข้อห่วงกังวลในประเด็นต่างๆไว้ชัดเจนแล้วในชั้นกมธ.และในการพิจารณาของที่ประชุมสนช. วาระที่ 2 และ 3

นายอุดม กล่าวว่า อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 1/2560 ลงวันที่ 5 ก.ย. กรณีให้ผู้ตรวจการแผ่นดินดำรงตำแหน่งต่อไปนั้น ศาลวินิจฉัยว่าการดำรงตำแหน่งขององค์กรอิสระขึ้นกับการพิจารณาของสนช. เนื่องจากในมาตรา 273 ของรัฐธรรมนูญที่ระบุให้การดำรงตำแหน่งของกรรมการองค์กรอิสระเป็นตามกฎหมายลูกนั้น ไม่ได้ระบุข้อจำกัดเรื่องเวลาวาระดำรงตำแหน่ง คุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามเอาไว้ ซึ่งคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร

เมื่อถามถึงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยกรณีผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งผลให้ 5 ตุลการศาลรัฐธรรมนูญได้อยู่ต่อ เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนจนส่งผลต่อการยอมรับหรือไม่ และทั้ง 5 คนสามารถลาออกได้หรือไม่ นายอุดม กล่าวว่า คงพูดแบบนั้นได้ยาก เพราะตุลาการทั้ง 9 คนที่วินิจฉัย ไม่ใช่เนื้อเดียวกันทั้งหมด ส่วนหนึ่งพ้นวาระแล้ว แต่อีกส่วนก็คุณสมบัติครบ

โฆษกกรธ. กล่าวว่า ส่วนการพิจารณาของสนช. มีผู้อภิปรายให้ 5 ตุลาการอยู่ต่อไป แล้วให้สรรหาเมื่อมีสมาชิกรัฐสภาชุดใหม่นั้น ก็เพื่อให้ได้รับการยอมรับ เพราะเมื่อถึงตอนนั้นจะมีประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา และผู้นำฝ่ายค้าน ร่วมเป็นคณะกรรมการสรรหาด้วย ส่วนการลาออกนั้นก็ไม่ได้มีกฎหมายห้ามไม่ให้ลาออก

เมื่อถามถึงเนื้อหาที่ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญออกมาตรการชั่วคราว หรือคำบังคับ นายอุดมกล่าวว่า กรธ.พิจารณาแล้วเห็นว่า การออกมาตรการชั่วคราว และคำบังคับ มีทั้งข้อดีและข้อที่สุ่มเสี่ยง ข้อดีคือในเนื้อหากำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติและสถานการณ์การเมือง ก่อนออกมาตราการชั่วคราวหรือคำบังคับ แม้จะมีข้อห่วงกังวลว่าการใช้อำนาจนี้ของศาลรัฐธรรมนูญนี้ จะส่งผลกระทบทางการเมือง แต่ไม่ถึงกับขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ อีกทั้งสนช.ที่พิจารณาก็มีมติเห็นชอบด้วยเสียงข้างมากไปแล้ว นี่จึงเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องคำนึงถึงสถานการณ์ทางการเมืองด้วย

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์