เปิดตลาดนักการเมือง เบอร์ใหญ่-บิ๊กเนม สลับขั้ว-ย้ายค่าย

พรรคการเมืองใหม่-นักการเมืองหน้าเก่า เปิดตัวหัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรค อึกทึกครึกโครม พร้อมทำศึกเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นหลังกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับ บังคับใช้

ไทม์ไลน์ “วิษณุ เครืองาม” เนติบริกร พยากรณ์ไว้ว่าร่างกฎหมายเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)-ร่างกฎหมายพรรคการเมืองจะสะเด็ดน้ำ กรกฎาคม 2565

ในช่วงที่ “ตลาดนักการเมือง” ยังเปิดประตูเข้า-ออก ก่อนที่กฎหมายลูก-กติกาเลือกตั้ง “บัตร 2 ใบ” จะประกาศบังคับใช้ ปรากฏการณ์ย้ายค่าย-ข้ามขั้ว คึกคัก-ฝุ่นตลบ

พรรคการเมืองใหม่ที่ดูจะมีแม่เหล็กดึงดูด ต้องยกให้พรรคใหม่สี่กุมาร เตรียมเปิด “อุตตม สาวนายน” เป็นหัวหน้าพรรค “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” เป็นเลขาธิการพรรค “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” เป็น “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี”

“เซ้งหัว” พรรคเพื่ออนาคตไทย “รีแบรนด์” เป็น “พรรคสร้างอนาคตไทย”

ว่าที่ “พรรคสมคิด” เปิดดีลกับนักการเมืองขาใหญ่-วัยเก๋า พรรคลูก-พรรคเก่าแก่ หลากขั้ว ใจกลางโรงแรมหรูย่านราชดำริ “สมคิด” ลั่นวลีเด็ดไว้กลาง-ทำเนียบรัฐบาล ว่า “มวลมหามิตร”

เด็ดมือพระกาฬอย่าง “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “ขุนพลภาคใต้” มาเป็นกำลังหลักพื้นที่ภาคใต้

วางคิวเปิดพรรค ช่วงปลายเดือนมกราคม 2565 ระหว่างนี้ “ผู้ก่อตั้ง” และ “ผู้สนับสนุนหลัก” สุมหัวคิดยุทธศาสตร์พรรค เตรียมเปิดตัวยิ่งใหญ่

อีก 1 พรรค-พรรคไทยภักดี ของ “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรค เริ่มเปิดไพ่เด็ด “บิ๊กหยม” พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

เป็นเลขาธิการพรรคไทยภักดีคนแรก เนื่องจากโปรไฟล์เจ้าของนามเรียกขานเดิม “น.1” กลายเป็นพรรคแรงปลาย

“บิ๊กหยม” นักเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น 36-เพื่อนร่วมรุ่น “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา “น้องเลิฟ” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

“พล.ต.ท.ชาญเทพ” มีคอนเน็กชั่นพิเศษกับ “ถาวร เสนเนียม” อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย ถึงขั้นได้รับความไว้วางใจให้นั่งหัวโต๊ะสางทุจริตในบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สมัยที่เป็น รมช.คมนาคม

ยังมี “ทีมงานถาวร” ทินกร ปลอดภัย ไปเป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่ จึงไม่มีเหตุผลใดที่ “ถาวร” ลงเรือลำอื่น นอกจาก “เรือไทยภักดี”

สถานะของ “ถาวร” หลังจากศาลอาญาพิพากษาจำคุก “คดีชุมนุม กปปส.” และต่อมาศาลรัฐธรรมนูญมีวินิจฉัยให้พ้นสภาพจากความเป็น ส.ส. “บิ๊กเนม” อีกคนที่ “ไร้สังกัด”

พรรคไทยภักดี เตรียมเปิดตัวละครใหม่-คณะใหญ่ ราวปลายเดือนมกราคม 2565-หลังเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ครบทุกเขต ชื่อของ “ถาวร” อาจเป็น 1 ใน “เบอร์ใหญ่” ที่จะมาประดับพรรค

ส่วนพรรคกล้ามี “อดีตแม่ทัพเศรษฐกิจ” พรรคประชาธิปัตย์ “กรณ์ จาติกวณิช” เป็นหัวหน้าพรรค มี “คู่หู” อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เป็นเลขาฯ พรรค

“พรรคกรณ์” ชั่วโมงบินสูง ตั้งแต่ “กกต.” รับรองเป็นพรรคการเมืองอย่างเป็นทางการ ได้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมทุกสนาม เช็กเรตติ้งพรรค-เลี้ยงกระแส “ชูกรณ์” เป็นนายกรัฐมนตรี

เสริมทัพด้วย “ผู้การสุชาติ” พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคใต้พลังประชารัฐ ไปเป็น “ขุนพลปักษ์ใต้” หลังใช้ประสบการณ์ “ชิงเค้ก” ในพื้นที่ภาคใต้ที่มีการแข่งขันสูง

ผลพลอยได้จาก “ผู้การสุชาติ” คือ คอนเน็กชั่นเตรียมทหารรุ่นที่ 12 เพื่อนร่วมรุ่นบิ๊กตู่ ต่อท่ออำนาจ ร่วม “รัฐบาลประยุทธ์ 3” หลังการเลือกตั้งใหญ่

ขณะที่พรรคการเมืองที่ยังเป็นตัวอ่อน อย่าง “พรรค กปปส.” เตรียมรองรับ “อดีตแกนนำ 3 ทหารเสือ กปปส.” ที่ระหกระเหิน-ฟรีเอเย่นต์

บี-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จั้ม-สกลธี ภัททิยกุล รวมถึง ตั้น-ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ถึงแม้จะถูกตัดสิทธิทางการเมือง จากวิบากกรรมคดี กปปส. แต่ไม่ได้ถูกตัดสิทธิพลเมืองที่จะสนใจการบ้าน-การเมือง

โดยเฉพาะเป็น “ยานสำรอง” ให้ “จั้ม-สกลธี” หากสอบไม่ผ่านสนามเลือกตั้งท้องถิ่น-ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไว้ลุยสนามเลือกตั้งระดับชาติอีกยก

นอกจาก 4 พรรคน้องใหม่ บนกระดานการเมือง-การเลือกตั้งคราวหน้าแล้ว ก่อนหน้านี้ ยังมี “พรรคบิ๊กฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่เตรียมก่อตั้งเป็น “พรรคสำรอง” ให้กับ “พี่-น้อง 2 ป.” ในยามแตกคอกับ “พี่ใหญ่”

ไว้เรียกใช้บริการเสริม ที่พร้อมจะเป็นแม่เหล็กดูดนักการเมือง

ไม่นับรวม “ศิริศักดิ์ อ่อนละมัย” อดีต ส.ส.ชุมพร 6 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ที่แจ้งย้ายออก-กระโดดออกจากเรือสีฟ้าไปพายเรือลำใหม่-พลังประชารัฐ ผนึกกำลังกับ “ทนายแดง” สร้างผลงาน-ชิงเก้าอี้เลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลา เขต 6 ก่อนแจ้งย้ายเข้าทะเบียนราษฎร “พรรคบิ๊กป้อม”

หลังกฎหมายเลือกตั้งบังคับใช้ ตลาดนักการเมืองเบอร์ใหญ่-บิ๊กเนม “ไร้สังกัด” เตรียมย้ายค่าย-เบอร์ดัง ก่อนเสียงระฆังเลือกตั้งดังกังวาน