ขยายเวลาเอสเอ็มอีส่งข้อมูลเงินสมทบรับเงินเยียวยาหัวละ 3,000 บาท

ประกันสังคม-เงินเยียวยา

ครม.ไฟเขียวแก้เงื่อนไขเยียวยาเอสเอ็มอีหัวละ 3,000 บาท นายจ้างต้องนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ภายในวันที่ 17 ม.ค. 2565-ขยายเวลาดำเนินงานโครงการ พ.ร.ก.เงินกู้ฯ

วันที่ 11 มกราคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ปรับปรุงเงื่อนไขการจ่ายเงินอุดหนุนตามโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจเอสเอ็มอี สำหรับเดือน ธ.ค. 2564-ม.ค. 2565 ภายใต้เงื่อนไขการลงทะเบียนและนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ (ระบบ e-Service)

จากเดิมที่กำหนดว่า นายจ้างที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการต้องลงทะเบียนนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป โดยให้มีในผลงวดสมทบให้ สปส. เดือน พ.ย. 2564 เป็นต้นไป (นำส่งข้อมูลการส่งเงินสมทบภายในวันที่ 15 ธ.ค. 2564) โดยปรับปรุงเงื่อนไขเป็น

1.นายจ้างที่เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นผู้มีประวัติเคยนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของ สปส. ก่อนวันที่ 16 ธ.ค. 2564 และ 2.นายจ้างที่นำส่งข้อมูลเงินสมทบหลังวันที่ 15 ธ.ค. 2564 ต้องนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ภายในวันที่ 17 ม.ค. 2565

ทั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มนายจ้างเป้าหมายของโครงการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ได้รับความช่วยเหลือตามโครงการได้มากขึ้น พร้อมกันนี้ ครม.ได้มอบหมายให้กรมการจัดหางานเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จในกรอบระยะเวลาที่กำหนดต่อไป

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า พร้อมกันนี้ ครม.ได้อนุมัติให้สำนักงานประกันสังคม เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยขยายระยะเวลาดำเนินการจากเดิมสิ้นสุดเดือน ธ.ค. 2564 เป็น สิ้นสุด มี.ค. 2565 เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการเบิกจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่ได้รับเงินตามโครงการ

นอกจากนี้ ครม.ยังได้เห็นชอบการขยายระยะเวลาดำเนินโครงการของหลายโครงการที่ได้รับอนุมัติจาก ครม. ให้ใช้จ่ายงบประมาณจาก พ.ร.ก.เงินกู้ฯ เพิ่มเติม ได้แก่ อนุมัติให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติขยายเวลาดำเนินโครงการภายใต้แผนการเร่งรัดการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 สำหรับประชาชนคนไทย จากเดิมสิ้นสุด ธ.ค. 2564 เป็น พ.ค. 2565 ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขขยายระยะเวลาดำเนินโครงการพัฒนาระบบสื่อสารสั่งการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับกระทรวงและระดับเขตสุขภาพเป็น SmartEOC และโครงการพัฒนาศักยภาพระบบบริการสุขภาพรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากเดิมสิ้นสุด ธ.ค. 2564 เป็น มี.ค. 2565

รวมถึงให้กรมการพัฒนาชุมชน ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” จากเดิมสิ้นสุด ธ.ค. 2564 เป็น มี.ค. 2565 พร้อมกับปรับลดกิจกรรมย่อยรวม 3 กิจกรรม และลดวงเงินดำเนินการลงรวม 25 ล้านบาท ทำให้วงเงินดำเนินการตามโครงการอยู่ที่ 4,762.91 ล้านบาท จากเดิม 4,787.91 ล้านบาท