หมอระวี เชื่อ มีแค่บางพรรคที่หนุน “ธรรมนัส” ส่วนใหญ่หนุนประยุทธ์

หมอระวี เชื่อ มีแค่บางพรรคที่หนุน “ธรรมนัส” ส่วนใหญ่หนุนประยุทธ์

นพ.ระวี พลังธรรมใหม่ ชี้ พรรคเล็กไม่ได้คิดจะกินแต่กล้วย ตอนที่ประชาชนเดือดร้อน มีแค่บางพรรคตามไปอยู่กับธรรมนัส แต่ส่วนใหญ่หนุนรัฐบาลประยุทธ์

วันที่ 21 มกราคม 2565 ที่รัฐสภา นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ แถลงกรณีกระแสข่าวพรรคเล็กจะย้ายไปร่วมงานกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า มีคนปล่อยข่าวกับสื่อมวลชนว่า กลุ่มพรรคเล็ก 9 ส.ส.มีแนวโน้ม จะตาม ร.อ.ธรรมนัสไป ยกเว้นตนนั้น การปล่อยข่าวแบบนี้สร้างความเสียหายกับกลุ่มพรรคเล็ก

จากข่าวนี้สื่อหลายสำนักนำไปขยายความต่อว่า ศึกครั้งนี้กล้วยที่พรรคเล็กจะได้รับ จะได้กันแบบยกทั้งเครือ ทั้ง ๆ ที่ไม่เป็นความจริง แน่นอนว่าถ้าพรรคเล็ก 9 ส.ส. ไปร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส จริงจะสร้างอำนาจต่อรองอย่างแรงต่อนายกรัฐมนตรี ถ้านายกฯไม่ยอมอาจถึงขั้นยุบสภาได้

นพ.ระวีกล่าวต่อว่า ความขัดแย้งครั้งนี้เป็นความขัดแย้งภายในของพรรคพลังประชารัฐพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆรวมทั้งกลุ่มพรรคเล็กไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ตนจึงขอเตือนไปยัง ส.ส.คนใดที่ปล่อยข่าวแบบนี้ ถือว่าเป็นการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ ในยามโควิดระบาดและข้าวยากหมากแพงในขณะนี้ ประเทศและประชาชนต้องการนักการเมืองที่คิดหาทางช่วยประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้ด้วยดี ไม่ใช่คิดแต่จะเล่นเกมการเมือง เพื่ออำนาจผลประโยชน์และคิดแต่จะหากล้วยเช่นนี้

“ผมเชื่อว่า ส.ส.พรรคเล็กจำนวนมาก ยังคงยืนหยัดทำในสิ่งที่ควรจะทำถูกต้องชอบธรรม ไม่ได้คิดแต่จะกินกล้วย แต่อาจจะมีบางคน บางพรรคเท่านั้น ที่อาจจะตาม ร.อ.ธรรมนัสไป แต่ถ้ามีก็คงเป็นเพียงส่วนน้อย สำหรับพรรคพลังธรรมใหม่ ถูกปล่อยข่าวว่าเหลือพรรคเดียวที่ยังเหนียวแน่นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์นั้นความจริงแล้วพรรคเล็กส่วนมากยังสนับสนุนรัฐบาลอยู่” นพ.ระวีกล่าว

นพ.ระวีกล่าวว่า พรรคพลังธรรมใหม่ไม่ใช่องครักษ์พิทักษ์ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ยึดมั่นหลักการที่สนับสนุนรัฐบาลประชาธิปไตย ที่มาจากการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 รัฐบาลที่คอยปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐบาลที่ซื่อสัตย์ สุจริต ทุ่มเท ทำเพื่อบ้านเมือง ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาพลังธรรมใหม่ประกาศจุดยืนเป็นฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์ในรัฐบาล

รัฐบาลมีจุดอ่อนจุดใด พลังธรรมใหม่ก็จะเสนอให้รัฐบาลแก้ไขปรับปรุงอย่างจริงจัง ดังนั้น ขณะนี้ในภาวะวิกฤตโควิดที่รุนแรงไปทั่วโลก รัฐบาลก็ย่อมอาจจะมีจุดอ่อนจากการบริหารและมีความผิดพลาดอยู่บ้าง แต่จุดยืนดังกล่าว รัฐบาลยังมีอยู่ครบ พลังธรรมใหม่จึงยังคงยืนหยัดรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ให้บริหารประเทศต่อไป

เมื่อถามว่า มองสถานการณ์การเมืองช่วงนี้อย่างไร เพราะเสียงของรัฐบาลที่หายไปอาจจะส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล นพ.ระวีกล่าวว่า ส่งผลต่อเสถียรภาพแน่นอน แต่ในส่วนตัวพรรคพลังธรรมใหม่วิเคราะห์แล้วว่าต่อให้ 21 เสียงไปอยู่กับฝ่ายค้าน หรือต่อให้กลุ่มพรรคเล็กบางส่วนตามร.อ.ธรรมนัสไปแล้วโหวตให้กับฝ่ายค้าน หรือโหวตคว่ำรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมาถึงในสมัยประชุมหน้าช่วงเดือนพฤษภาคมหรือเมื่อร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 เข้าสภา

ตนยังเชื่อว่ารัฐบาลก็ยังผ่านพ้นไปได้ เพราะถึงอย่างไรเสียงรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้านเกือบ 7 เสียง ซึ่งคล้ายกับรัฐบาลในปีแรกที่มีเสียงปริ่มน้ำ และถ้าเป็นการโหวตเรื่องสำคัญ รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.ก็ต้องทิ้งงานและเข้ามาร่วมประชุมสภา แต่ในภาวะเช่นนี้พรรคร่วมรัฐบาลทุกคนก็ต้องเข้าร่วมประชุมสภา ไม่เช่นนั้นอาจเกิดสภาฯล่มได้ ซึ่งนาน ๆ จะเกิดเหตุการณ์ที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอให้นับองค์ประชุม

เมื่อถามว่า มีความคาดหวังหรือไม่ว่ากลุ่มร.อ.ธรรมนัสยังทำงานร่วมกับรัฐบาลต่อไป นพ.ระวีกล่าวว่า เรื่องนี้ตอบยาก เพราะขึ้นอยู่กับการเจรจา ตนคิดว่าสื่อและประชาชนคงอ่านเกมออก เพราะแปลกที่มีการขับ ส.ส.ออกจากพรรคถึง 21 คน และน่าแปลกมากที่มติกรรมการบริหารพรรคขับตัวเอง เพราะฉะนั้น ต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลังกอไผ่แน่นอน และคงจะต้องมีการต่อรองอะไรกันพอสมควร ซึ่งตนไม่ทราบ และผลจะเป็นอย่างไรอาจจะฝันค้างก็ได้ หรืออาจจะเป็นฝันที่เป็นจริงก็ได้

เมื่อถามว่า สรุปแล้วตอนนี้มีพรรคเล็กที่มีเจตจำนงค์ชัดเจนว่าจะไปร่วมงานกับ ร.อ.ธรรมนัสแล้วกี่พรรค นพ.ระวีกล่าวว่า ขอให้ไปดูการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2564 ว่ามีพรรคเล็กใดบ้างที่อยู่กับรัฐบาลหรือไม่อยู่กับรัฐบาล ทั้งนี้ เชื่อว่าพรรคเล็กส่วนมากยังคิดถึงเรื่องบ้านเมืองมากกว่าเรื่องกล้วย หากสถานการณ์ไปไม่ไหวจนนายกฯ คิดยุบ ก็ต้องยุบ ส่วนพรรคพลังธรรมใหม่พร้อมเลือกตั้ง แต่ทั้งนี้เชื่อว่าหากนายกฯจะตัดสินใจยุบสภา ก็คาดว่าจะเป็นช่วงหลังเปิดประชุมสภาสมัยหน้าช่วงเดือนพฤษภาคมไปแล้ว