
นพ.ระวี พลังธรรมใหม่ ชี้ พรรคเล็กไม่ได้คิดจะกินแต่กล้วย ตอนที่ประชาชนเดือดร้อน มีแค่บางพรรคตามไปอยู่กับธรรมนัส แต่ส่วนใหญ่หนุนรัฐบาลประยุทธ์
วันที่ 21 มกราคม 2565 ที่รัฐสภา นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ แถลงกรณีกระแสข่าวพรรคเล็กจะย้ายไปร่วมงานกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า มีคนปล่อยข่าวกับสื่อมวลชนว่า กลุ่มพรรคเล็ก 9 ส.ส.มีแนวโน้ม จะตาม ร.อ.ธรรมนัสไป ยกเว้นตนนั้น การปล่อยข่าวแบบนี้สร้างความเสียหายกับกลุ่มพรรคเล็ก
- ในหลวง พระราชินี เสด็จฯส่วนพระองค์ ทรงร่วมแข่งเรือใบ จ.ภูเก็ต
- เช็กที่นี่ เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนธันวาคม 2566 เงินเข้าวันไหน
- เปิดค่าตอบแทน “ผู้บริหาร” ยักษ์ บจ. BBL จ่ายพันล้านต่อปี ทิ้งห่างคู่แข่ง
จากข่าวนี้สื่อหลายสำนักนำไปขยายความต่อว่า ศึกครั้งนี้กล้วยที่พรรคเล็กจะได้รับ จะได้กันแบบยกทั้งเครือ ทั้ง ๆ ที่ไม่เป็นความจริง แน่นอนว่าถ้าพรรคเล็ก 9 ส.ส. ไปร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส จริงจะสร้างอำนาจต่อรองอย่างแรงต่อนายกรัฐมนตรี ถ้านายกฯไม่ยอมอาจถึงขั้นยุบสภาได้
นพ.ระวีกล่าวต่อว่า ความขัดแย้งครั้งนี้เป็นความขัดแย้งภายในของพรรคพลังประชารัฐพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆรวมทั้งกลุ่มพรรคเล็กไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ตนจึงขอเตือนไปยัง ส.ส.คนใดที่ปล่อยข่าวแบบนี้ ถือว่าเป็นการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ ในยามโควิดระบาดและข้าวยากหมากแพงในขณะนี้ ประเทศและประชาชนต้องการนักการเมืองที่คิดหาทางช่วยประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้ด้วยดี ไม่ใช่คิดแต่จะเล่นเกมการเมือง เพื่ออำนาจผลประโยชน์และคิดแต่จะหากล้วยเช่นนี้
“ผมเชื่อว่า ส.ส.พรรคเล็กจำนวนมาก ยังคงยืนหยัดทำในสิ่งที่ควรจะทำถูกต้องชอบธรรม ไม่ได้คิดแต่จะกินกล้วย แต่อาจจะมีบางคน บางพรรคเท่านั้น ที่อาจจะตาม ร.อ.ธรรมนัสไป แต่ถ้ามีก็คงเป็นเพียงส่วนน้อย สำหรับพรรคพลังธรรมใหม่ ถูกปล่อยข่าวว่าเหลือพรรคเดียวที่ยังเหนียวแน่นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์นั้นความจริงแล้วพรรคเล็กส่วนมากยังสนับสนุนรัฐบาลอยู่” นพ.ระวีกล่าว
นพ.ระวีกล่าวว่า พรรคพลังธรรมใหม่ไม่ใช่องครักษ์พิทักษ์ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ยึดมั่นหลักการที่สนับสนุนรัฐบาลประชาธิปไตย ที่มาจากการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 รัฐบาลที่คอยปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐบาลที่ซื่อสัตย์ สุจริต ทุ่มเท ทำเพื่อบ้านเมือง ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาพลังธรรมใหม่ประกาศจุดยืนเป็นฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์ในรัฐบาล
รัฐบาลมีจุดอ่อนจุดใด พลังธรรมใหม่ก็จะเสนอให้รัฐบาลแก้ไขปรับปรุงอย่างจริงจัง ดังนั้น ขณะนี้ในภาวะวิกฤตโควิดที่รุนแรงไปทั่วโลก รัฐบาลก็ย่อมอาจจะมีจุดอ่อนจากการบริหารและมีความผิดพลาดอยู่บ้าง แต่จุดยืนดังกล่าว รัฐบาลยังมีอยู่ครบ พลังธรรมใหม่จึงยังคงยืนหยัดรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ให้บริหารประเทศต่อไป
เมื่อถามว่า มองสถานการณ์การเมืองช่วงนี้อย่างไร เพราะเสียงของรัฐบาลที่หายไปอาจจะส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล นพ.ระวีกล่าวว่า ส่งผลต่อเสถียรภาพแน่นอน แต่ในส่วนตัวพรรคพลังธรรมใหม่วิเคราะห์แล้วว่าต่อให้ 21 เสียงไปอยู่กับฝ่ายค้าน หรือต่อให้กลุ่มพรรคเล็กบางส่วนตามร.อ.ธรรมนัสไปแล้วโหวตให้กับฝ่ายค้าน หรือโหวตคว่ำรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมาถึงในสมัยประชุมหน้าช่วงเดือนพฤษภาคมหรือเมื่อร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 เข้าสภา
ตนยังเชื่อว่ารัฐบาลก็ยังผ่านพ้นไปได้ เพราะถึงอย่างไรเสียงรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้านเกือบ 7 เสียง ซึ่งคล้ายกับรัฐบาลในปีแรกที่มีเสียงปริ่มน้ำ และถ้าเป็นการโหวตเรื่องสำคัญ รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.ก็ต้องทิ้งงานและเข้ามาร่วมประชุมสภา แต่ในภาวะเช่นนี้พรรคร่วมรัฐบาลทุกคนก็ต้องเข้าร่วมประชุมสภา ไม่เช่นนั้นอาจเกิดสภาฯล่มได้ ซึ่งนาน ๆ จะเกิดเหตุการณ์ที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอให้นับองค์ประชุม
เมื่อถามว่า มีความคาดหวังหรือไม่ว่ากลุ่มร.อ.ธรรมนัสยังทำงานร่วมกับรัฐบาลต่อไป นพ.ระวีกล่าวว่า เรื่องนี้ตอบยาก เพราะขึ้นอยู่กับการเจรจา ตนคิดว่าสื่อและประชาชนคงอ่านเกมออก เพราะแปลกที่มีการขับ ส.ส.ออกจากพรรคถึง 21 คน และน่าแปลกมากที่มติกรรมการบริหารพรรคขับตัวเอง เพราะฉะนั้น ต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลังกอไผ่แน่นอน และคงจะต้องมีการต่อรองอะไรกันพอสมควร ซึ่งตนไม่ทราบ และผลจะเป็นอย่างไรอาจจะฝันค้างก็ได้ หรืออาจจะเป็นฝันที่เป็นจริงก็ได้
เมื่อถามว่า สรุปแล้วตอนนี้มีพรรคเล็กที่มีเจตจำนงค์ชัดเจนว่าจะไปร่วมงานกับ ร.อ.ธรรมนัสแล้วกี่พรรค นพ.ระวีกล่าวว่า ขอให้ไปดูการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2564 ว่ามีพรรคเล็กใดบ้างที่อยู่กับรัฐบาลหรือไม่อยู่กับรัฐบาล ทั้งนี้ เชื่อว่าพรรคเล็กส่วนมากยังคิดถึงเรื่องบ้านเมืองมากกว่าเรื่องกล้วย หากสถานการณ์ไปไม่ไหวจนนายกฯ คิดยุบ ก็ต้องยุบ ส่วนพรรคพลังธรรมใหม่พร้อมเลือกตั้ง แต่ทั้งนี้เชื่อว่าหากนายกฯจะตัดสินใจยุบสภา ก็คาดว่าจะเป็นช่วงหลังเปิดประชุมสภาสมัยหน้าช่วงเดือนพฤษภาคมไปแล้ว