‘ดอน’เผยอียูฟื้นสายสัมพันธ์ทางการเมืองเป็นเรื่องน่ายินดี เชื่อสะท้อนพัฒนาการของไทยตลอด 3 ปี

‘ดอน’เผยอียูฟื้นสายสัมพันธ์ทางการเมือง เป็นเรื่องน่ายินดีแต่ไม่ควรลิงโลด เชื่อสะท้อนพัฒนาการของไทยตลอด 3 ปี ยืนยันเดินหน้าตามโรดแมป

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรป (อียู) มีมติฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการเมืองกับประเทศไทย โดยมีเงื่อนไขว่าไทยจะต้องจัดเลือกตั้งภายในเดือน พ.ย.2561 และไม่ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพว่า เป็นข่าวดี แสดงให้เห็นว่าไทยมีพัฒนาการที่ดีขึ้นตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงพัฒนาทางการเมืองระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปดีขึ้นอีกขั้นหนึ่งจากการที่เขามีท่าทีผ่อนคลาย ซึ่งจะทำให้การติดต่ออย่างเป็นทางการในทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางการเมืองเดินหน้าไปได้ ซึ่งจะทำให้การแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกัน การเชิญเขามาเยือนไทยก็สามารถทำได้ทันที ไม่มีข้อบังคับจำกัดเขา ขณะที่ประเทศใดในอียูต้องการจะเชิญผู้นำทางการเมืองของไทยไปเยือน ก็สามารถทำได้เลย ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญและมีความชัดเจนที่สุด ส่วนเงื่อนไขต่างๆ ของเขาเป็นท่าทีปกติ ไม่ได้เป็นเรื่องรุนแรงอะไร

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวอีกว่า นอกจากพัฒนาการที่ดีของเราแล้ว ยังมีเรื่องของกระแสการเมืองระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ทำให้เขาเห็นว่าต้องเข้ามาคุยกับเราด้วย ดังนั้น สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นว่าเป็นการผสมผสานระหว่างปัจจัยร่วมกัน ถือเป็นเรื่องที่เราต้อนรับด้วยความยินดี แต่ไม่ต้องดีใจลิงโลดกันเป็นพิเศษ จากนี้ไปคงจะได้เห็นการติดต่อระหว่างกันมากขึ้น และการผ่อนคลายเหล่านี้จะมีผลต่อจิตใจของนักลงทุนมากขึ้น รวมถึงการเจรจาต่างๆ อาทิ การทำข้อตกลงเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) จะได้รับการนำมาพิจารณาว่าแต่ละฝ่ายมีความพร้อมหรือเหมาะสมในการเดินหน้าต่ออย่างไร

เมื่อถามว่า หากในอนาคตเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจนต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก จะทำให้อียูลดระดับความสัมพันธ์กับไทยลงหรือไม่ นายดอนกล่าวว่า นี่เป็นเรื่องที่อยู่ในขั้นตอนจากนี้ไป เป็นเวลา 1 ปีของการติดต่อหารืออย่างเป็นทางการระหว่างกัน ซึ่งจะทำให้มีโอกาสได้อธิบายว่าเกิดเหตุอะไร แต่วันนี้ทุกฝ่ายของเรายังเดินตามโรดแมปต่อไป

 


ที่มา  มติชนออนไลน์