ถอดรหัส แก้ กม.พรรคการเมือง คสช.อำพราง “เลื่อนโรดแมป”

“เรื่องปลดล็อกเห็นพูดกันมานานแล้ว ผมบอกแล้วเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย กฎหมายเรียบร้อย ผมก็จะปลดล็อกอยู่ดี และปลดล็อกที่ว่าจะเป็นการปลดล็อกเป็นขั้น ๆ ไป ทุกพรรคการเมืองมีความจำเป็นแตกต่างกัน พรรคเล็ก ใหญ่ พรรคใหม่ พรรคเก่า ก็ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองพวก”

เป็นคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2560 ปลอบขวัญนักการเมืองพรรคใหญ่ที่ออกมาขย่ม คสช.ให้ใจเย็น ๆ

แม้ใกล้ถึงเส้นตายที่มาตรา 141 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ว่าพรรคการเมืองจะต้องทำ “กิจกรรม” ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้

เส้นตายแรกคือ ให้พรรคการเมืองแจ้งการเปลี่ยนแปลงสมาชิกพรรค ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายใน 90 วัน นับตั้งแต่กฎหมายใช้บังคับ ซึ่งจะครบกำหนด 5 มกราคม 2561 ซึ่งเหลือไม่ถึงเดือน

คำพูดของ “พล.อ.ประยุทธ์” กลับไปสอดคล้องเป็นเพลงเดียวกับที่”สุเทพ เทือกสุบรรณ” เลขาธิการ กปปส.ที่เปรียบเสมือนพาวเวอร์แบงก์คอยต่ออายุโรดแมปให้ คสช. เปิดประเด็นด้วยการทำหนังสือถึง “พรเพชร วิชิตชลชัย” ประธานสภานิติบัญญัติแห่งขาติ (สนช.) ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2560 ให้แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ป.พรรคการเมือง เพื่อความเป็นธรรมระหว่างพรรคการเมืองเก่า และพรรคการเมืองที่จัดขึ้นใหม่ และวันที่ 12 ธันวาคม ในวันเดียวกันกับที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ขอให้พรรคใหญ่ใจเย็น ๆ

“ไพบูลย์ นิติตะวัน” อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่หันมาตั้งพรรคการเมือง “ประชาชนปฏิรูป” หนุน “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นนายกฯ ได้ปฏิบัติการแถลงข่าวที่รัฐสภา “เขี่ยบอลการเมือง” สอดคล้องกับ “สุเทพ” โดยขอให้ สนช.แก้ไข พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 140 และ 141(5) เรื่องสมาชิกพรรคการเมืองห้าพันคนต้องจ่ายค่าบำรุงพรรคการเมือง

“พรเพชร” ในฐานะประธาน สนช.จึงกล่าวตอบรับว่า กระบวนการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ตามรัฐธรรมนูญสามารถทำได้

1.ผ่านการเสนอของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ 2.แก้โดย สนช. แต่ส่วนตัวมองว่าหากใช้การแก้ไขเพิ่มเติม อาจใช้เวลานาน ไม่ต่ำกว่า 2 เดือน เพราะต้องมีกระบวนการรับฟังความเห็นของประชาชน ตามมาตรา 77 วรรคสองของรัฐธรรมนูญ ดังนั้นอาจจะมีปัญหาและผลกระทบต่อระยะเวลาที่เขียนไว้ในบทเฉพาะกาลของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง อาจกระทบต่อโรดแมปเลือกตั้งปี 2561 ได้

และมาถึงบทสรุปของเรื่องปรากฏผ่านคำพูดของ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี ที่กล่าวว่า “คสช.รู้ดีมาตั้งแต่ต้นว่าหากเกิดอะไรขึ้นต้องแก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง เพื่อจะได้ผ่อนปรน ซึ่งการผ่อนปรนหรือขยายเวลาในลักษณะแบบนี้จะทำให้ไม่เสียสิทธิของพรรคการเมือง หากปฏิบัติไม่ทันตามกำหนดเวลาในมาตรา 141 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง”

“คสช.ระบุว่า จะไม่ทำให้พรรคการเมืองเสียประโยชน์เพียงแต่ว่าไม่ต้องรีบร้อนอะไร เพราะกฎหมายเลือกตั้งยังไม่ถึงไหน และยังไม่รู้จะเลือกตั้งเมื่อไหร่ เท่าที่ผมได้ยินแว่ว ๆ ว่ามีคนออกมาร้องเรียนควรจะมีการแก้ไข เห็นนายไพบูลย์ออกมาเสนอ และก่อนหน้านี้ก็มีคนออกมาเสนอ คสช.ได้รับทราบเรื่อง แต่จะตัดสินใจกันอย่างไร ผมไม่ทราบแล้ว อยู่ที่ คสช.”

ขณะที่ “มีชัย ฤชุพันธุ์” ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ คณะที่ยกร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมือง กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า การจะแก้กฎหมายอาจจะแก้เพราะใช้ไม่ได้ หรือเวลาไม่พอ ถ้าเวลาไม่พอก็แก้เพื่อขยายเวลาได้ หรือแก้เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป

คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ หนังสือของสุเทพ การขอแก้ไข พ.ร.ป.พรรคการเมืองของไพบูลย์ การโยนหินเรื่องเงื่อนเวลาแก้ไขกฎหมายลูกของพรเพชร และคำพูดสรุปของวิษณุ กลายเป็นภาพ “จิ๊กซอว์” ที่นำมาต่อกัน

แน่นอนว่า บรรทัดสุดท้ายหากมีการแก้ไข พ.ร.ป.พรรคการเมือง การเลือกตั้งจะไม่ใช่พฤศจิกายน หรือ ธันวาคม 2561 อีกต่อไป