อนุทิน ย้ำ อำนาจยุบสภาอยู่ที่ ประยุทธ์ exercise ดีไซน์ ท่าลง อยู่ครบวาระ โชว์ความมั่นคงระบบการเมือง-เสถียรภาพพรรคร่วมรัฐบาล
วันที่ 17 มีนาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงงานเลี้ยงอาหารค่ำกับพรรคเล็กว่า “ไป เราเป็นผู้ฟัง เป็นผู้ให้กำลังใจดีที่สุด ทำอย่างไรก็ได้ให้รัฐบาลทำงานได้ มีความมั่นคง บ้านเมืองจะได้มีความมั่นคง ยังมีปัญหาหลายอย่างที่ต้องแก้ ไม่ใช่ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ ขอแค่ให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ”
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เข้าบัญชีวันนี้ 5 จังหวัด
- วิธีเช็กเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท chongkho.inbaac.com
- EV จีนทุบราคาเลือดสาด ฉางอานท้ารบ-BYD เกทับลดอีกแสน
ผู้สื่อข่าวถามถึงคำพูดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ว่าจะมีการยุบสภาหลังจากการประชุมเอเปก นายอนุทินกล่าวว่า ตนเคยพูดไว้แล้ว และยืนยันคำพูดเดิมว่า คนที่ยุบสภาได้ตามรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมาย คือ นายกรัฐมนตรี เป็นสิทธิของนายกรัฐมนตรี เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี
“ถ้าท่านนายกฯ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) พิจารณาแล้วเห็นว่า มีความเหมาะสม หรือ มีความจำเป็นที่จะต้องยุบสภา ท่านก็สามารถ exercise อำนาจของท่านได้ ไม่ใช่เรื่องของผม หรือ เรื่องของใคร อะไรที่ไม่ใช่เรื่องของเรา เราก็อย่าไปเสียเวลากับมัน เรื่องของเราคือการทำงาน ทำงานเต็มที่ ตอนนี้สภายังมีอยู่ รัฐบาลยังบริหารประเทศอยู่ก็ต้องทำงานทุกอย่าง”
เมื่อถามย้ำว่า เห็นด้วยหรือไม่ว่า ช่วงเวลาการยุบสภาที่เหมาะสมที่สุด คือ หลังจากรัฐบาลเป็นเจ้าภาพเอเปคนายอนุทินกล่าวว่า ไม่ใช่หน้าที่ผม หน้าที่ผม คือ ทำงานทุกอย่างให้ดี และในส่วนของพรรคภูมิใจไทยที่ผมรับผิดชอบอยู่ หน้าที่ของผมคือ ให้ความมั่นใจว่า เขาสนับสนุนรัฐบาลในการทำงาน สนับสนุนรัฐมนตรีในการทำงาน
ถ้ารัฐมนตรีคนนั้นทำในสิ่งที่ชอบ ทำในสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย พรรคภูมิใจไทยสนับสนุน ถ้ารัฐมนตรีคนไหน ไม่รักษาประโยชน์บ้านเมือง ไม่รักษาประโยชน์ประชาชน ทำในสิ่งไม่ชอบ พรรคภูมิใจไทยก็ไม่สนับสนุน นี่คือ หน้าที่ของผม ทำอะไรต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน
เมื่อถามว่า การเป็นเจ้าภาพจัดงานเอเปคควรเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการเห็นด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็เห็นด้วย คิดแบบง่าย ๆ เราไปเจรจาความกับใคร เป็นประธานประชุมที่ไหน ส่งมือสอง มือสามมา เราชอบไหมล่ะ ถ้าเราไม่ชอบก็ความรู้สึกเหมือนกัน เป็นหน้าตาของประเทศ เป็นอนาคต เป็นความเชื่อมั่นของประชาคมโลกที่มีต่อประเทศไทย เป็นสิ่งที่เราต้องเสริมสร้างความเข้มแข็ง
“นึกภาพถ้าประเทศไทยทำได้ ท่ามกลางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ มีความขัดแย้ง มีสงคราม คนเหล่านั้นก็เป็นสมาชิกของเอเปค ถ้าเราสามารถทำให้ผู้นำของประเทศเหล่านั้นมาร่วมประชุมได้ ยังไงก็ไม่มีอะไรเสียหาย มีแต่เรื่องที่ดี ผมคิดว่า ท่านนายกฯ คงมีความตั้งใจที่จะทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้น ไม่ใช่ดีเฉพาะประเทศไทย ถ้าเราทำสำเร็จ เกิดผลดีทั้งโลก เกิดผลที่ดีกับประชาชน”
เมื่อถามว่า ในฐานะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ดีไซน์ท่าลงของรัฐบาลควรจะลงแบบยุบสภาหรือครบวาระ นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าอยู่ครบวาระมันก็ดี เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงของระบบการเมืองของประเทศไทย เป็นความมั่นคงของการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล
“แต่ว่า มาถามปีที่ 3 ก็เหมือนกัน หลังปีที่ 3 ไปก็ต้องพร้อมแล้วล่ะ ทำงานทุกวันให้ดีที่สุด เราจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะยุบเมื่อไหร่ จะเลือกตั้งเมื่อไหร่ ถ้าเราทำงานชาวบ้านเห็น ไว้ใจเรา เขาก็ให้โอกาสเรากลับเข้ามา ต่อให้เราบอกว่า ทำดีแล้ว ทำหนักแล้ว แต่ชาวบ้านไม่เลือกก็คือ แสดงว่าเราทำไม่ดี หลักมีอยู่แค่นี้ ผมทำงานก็คิดอยู่แค่นี้ ไม่ปวดหัวอะไรเท่าไหร่” นายอนุทินกล่าวว่า
เมื่อถามทีเล่นทีจริง ว่า ถ้ารัฐบาลอยู่ครบวาระ ส.ส.ย้ายพรรคยากนะ นายอนุทินกล่าวว่า “ดี”
เมื่อถามว่า หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยพร้อมเป็นนายกฯ ใช่หรือไม่ นายอนุทิน ไม่ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้มและโบกมือคล้ายกับปฏิเสธ
