จ่อ ปลด นกกรงหัวจุก พ้นบัญชีสัตว์สงวน เป็น สัตว์เศรษฐกิจ

นกกรงหัวจุก
เครดิตภาพ : zoothailand.org

รัชดา-รองโฆษกรัฐบาล บอร์ดผู้แทนพิเศษรัฐบาลแก้ปัญหาชายแดนใต้ เผย “บิ๊กช้าง” รับลูกปลด นกกรงหัวจุก จากบัญชีสัตว์สงวน เป็น สัตว์เศรษฐกิจ

วันที่ 25 มีนาคม 2565 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม เป็นประธาน เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 65 มีมติรับข้อเสนอจากประชาชนในพื้นที่ ที่ต้องการให้ปลด นกกรงหัวจุก ออกจากบัญชีสัตว์สงวน ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เนื่องจากปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงจำนวนมาก อีกทั้งยังสอดรับกับนโยบายการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจและอัตลักษณ์ของท้องถิ่นตามนโยบายของรัฐบาลด้วย

น.ส.รัชดากล่าวว่า ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เสนอเรื่องให้กรมอุทยานฯ ดำเนินการรับฟังความเห็นของประชาชนและศึกษาสถานการณ์จำนวนนกกรงหัวจุก เพื่อพิจารณาการถอดถอนออกจากบัญชีสัตว์สงวน ซึ่งกรณีคล้าย ๆ กัน เช่น นกเขาชวา ที่ได้ถูกถอดออกจากบัญชีสัตว์สงวน เมื่อพบว่ามีจำนวนมากในธรรมชาติ และการเพาะเลี้ยงในกรง มีศักยภาพมากขึ้น ทำให้ทุกวันนี้ นกเขาชวากลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจของพื้นที่ภาคใต้อีกชนิดหนึ่ง

น.ส.รัชดากล่าวว่า ในอดีตมีความกังวลถึงการสูญพันธุ์ขอนกกรงหัวจุก จึงได้กำหนดให้เป็นสัตว์สงวน ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ตั้งแต่ปี 2503 เมื่อครั้งเปิดให้มีการแจ้งการครอบครองปี 2546 มีผู้มาแจ้งจำนวนกว่า 9 หมื่นตัว ปัจจุบันนี้นกกรงหัวจุกที่ประชาชนเลี้ยงและมีการขยายพันธุ์เองมีจำนวนมาก และเมื่อรวมทั่วประเทศแล้วมีมากกว่าหลายแสนตัว โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ยังถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจ สร้างรายได้ทั้งคนเลี้ยงและกลุ่มชุมชนที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น กรง อาหารสัตว์ ถ้วยเซรามิกใส่น้ำ นอกจากนี้ การเลี้ยงนกกรงหัวจุกยังเป็นทั้งวิถีชีวิตและอัตลักษณ์ท้องถิ่น ทั้งเลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลินหรือส่งเข้าประกวด เป็นที่นิยมของคนทุกเพศ ทุกวัย และเป็นกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกลุ่มคน ประกอบกับเยาวชนบางกลุ่มในพื้นที่ ยังมีมุมมองว่า การเลี้ยงนกกรงหัวจุกเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ห่างไกลยาเสพติด เพราะคนเลี้ยงต้องใส่ใจดูแล มีเป้าหมายในการฝึกนกร้องเพื่อไปแข่ง ทำให้มีความสุขได้โดยไม่ต้องพึ่งอบายมุข

“พล.อ.ชัยชาญได้ขับเคลื่อนการทำงานตามข้อสั่งการและนโยบาย ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ต้องการให้การแก้ปัญหาพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทุกฝ่ายได้เข้ามามีส่วนร่วม เชื่อมการทำงานระหว่างเจ้าหน้าที่และความต้องการของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง คณะกรรมการชุดนี้เป็นอีกกลไกหนึ่งเพื่อการติดตาม ประสาน ขับเคลื่อน ให้การดำเนินงานของภาครัฐนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสันติภาพ อย่างยั่งยืน” น.ส.รัชดากล่าว