“บิ๊กจิ๋ว”ย้ำศก.แย่-วางมือการเมือง แนะบิ๊กตู่ทำงานมากขึ้น-อย่าบ่นมาก ตั้งพรรคทหารไม่สำคัญเท่าทำงานได้ไหม

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 20 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บ้านปิ่นประภาคม ถนนติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อายุ 85 ปี อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 22 ได้เปิดบ้านให้ข้าราชการ กลุ่มรัฐวิสาหกิจ พ่อค้า พี่น้องประชาชนได้เข้าอวยพรปีใหม่และพูดถึงสถานการณ์ทางการเมืองอีกครั้ง ท่ามกลางสื่อมวลชนจากหลายสำนักมาเฝ้าทำข่าวภายในงาน โดยมีนายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้นำกระเช้ามาร่วมอวยพรในวันปีใหม่ด้วย ซึ่งช่วงเช้าต่อมาได้มีนายวงศ์ศิริ วโรสัน อายุ 51 ปี ประธานกลุ่มสหพันธ์ชาวเขาเผ่าม้ง และชนเผ่าแห่งสยาม พร้อมชาวเขาจำนวน 20 คนจากทางภาคเหนือ ได้เดินทางมาขอความช่วยเหลือและร้องเรียนกรณียังมีชนเผ่าชาวเขาได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับสัญชาติและที่ดินทำกิน อยู่ทางพื้นที่ทางภาคเหนือในหลายจังหวัด ซึ่งยังมีอีกหลายครอบครัวยังได้รับความเดือดร้อนในเรื่องดังกล่าวอยู่เป็นเวลานานแล้วยังไม่ได้รับการแก้ไขในขณะนี้

เวลา 09.00 น.ได้มี พล.อ.ธนเดช เหลืองทองคำ จากสำนักเลขานุการกองทัพบกและนายทหารจำนวน 15 นาย เดินทางนำกระเช้าเข้าอวยพรปีใหม่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่อพาร์ตเมนต์ 4 ชั้น

เวลา 09.20 น. พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ได้แถลงข่าวพูดวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองว่าประชาธิปไตยคืออะไร การปกครองในระบอบประชาธิปไตยเขามีหลักการ ข้อที่ 1 อำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศประชาธิปไตยเป็นของปวงชน ข้อที่ 2 ระหว่างที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนนั้น เสรีภาพของบุคคลต้องบริบูรณ์ ข้อที่ 3 ต้องปกครองด้วยหลักกฎหมาย หลักกฎหมายกำหนดว่าอย่างไรต้องเป็นไปตามนั้น ข้อที่ 4 ข้อสุดท้าย การปกครองที่มาจากการเลือกตั้ง

“พวกเรามักเอาเรื่องข้อสุดท้ายมาเป็นข้อแรก เวลาเขาว่าประเทศไทยไม่ได้ปกครองในระบอบประชาธิปไตย พยายามทำให้เป็นประชาธิปไตยเสียด้วยการมีการเลือกตั้งซะ จึงจะถูกต้อง ทั้งหมดทั้งมวลจุดสุดท้ายในการปกครองเพื่ออะไร ก็เพื่อประชาชน จะเลือกตั้งแบบแบ่งเขต แบบโหวตเบอร์เดียว หลายเบอร์ ให้ยุ่งเหยิงกันไปหมด ก็ให้ทำเพื่อประชาชนเป็นหลัก

“ในเวลานี้เศรษฐกิจถือว่าแย่ เงินในระบบของประเทศไทยที่จะใช้เพื่อการก่อสร้าง การผลิตและใช้จ่ายต่างๆ มีไม่เพียงพอ ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีบุคคลสำคัญและตัวแทนพรรคการเมืองมาติดต่อให้เล่นการเมือง แต่ส่วนตัวยืนยันว่าวางมือและไม่ขอเล่นการเมืองอีกต่อไป”

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่านายกรัฐมนตรี ควรมาจากทหาร หรือนักการเมือง พล.อ.ชวลิตเปิดเผยว่า ผมตอบไม่ได้ใครเล่าที่มีความสามารถออกมาเเสดงซิ พูดนิดเดียวคนเขาก็รู้แล้ว

ผู้สื่อข่าวได้ถามต่ออีกว่า หากทางทหารออกมาตั้งพรรคการเมืองแล้วลงเลือกตั้งสู้กับพรรคการเมืองต่างๆ ที่มีอยู่แล้วนั้น พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า จะตั้งหรือไม่ตั้งไม่สำคัญเท่าออกมาตั้งแล้วทำงานได้ไหม แก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้ไหมนั่นคือหัวใจ

พล.อ.ชวลิต ได้กล่าวถึงการเลือกตั้งที่เกิดในปี 2561 ว่าการเลือกตั้งไม่ใช่ทางออกของประชาธิปไตยทั้งหมด โดยที่ผ่านมาทุกคนไปมุ่งเน้นที่ระบบการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว ซึ่งสิ่งสำคัญอยู่ที่ต้องทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ส่วนแนวคิดเรื่องที่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อนั้น ส่วนตัวไม่สามารถตอบได้ แต่ได้แนะนำให้เปลี่ยนหลักการ โดยให้ทำงานมากขึ้น และอย่าบ่นให้มาก ขอให้ใช้ความสุขุมเยือกเย็นเป็นหลัก พร้อมขอให้ประชาชนให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ด้วย

 

ที่มา : มติชนออนไลน์