จุรินทร์ลั่นกวาดเก้าอี้ ส.ส.ใต้ 40 ที่นั่ง เล็งแก้กฎหมายห้าม รมต.จุ้นเลือกตั้งซ่อม

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

จุรินทร์ ประกาศยุทธศาสตร์ “ประชาธิปัตย์ Comeback” เปิดตัว 9 ว่าที่ ส.ส.สงขลา ลั่นกวาดเก้าอี้ ส.ส. ภาคใต้ 40 ที่นั่ง เล็งแก้กฎหมายห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจุ้นเลือกตั้งซ่อม ส.ส.

วันที่ 15 พฤษภาคม 2565 ที่จังหวัดสงขลา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ขึ้นกล่าวในการประชุม ส.ส. ภาคใต้ ตัวแทนสาขาพรรคภาคใต้ เพื่อกำหนดกลยุทธ์และเป้าหมายในการเลือกตั้ง ผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียวฟื้นประชาธิปัตย์ ที่โรงแรมบุรีศรีภู อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

นายจุรินทร์กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้บ้านเรา เพราะเป็นวันที่เรามารวมพลังกัน เพื่อคืน ส.ส.ภาคใต้ 14 จังหวัดให้กลับคืนมา พร้อมกับเชื่อว่าด้วยพลังของพวกเราทุกคนประชาธิปัตย์ทำได้ โดยขอให้นำสิ่งที่ตนได้สื่อสารในวันนี้ส่งต่อไปยังพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน โดยเฉพาะคนปักษ์ใต้บ้านเรา ด้วยการทำหน้าที่เป็นลำโพงให้กับพรรคประชาธิปัตย์

แต่การเป็นลำโพงที่ประชาชนได้ยินเสียงนั้น ต้องเป็นลำโพงที่ต้องเสียบปลั๊กด้วย จากการทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มา 3 ปี ในภาพรวมของพรรคได้ร่วมกับกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกทุกคน ทำให้พรรคสามารถเดินหน้าไปได้ไกลพอสมควร ถ้าเป็นเครื่องบินก็เทคออฟแล้วและขึ้นไปได้ แม้ตกหลุมอากาศบ้าง แต่เดี๋ยวมันจะขึ้นไปได้ต่อ แล้วจะยานต่อไปข้างหน้าไปสู่ความสำเร็จต่อไปในอนาคต

“ประชาธิปัตย์ยุคนี้ เป็นยุคของการทำงาน ที่เน้นเรื่องทำ จึงเป็นที่มาของ ประชาธิปัตย์ อุดมการณ์ทันสมัย ทำได้ไวทำได้จริง จึงเกิดขึ้น ซึ่งจากนี้ไปประชาธิปัตย์ต้องขาย 2 เรื่อง 1.ขายอุดมการณ์ 2.ขายผลงาน เราเป็นพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่พูดคำว่า อุดมการณ์ ได้อย่างเต็มปาก

เพราะ 1.ประชาธิปัตย์ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข 2.ประชาธิปัตย์มีอุดมการณ์ในการทำหน้าที่เพื่อประชาชน ไม่ใช่อุดมการณ์เพื่อทำหน้าที่ให้ใครคนใดคนหนึ่งขึ้นมามีอำนาจ ที่เมื่อทำสำเร็จหรือล้มเหลวแล้วก็ปิดพรรค 3.อุดมการณ์แห่งความซื่อสัตย์สุจริต

ด้วย 3 อุดมการณ์นี้ จึงทำให้เรากลายเป็นสถาบันทางการเมือง และไม่เพียงเท่านั้น เรายังเป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศไทย และความเป็นสถาบันทางการเมืองนี้จึงเป็นจุดขายสำคัญของเราที่เราต้องเก็บไว้ และต้องสื่อสารให้พี่น้องประชาชนได้เห็น”

นายจุรินทร์กล่าวว่า จากการเลือกตั้งซ่อมที่ชุมพร และสงขลา ได้พิสูจน์ว่าจิตวิญญาณของความเป็นสถาบันการเมืองของประชาธิปัตย์นั้นกลับมาแล้ว ไม่อย่างนั้นเราไม่ชนะ ประชาธิปัตย์ชนะเพราะคนปักษ์ใต้เห็นแล้วว่าระหว่างพรรคการเมืองเฉพาะกิจกับพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมือง สุดท้ายประชาชนเลือกอะไร จุดนี้จึงเป็นจุดขายสำคัญที่ประชาธิปัตย์ต้องปลุกจิตวิญญาณนี้กลับคืนมา

นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงผลงานของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีมากมายในยุคนี้ ซึ่งตนนั้นลงมือทำและทำไม่หยุด โดยวานนี้ ก็ได้ไปช่วยรณรงค์หาเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส. ที่โพธาราม ซึ่งมีเสียงตอบรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เดินไปที่ไหนมีแต่คนมาให้กำลังใจมามอบดอกไม้ มาถ่ายรูปด้วย พร้อมกับบอกว่า เดี๋ยวนี้เขาเลือกประชาธิปัตย์ เลือก ส.จ.เส็ง เราจึงมั่นใจว่าเราจะมีโอกาสมากในการที่จะปักธงที่เขต 3 ราชบุรี สจ.เส็ง ชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์

สำหรับการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. นั้น เสียดายที่กฎหมายได้บังคับไม่ให้หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค ผู้มีตำแหน่งทางการเมืองของพรรคลงไปช่วยหาเสียง และเห็นว่าเป็นกฎหมายที่พิสดาร เพราะเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองส่งผู้สมัครในนามพรรคได้ แต่พรรคกลับไปช่วยหาเสียงไม่ได้ ทำให้กลายเป็นจุดที่ทำให้ตนเหมือนถูกมัดมือมัดเท้า เมื่อส่งผู้สมัครแล้วก็ต้องปล่อยไป ไม่มีโอกาสไปเกี่ยวข้องได้ ไม่ว่าจะทั้งทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งเราต้องแก้กฎหมายเรื่องนี้

“ผมเชื่อว่าด้วยพลังของพวกเราทุกคนด้วยความสามัคคีของพวกเราทุกคนความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นในปักษ์ใต้บ้านเรา สิ่งที่รองหัวหน้าพรรค เดชอิสม์ กล่าวนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ และเรามั่นใจว่าประชาธิปัตย์ทำได้ หลังเลือกตั้งซ่อมชุมพร สงขลา ทำให้ผมมั่นใจ และเชื่อว่าทำให้เราพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนมีกำลังใจ และทำให้เรามองเห็นความสำเร็จอยู่ข้างหน้ารำไรว่า อีกไม่นานประชาธิปัตย์ภาคใต้บ้านเราจะคัมแบ็ก เหมือนที่เราเคยสำเร็จในอดีต

อยากให้กำลังใจจริง อยากให้กำลังใจพวกเราทุกคนขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้กับผม ขอบคุณทุกคำพูดจากใจที่บอกว่าหัวหน้าสู้ ๆ มันทำให้ผม มีแรงมีพลังที่จะทำงานจับมือร่วมกับพวกเราทุกคนเพื่อผลักดันเดินไปข้างหน้าร่วมกับทีมงานพวกเราทุกคน ขอเพียงให้พวกเราอย่าท้อแท้ อย่าสิ้นหวัง ในวิกฤตทุกวิกฤตมีโอกาสเสมอ ครั้งที่แล้วเราอาจจะเหลือ 23 เที่ยวหน้า เราจะได้ 24 ไม่ได้เหรอ เราจะได้ 25 ไม่ได้เหรอ เราได้ 26 ไม่ได้เหรอเราได้ 30 ได้ไหม เรามี 40 ได้ไหม ผมเชื่อประชาธิปัตย์ทำได้ ประชาธิปัตย์คัมแบ็กแน่นอน”