ครม.ไฟเขียว ร่างแถลงการณ์ร่วมไทย-สหราชอาณาจักร 8 ด้าน ปูทางการค้าเสรี

การค้าเสรี ส่งออก

ครม.เห็นชอบ ร่างแถลงการณ์ร่วมเชิงยุทธศาสตร์ไทย – สหราชอาณาจักร ครั้งที่ 4 ปูทางสู่การค้าเสรี

วันที่ 21 มิถุนายน 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมของการหารือเชิงยุทธศาสตร์ไทย – สหราชอาณาจักร ครั้งที่ 4 (4th Session of Thailand – United Kingdom Strategic Dialogue: SD) ซึ่งจะมีการรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยสหราชอาณาจักรเป็นเจ้าภาพ

ร่างแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองในการส่งเสริมและขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างสองประเทศในสาขาต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน

1.ด้านการต่างประเทศ อาทิ จัดทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตระหว่างสองประเทศ ประสานงานกันอย่างใกล้ชิดผ่านเวทีพหุภาคี

2.ด้านเศรษฐกิจ อาทิ ร่วมมือกันจัดการกับอุปสรรคทางการค้า พัฒนาความเป็นหุ้นส่วนทางการค้าระดับสูง (Enhanced Trade Partnership: ETP) ซึ่งเป็นการวางรากฐานสู่การจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA)  และรับทราบแผนการขยายความร่วมมือทางวิชาการในสาขาการเงิน

3.ด้านความมั่นคง อาทิ จัดบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้ายระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักร ความร่วมมือระหว่างผู้เชี่ยวชาญ เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงทางทะเลของทั้งสองประเทศ เพื่อปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยของท่าเรือพาณิชย์หลักของไทย

ADVERTISMENT

4.ด้านสาธารณสุข อาทิ พัฒนาข้อเสนอการจัดทำตราสารระหว่างประเทศว่าด้วยโรคระบาดผ่านกลไกการเจรจาระหว่างรัฐภายใต้องค์การอนามัยโลก และความร่วมมือด้านสาธารณสุขในสาขาต่าง ๆ

5.ด้านการศึกษา อาทิ ส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนด้านการอุดมศึกษา โดยแลกเปลี่ยนการวิจัยระหว่างกัน

ADVERTISMENT

6.ด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ ร่วมกันหาแนวทางจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) สหราชอาณาจักรสนับสนุนไทยในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ.2065

7.ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมและดิจิทัล อาทิ สนับสนุนความเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาคเอกชน สถาบันวิจัย และสถาบันอุดมศึกษา เพื่อแลกเปลี่ยนและพัฒนาขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (Science Technology and Innovation: STI) 

8.ด้านอาเซียน อาทิ กระชับความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับสหราชอาณาจักร และร่วมกันทำงานเพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการจัดการภัยพิบัติต่อวิกฤตในเมียนมา