“มาร์ค”ห่วงพท.ปลุกระดมคนให้กำลังใจ “ปู” 25 ส.ค. หวั่นเป็นการใช้การเมืองกดดันศาล

“มาร์ค” ห่วงพท.ปลุกระดมคนให้กำลังใจ “ปู” 25 ส.ค. ชี้เป็นการกดดันศาลหรือไม่ ปูดได้ข้อมูลในพื้นที่มีการขนคนกันแล้ว วอนรัฐ-คสช.ดูแลไม่ให้เกิดวุ่นวาย

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ฐานปล่อยปละละเลยโครงการรับจำนำข้าวจนเกิดความเสียหายในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ว่าตนหวังว่าจะไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น แม้จะตัดสินพร้อมกับคดีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ใน คดีประมูลขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ปลอม ซึ่งการให้กำลังใจหรือโต้ตอบทางการเมืองใดๆ คงไปห้ามไม่ได้ แต่จะทำอย่างไรให้วิธีการแสดงออกไปนำไปสู่การกดดัน และกระทบการพิจารณาของกระบวนการยุติธรรมที่เป็นไปตามระบบ หากเอาการเมืองไปกดดันจะเกิดปัญหาตามมา โดยเฉพาะที่ตนไม่สบายใจคือ กรณีที่สมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) บอกว่าผู้พิพากษาไม่ได้มีแค่ 9 คน แต่มีสิบล้านคนพิพากษา อย่างนี้ไม่ได้เป็นการให้กำลังใจ แต่เป็นการข่มขู่หรือไม่ว่ามีมวลชนสนับสนุนอยู่ เพราะฉะนั้นทำผิดไม่ได้ ดังนั้นหากเป็นตนจะพยายามขอร้องผู้สนับสนุนขอให้แสดงออกด้วยวิธีการที่เหมาะสม อย่าแสดงอาการอะไรที่เป็นการถูกตีความว่ากดดันศาล เป็นการเอาคนจำนวนมากมาอยู่เหนือกฎหมาย

“คำพูดของสมาชิกพรรค พท.เป็นการกดดันล่วงหน้า เราแต่ละคนก็มีความเห็นที่แตกต่างกันไป ผมเองก็เป็นผู้หนึ่งที่ตรวจสอบโครงการจำนำข้าวและมีสมาชิกพรรคอีกหลายคนที่ตรวจสอบ เราก็มีความเชื่อว่าสิ่งที่นำนั้นผิด ทางพรรค พท. หรือตัวคุณยิ่งลักษณ์ ก็อ้างว่าเป็นเรื่องนโยบายจึงไม่ใช่ความผิด วันนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ศาลพิจารณา ไม่ควรจะพิจารณาว่ามีคนสิบล้านคนเชียร์หรือไม่เชียร์ เราไม่ได้มาสำรวจว่าคนต้องการอะไร แต่กำลังพิจารณาว่า สิ่งที่ทำไปนั้นผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม ในอดีตก็มีทั้งพระ มีทั้งดารา ซึ่งต่อมาก็พิสูจน์ว่าทำผิดกฎหมาย ขณะที่ทำผิดคนยังศรัทธาชื่นชม คงทำให้บ้านเมืองไม่มีหลักเกณฑ์กติกา กลายเป็นความชอบไป ดังนั้นต้องแยกให้ออกระหว่างศรัทธาความนิยมทางการเมือง ผมไม่ปฏิเสธว่าคุณยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทยมีคนนิยมจำนวนมาก แต่เป็นหน้าที่ของศาลที่จะตัดสินผลออกมาอย่างไรทุกฝ่ายต้องให้การเคารพและยอมรับ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ประชาธิปไตยและการปรองดองสมานฉันท์เกิดขึ้นได้“ นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า หากนายอภิสิทธิ์ต้องคดีแบบนี้ และมีการตัดสินคดีในวันที่ 25 สิงหาคม คิดจะหนีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่คิดหนี และคิดว่าเราต้องกล้าที่จะรับผิดชอบ และไม่ควรจะคิดเรื่องการหนี ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ไม่ได้หนี และเข้าสู้กระบวนการต่อสู้มาโดยตลอด ซึ่งตนก็หวังว่าทุกคนจะยอมรับกระบวนการยุติธรรม หากหนีไปก็ต้องมาพูดถึงกฎหมายใหม่ที่มีการพิจารณาคดีลับหลังอีก

เมื่อถามว่า ในการตัดสิน 2 คดี คิดว่าจะมีความวุ่นวายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราหวังว่าจะไม่มีความวุ่นวาย แต่ต้องบอกว่าขณะนี้มีข้อมูลในพื้นที่ต่างๆ แจ้งตนมาว่ามีการพูดถึงว่าอยากให้มีคนไปให้กำลังใจ ตนไม่แน่ใจว่าสามารถใช้คำว่าระดมได้หรือไม่ เพราะเขาพยายามอ้างว่าต่างคนต่างไป ไม่ได้เป็นการนัดหมายหรือชุมนุม ดังนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีความวุ่นวาย ดังนั้นรัฐบาลและคสช.มีหน้าที่ดูแลให้เกิดความเรียบร้อย ไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น และฝ่ายคู่ความควรมีความรับผิดชอบต่อสังคมในการแสดงท่าทีให้ชัดเจน ว่าไม่ประสงค์ต้องการเห็นความวุ่นวายให้เกิดขึ้นอีก หากไม่ยอมรับกันก็มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น สำหรับตารางเวลาในการตัดสินคดีของคนพรรคเพื่อไทยที่ไล่เลี่ยกันนั้น ทุกฝ่ายในสังคมมีหน้าที่สร้างความเข้าใจตรงกันว่า เป็นเรื่องของกระบวนการตามกฎหมายที่ดำเนินการมาเป็นขั้นตอน และเราก็ยังไม่ทราบว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร

 

ที่มา : มติชนออนไลน์