เงินค่าทำศพผู้สูงอายุ 3,000 บาท ได้ไม่ทุกราย รัชดา แจง โซเชียล

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก

รัชดา-รองโฆษกรัฐบาล แจง โซเชียล เงินช่วยเหลือจัดการศพผู้สูงอายุ รายละ 3,000 ต้องมีฐานะยากจนตามคุณสมบัติบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

วันที่ 23 มิถุนายน 2565 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการแชร์ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เนื้อหาเกี่ยวกับประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 เรื่อง การสนับสนุนการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณี ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือในการจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณี ที่มีฐานะยากจน รายละ 3,000 บาท แต่ด้วยเนื้อหาที่ส่งต่อกันระบุสาระหลักไม่ครบถ้วน ทำให้ประชาชนจำนวนมากเข้าใจว่า การจ่ายเงินสงเคราะห์ดังกล่าวจ่ายให้แก่ผู้สูงอายุทุกราย

น.ส.รัชดากล่าวว่า ดังนั้น จึงขอชี้แจงว่า การขอรับเงินสงเคราะห์ค่าทำศพตามประเพณี ผู้สูงอายุที่เสียชีวิตจะต้องเข้าหลักเกณฑ์ ดังนี้
1. ผู้เสียชีวิตอายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
2.สัญชาติไทย
3.ผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
4.ผู้สูงอายุซึ่งอยู่ในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ สถานสงเคราะห์ สถานดูแล สถานคุ้มครอง หรือสถานใด ๆ ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดำเนินการจัดการศพตามประเพณีโดยมูลนิธิ สมาคม วัด มัสยิด โบสถ์

น.ส.รัชดากล่าวว่า โดยผู้ยื่นคำขอ (ครอบครัวผู้เสียชีวิต ญาติผู้รับผิดชอบจัดการศพ) จะต้องยื่นคำขอในท้องที่ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ออกใบมรณบัตร พร้อมกับเอกสารสำคัญ เช่น ใบมรณบัตรของผู้สูงอายุ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้สูงอายุหรือหนังสือรับรอง บัตรประจำตัวประชาชน สมุดบัญชีหรือเลขที่บัญชีธนาคารของผู้ยื่นคำขอ (เพื่อโอนเงิน)

กรณีอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคำขอที่สำนักงานเขต ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ให้ยื่นคำขอในท้องที่ เช่น สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเทศบาล ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล

น.ส.รัชดากล่าวว่า ปัจจุบันยังมีประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนเรื่อง การสนับสุนนการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณี ขอย้ำว่า การสนับสนุนการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณี ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี มีฐานะยากจนตามคุณสมบัติบัตรสวัสดิแห่งรัฐ เท่านั้นที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือ