ถกวิป 3 ฝ่าย 6 ก.ค.เคาะ วันอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประชาธิปัตย์พร้อมมาก ทุกประเด็น

ถกวิป 3 ฝ่าย 6 ก.ค.เคาะ วันอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประชาธิปัตย์พร้อมมาก ทุกประเด็น

สุชาติ รองประธานสภา นัด ถก วิป 3 ฝ่าย เคาะ จำนวนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ 4 วัน หรือ 5 วัน ราเมศ โต้ ขี้เหนียวเวลาซักฟอก พร้องแจงได้ทุกประเด็น

วันที่ 3 กรกฎาคม 2565 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลและการร่วมกำหนดกรอบระยะเวลาในการอภิปรายในสภาว่า ในหลักการของการทำงานในส่วนของญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นในวันที่ 6 ก.ค.ที่จะถึงนี้นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาฯ ได้มีการนัดปะชุมวิป 3 ฝ่าย ทั้งวิปฝ่ายค้าน วิปฝ่ายรัฐบาล และคณะรัฐมนตรี เพื่อพูดคุยเรื่องกรอบเวลาในการอภิปรายว่า ในแต่ละฝ่ายจะใช้กรอบระยะเวลาเท่าใดในการอภิปราย

นายราเมศกล่าวว่า ในส่วนของพรรคมีนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปของพรรคในฐานะเป็นรองประธานวิปฝ่ายรัฐบาล จะได้เข้าร่วมประชุมเพื่อกำหนดกรอบระยะเวลาดังกล่าว เชื่อว่าจะมีการตกลงที่เข้าใจตรงกันได้ไม่น่าจะเป็นประเด็นปัญหา

นายราเมศกล่าวว่า ในส่วนของพรรค รัฐมนตรีของพรรคที่ถูกอภิปรายไม่กังวลเรื่องชี้แจง แต่ในเรื่องกรอบเวลาในการอภิปรายก็สำคัญ หากฝ่ายค้านต้องการกรอบเวลาตามที่ต้องการ ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องได้รับการจัดสรรเวลาที่เท่าเทียมกันในการชี้แจง ไม่เช่นนั้นฝ่ายค้านอภิปรายแต่ในส่วนของรัฐบาลได้เวลาที่น้อยกว่าก็จะไม่เป็นธรรมต่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายอีกเช่นกัน

“กรณีที่นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ที่พยายามโจมตีว่าการกำหนดกรอบระยะเวลาอภิปรายว่ารัฐบาลขี้เหนียวเวลา ด้อยค่าการตรวจสอบ หวาดกลัวการชี้แจง ต้องบอกว่าฝ่ายรัฐบาลเชื่อว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคนพร้อมชี้แจงในสภาอยู่แล้ว”นายราเมศกล่าว

นายราเมศกล่าวต่อไปว่า เพราะเป็นกระบวนการตรวจสอบตามระบบประชาธิปไตย นักการเมืองที่อยู่ในสภาเชื่อว่าไม่มีใครคิดด้อยค่าการตรวจสอบ หรือด้อยค่าองค์กรของตนเอง รัฐบาลอยู่มาสามปีแล้วคงไม่มีรัฐมนตรีคนไหนกลัวการตรวจสอบ ส่วนเรื่องเวลาการคิดเห็นที่ไม่ตรงกันเป็นเรื่องปกติ ฝ่ายรัฐบาลเห็นว่า 4 วันเหมาะสมที่สุด ฝ่ายค้านเห็นว่า 5 วัน ก็พูดคุยกันในการประชุมร่วมสามฝ่ายในวันที่ 6 ก.ค.นี้

“แต่อย่างที่บอกว่าจะเอาเวลาตามอำเภอใจของฝ่ายค้านแต่ฝ่ายเดียวคงไม่ได้ เพราะนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายก็จำเป็นอย่างยิ่งยวดในการที่จะต้องใช้เวลาในการชี้แจงอธิบายข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านอย่างเท่าเทียม และเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายสุทิน ยกข้อบังคับมาบางส่วนว่าต้องอภิปรายรัฐมนตรีให้ครบตามญัตติก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายก็เป็นไปตามข้อบังคับที่จะต้องมีเวลาในการชี้แจงให้ครบในทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหาเช่นกัน”นายราเมศกล่าว