นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากเรียกร้องแทนประชาชนคือในปี 2561 ขอให้รัฐบาลปรับนโยบายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีด้านเศรษฐกิจปากท้องเนื่องจากเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมานี้นโยบายสวยหรูมามากแล้วแต่ประชาชนก็ยังอยู่ในภาวะลำบาก ถูกกดดันจากราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ แต่การประกอบอาชีพใหม่ทำได้ยากไม่สอดคล้องกลับสถานการณ์ยุคสมัยโลกไอที
นางมัลลิกา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกพื้นที่สรุปตรงกันว่านอกจากราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำของแพงขึ้นความเป็นอยู่อัตคัดมากขึ้นช่องทางการประกอบอาชีพที่ควรจะได้รับการตอบสนองเชิงนโยบายจากรัฐบาลในทางปฏิบัติก็ยังไม่ประสบความสำเร็จตามที่รัฐบาลโฆษณาไว้
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
“นั่นคือการประกอบการรายย่อยหรือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ยืนยันว่าเข้าถึงโครงการที่รัฐสนับสนุนส่งเสริมค่อนข้างยากและไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลและกระทรวงการคลังโฆษณาชวนเชื่อโดยเฉพาะ 1.เข้าถึงสินเชื่อธนาคารยากมากขั้นตอน 2.การเข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้ของกระทรวงการคลังก็ไม่สดวกและครบถ้วน 3.การทำงานระบบราชการไม่ทั่วถึงขาดการประชาสัมพันธ์ระบบราชการและระบบไอทีไม่พัฒนาและไม่สามารถรองรับยุคสมัยได้ สิ่งที่ประชาชนซึ่งกำลังขยับขยายธุรกิจการค้าไปในโลกไอทีออนไลน์โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารนั้นต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนอย่างจริงจังคือปรับปรุงภาคปฏิบัติขอให้ลดขั้นตอนการติดต่อการเข้าถึงทั้งแหล่งเงิน-แหล่งทุน-แหล่งข้อมูลของกระทรวงที่สนับสนุน ปรับการสื่อสารของข้าราชการให้ใช้ระบบเทคโนโลยีผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คที่ประชาชนใช้ให้เข้าถึงประชาชนให้เกิดความคล่องตัวและประกอบอาชีพได้จริงจังไม่ใช่เพียงโฆษณาชวนเชื่อ” นางมัลลิกา กล่าว
ที่มา มติชนออนไลน์