คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ ผู้เขียน : ณัฐวุฒิ ประชาชาติ
หากเปรียบ “การเมือง” คือ “ละคร”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
สภาผู้แทนราษฎรก็คือ “โรงละคร” ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลก็คือ “ฉากหนึ่ง” ของละคร
ในฉากละครของนักเลือกตั้งเทอมสุดท้าย นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลต้องการความได้เปรียบในพื้นที่
นอกจาก “กระแส” การเมือง ยังต้องการ “กระสุน” และอำนาจรัฐ ดังนั้น การโหวตแต่ละเสียงย่อมมี “ราคา” ตอบแทน เพื่อเตรียมไว้ใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ไม่แปลกที่จะมี “งูเห่า” ฝ่ายค้านแผลงฤทธิ์ ยกมือให้รัฐบาล พรรคใหม่ของตัวเองที่ต้องการไปซบ
ไม่แปลกที่จะมี “พรรคเล็ก” ในฝ่ายรัฐบาลขอ “กินกล้วย” โดยแสดงอภินิหารออกมาตั้งแต่ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ก่อนหน้านี้พรรคเล็กประกาศในที่แจ้งว่า คนที่จะยกมือโหวตให้ 3 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผู้ที่ได้รับภาระสานประโยชน์พรรคเล็ก
ก่อนการโหวตมีข่าวลือสะพัดไปทั่วอาคารรัฐสภาว่า บรรดาพรรคเล็กเรียกขอรับผลประโยชน์ 1-2 ล้านบาท แลกกับการโหวตรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ที่ไม่ต้องการได้คะแนนบ๊วย เพราะจะส่งผลทำให้เก้าอี้รัฐมนตรีถูกเขย่า
ซึ่งรัฐมนตรีที่มีแนวโน้มจะถูกพรรคเล็กลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง
ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ถูกคาดหมายอาจจะได้คะแนนไว้วางใจน้อยที่สุด
ในฐานะที่ “พล.อ.อนุพงษ์” เป็นคนที่คุมกลไกการเมือง คุมงบประมาณ-อำนาจรัฐในท้องที่ คือ กระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่เป็นผู้ครอบครองตำแหน่ง มท.1 มายาวนานเกือบ 8 ปี
แต่การทำงานของเจ้าของรหัส มท.1 ถูกมองว่า ไม่เห็นหัว ส.ส. ขอโครงการลงพื้นที่ไม่เคยได้ ทำให้ ส.ส.ไม่มีผลงานไปต่อยอดขอคะแนนชาวบ้าน
ดังนั้น เก้าอี้ มท.1 ของ พล.อ.อนุพงษ์ เป็นหนึ่งในเป้าหมาย “นักเลือกตั้ง” ต้องการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีมากที่สุดถึงขั้น ส.ส.พลังประชารัฐเอ่ยขอเปลี่ยนตัว มท.1 ต่อหน้า พล.อ.ประวิตร
ข่าวจากแกนนำพรรคเพื่อไทยรายหนึ่งเล่าว่า ได้ยินพวก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐต้องการเปลี่ยน มท.1 ผมก็เลยแกล้งแหย่ไปว่า ก็โหวตให้คะแนนไม่ไว้วางใจมันเยอะ ๆ เขย่ามันหน่อย
ในวันแรกของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงมีข่าวว่า “พล.อ.อนุพงษ์” ปิดห้องเคลียร์ใจกับ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐกว่า 1 ชั่วโมงเต็ม เพื่อต่อรองเรื่องโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่โค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง
สุดท้ายการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 4 วันเต็ม ทั้งฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล ฟันธงตรงกันว่า ไม่มีรัฐมนตรีคนใดได้คะแนนเสียง “ไม่ไว้วางใจ” เกินครึ่ง 239 เสียง เพียงแต่ใครจะได้คะแนนไม่ไว้วางใจมากที่สุด หรือคะแนนไว้วางใจรั้งบ๊วยแค่นั้น
เกมต่อรองผลประโยชน์ ทั้งโครงการรัฐ กระสุน อำนาจรัฐ ถูกนำมาเป็นเงื่อนไขในการโหวต
ขณะที่พรรคฝ่ายค้าน หวังผลโชว์ฝีปาก ต่อยอดการเลือกตั้งครั้งหน้า
โลกการเมือง คือ โลกการละคร ต่อรองเพื่อผลประโยชน์