เพื่อไทย บี้ประยุทธ์ ช็อตต่อไปให้ประชาชนเด็ดหัว สนามเลือกตั้ง

เพื่อไทย บี้ประยุทธ์ ช็อตต่อไปให้ประชาชนเด็ดหัว สนามเลือกตั้ง

เพื่อไทย ยินดีประยุทธ์ และรัฐมนตรี ยังอยู่ได้ รับ เสียงฝ่ายค้านสู้รัฐบาลไม่ได้ หวัง สภาประชาชน เด็ดหัวสอยนั่งร้าน ตอนเลือกตั้ง

วันที่ 23 กรกฎาคม 2565 เมื่อเวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ประธานวิปฝ่ายค้าน และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีรวม 11 คน

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สำหรับผลการลงมติที่ออกมา คะแนนไม่ไว้วางใจมีไม่ถึงกึ่งหนึ่ง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ยังทำหน้าที่ได้ต่อไป เบื้องต้น พรรคเพื่อไทยยอมรับการลงมติ ตามกลไกของสภาผู้แทนราษฎร ต้องยึดเสียงข้างมากเป็นหลัก แต่การลงมติมีปัจจัยความแปรปรวนอย่างมาก แม้ว่าเราพยายามทำหน้าที่ มีหลักฐานการทุจริตชัดเจนเพียงใด แต่เมื่อผลแบบนี้นายกฯ และรัฐมนตีก็ยังทำหน้าที่ต่อไปได้

“ยินดีกับนายกฯ และรัฐมนตรีที่ยังอยู่ได้ และแสดงความเสียใจกับประชาชนที่ลงมติไม่ไว้วางใจทางตรงผ่านช่องทางต่างๆ เพราะมีประชาชนที่ลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กับกลุ่มราษฎร 98% และลงมติผ่านโซเชียลมีเดียของสื่อต่างๆ อีก 89% แสดงว่ามติในสภาไม่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน” นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ปัจจัยความแปรปรวนจากการลงมติที่เกิดขึ้น ทำลายกลไกรัฐสภา ไม่ได้ฟังเสียงประชาชน ดังนั้น แม้เสียงในสภาฝ่ายค้านจะสู้ไม่ได้ แต่หวังสภาประชาชนที่จะช่วยกันเด็ดหัว สอยนั่งร้าน ในสนามเลือกตั้ง ภาพที่ฝันจะได้เกิดขึ้นจริงเสียที

ด้านนายประเสริฐ กล่าวว่า การทำงานของฝ่ายค้านทุ่มเทอย่างมาก แต่การลงมติรัฐมนตรี 11 คน มีความแปรปรวน แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มีเอกภาพ เช่น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ได้รับเสียงไว้วางใจน้อยที่สุด 241 เสียง

อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยจะทำงานอย่างหนัก เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐานยื่นเอาผิดรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ด้วยการยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องต่อไป

นายสุทิน กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไวว้างใจ น่าพิจารราในรายละเอียด เช่น การงดออกเสียงให้รัฐมนตรีของแต่ละคนก็มีนัยยะ เพราะการงดออกเสียงก็โน้มเอียงมายังฝ่ายค้าน รวมถึงคะแนนไว้วางใจที่ลดหลั่นกันลงมา บ่งบอกว่าภายในพรรคร่วมรัฐบาลก็มีปัจจัยที่ไม่เป็นเอกภาพ

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำให้ประชาชนได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น ระบบสภายังจะเป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชนได้ และพิสูจน์แล้วว่าสภาไม่ใช่จะทำอะไรง่ายๆ เพราะรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายก็จะมีโทษ โลกติเตียน อาจจะติดตัวไปถึงตอนเลือกตั้งด้วย นอจกากนี้ฝ่ายค้านจะรวบรวมพยานหลักฐานไปดำเนินคดี และอาจมียื่นยุบพรรคก็มี ประชาชนไม่ต้องผิดหวัง