กกต.แจ้งข้อกล่าวหา “ธนาธร” แจงปมหุ้น วี-ลัค 7 วัน ยัน มีอำนาจสอบ แม้พ้นเลือกตั้ง

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. แถลงหลังการประชุม กกต.ว่า กกต.มีมติให้แจ้งข้องกล่าวหานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ร้องว่านายธนาธร ในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ลำดับที่ 1 เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 98(3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 42(3) อันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง

คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้ว มีหลักฐานเบื้องต้นฟังได้ว่า นายธนาธรเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ จำนวน 675,000 หุ้น เลขหมายใบหุ้นตั้งแต่ 1350001-2025000 กกต.จึงได้มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายธนาธร โดยมอบหมายให้เลขาธิการ กกต. เป็นผู้แจ้งข้อกล่าหาและรับฟังพยานหลักฐานแทน ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. พ.ศ.2560 มาตรา 43 และระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวนและไต่สวนและการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ.2561 ข้อ 64 และให้ดำเนินการไต่สวนให้สิ้นกระแสความต่อไป ทั้งนี้ตามข้อกล่าวหาข้างต้น นายธนาธร มีสิทธิที่จะไม่ให้ถ้อยคำหรือมีหนังสือชี้แจงแสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา และมีสิทธิที่จะให้ทนายความหรือบุคคลซึ่งไว้วางใจเข้าร่วมฟังการชี้แจงแสงดหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาได้ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา

นายแสวง กล่าวต่อว่า สำหรับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาจะส่งถึงนายธนาธรในวันนี้ ถือเป็นขั้นตอนการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าข้อกล่าวหามีมูลเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ยังไม่ถึงขั้นตัดสินว่าทำผิดไปแล้ว หลังจากนี้ต้องรอฟังการชี้แจงของนายธนาธรซึ่งอาจจะแก้ข้อกล่าวหาได้ และที่นายธนาธรส่งทนายมายื่นคำชี้แจงก่อนหน้านี้ทางสำนักงานก็จะมอบให้กับคณะกรรมการไต่สวนนำไปพิจารณารวมกับคำชี้แจงของนายธนาธรที่จะชี้แจง เมื่อคณะกรรมการไต่สวนได้รับฟังคำชี้แจงจากฝั่งของนายธนาธร ก็จะนำมาสรุปผลการไต่สวนก่อนเสนอให้ที่ประชุม กกต. พิจารณาอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผลการไต่สวนพบว่านายธนาธร กระทำผิดจริง กกต.จะพิจารณาให้ใบส้มหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า  ขั้นตอนดังกล่าวเป็นดุลยพินิจของ กกต. ไม่ขอสมมุติ ไม่ขอให้คำตอบแทน กกต. เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ส่วนเรื่องจะดำเนินคดีอาญาในฐานะที่รู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติในการลงสมัคร แต่ยังมาลงสมัครหรือไม่ และการใช้ตำแหน่งหัวหน้าพรรครับรองส่งตนเองลงสมัคร จะเข้าข่ายให้เป็นเหตุต้องยุบพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ ต้องไปดูข้อเท็จจริงตอนนั้น แต่ถ้าตามกฎหมายฟังได้ว่ารู้อยู่แล้วว่าตนเองไม่มีสิทธิสมัคร แต่ยังมาสมัคร หากเข้าช่องนั้นก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย

“เรื่องการส่งสมัครนายธนาธร สมัครกรรมการบริหารพรรครู้เห็นแล้วเป็นเหตุให้ยุบพรรคหรือไม่นั้น ขอให้รอฟังข้อเท็จจริงก่อน เพราะยังมีประเด็นเรื่องเงื่อนเวลาก่อนหรือหลังจะต้องดำเนินการอย่างไร แต่ยอมรับว่าถ้าก่อนการประกาศรับรองผล กกต.พบว่ามีการทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเป็นอำนาจของหน้าที่ กกต.ที่จะดำเนินการ”

ส่วนกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า กกต.ไม่สามารถวินิจฉัยให้ใบส้มเรื่องคุณสมบัติ ได้เพราะเลยกำหนดเวลาการตรวจสอบคุณสมบัติไปแล้ว นายแสวง กล่าวว่า ไม่สามารถกล่าวแบบนั้นได้ เนื่องจากไม่ว่าก่อนเลือกตั้งหรือหลังเลือกตั้ง กกต.ก็สามารถตรวจสอบคุณสมบัติได้ เป็นอำนาจของ กกต.

เมื่อถามถึงกระแสข่าวกรณีประธานอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนไม่พอใจขอลาออกจากหน้าที่ นายแสวง กล่าวว่า เป็นแค่ข่าว ยังไม่มีการลาออก สำหรับการตรวจสอบกรณีดังกล่าวมีคณะกรรมการ 2 ชุด ชุดแรก คือ คณะกรรมการสืบสวนไต่สวน และคระกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวน ซึ่งจะทำหน้าที่กลั่นกรองสำนวนจากชุดไต่สวน