CKPower มอบ 1.3 ล้าน สร้างห้องความดันลบให้ ‘รพ.ภูมิพลฯ’ สู้โควิด-19

จากสถานการณ์วิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนี้ ทั่วโลกอยู่ในภาวะที่ต้องการความร่วมมือร่วมใจ เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้กลับสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด CKPower ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทั้งช่วงก่อนและในระหว่างสถานการณ์การระบาด 

สำหรับการระบาดในระลอกใหม่ CKPower มีมาตรการการรับมือที่เข้มข้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงและผลกระทบจากโควิด-19 ที่อาจจะมีผลต่อพนักงานและธุรกิจ นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ว่าการผลิตไฟฟ้าของบริษัทยังสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง และไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว แต่สิ่งสำคัญที่บริษัทเน้นย้ำคือให้พนักงานร่วมมือและปฏิบัติตามข้อกำหนด และคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งในส่วนสำนักงานใหญ่ และโรงไฟฟ้าในไทยและ สปป.ลาว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

บริษัทรวมทั้งโรงไฟฟ้าในเครือ มีมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ทั้งสุขอนามัยและชีวอนามัย รวมทั้งปรับแผนการทำงานให้เข้ากับสถานการณ์ตลอดเวลา เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากที่สุด มีการกำหนดห้ามเข้า-ออกพื้นที่โรงไฟฟ้าทุกแห่งทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทอำนวยความสะดวกจัดที่พัก และอาหารให้พนักงานและผู้ปฏิบัติงานอื่นๆ ในพื้นที่โรงไฟฟ้า ขณะเดียวกันการปฏิบัติงานในสำนักงานใหญ่ ให้รักษาระยะห่างทางสังคม เน้นการประชุมออนไลน์  และทำงานที่บ้าน ตามมาตรการของภาครัฐ และจัดให้มีการฆ่าเชื้อในบริษัททุกสัปดาห์ รวมทั้งสนับสนุนสวัสดิการในการรักษาพยาบาลให้ครอบคลุมครบทุกด้าน

“นอกจากการดูแลช่วยเหลือพนักงาน CKPower ยังส่งต่อความห่วงใยร่วมสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ และโรงพยาบาลที่ยังขาดอุปกรณ์ในการช่วยเหลือทีมแพทย์ รวมทั้งผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในไทยและสนับสนุนเงินให้หน่วยงานสาธารณสุขใน สปป.ลาว  เพื่อร่วมบรรเทาสถานการณ์ของโควิด-19 โดยหวังว่าประชาชนคนไทยและลาว รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วที่สุด” นายธนวัฒน์กล่าว

เมื่อเร็วๆ นี้กลุ่ม CKPower ได้มอบเงินจำนวน 1,300,000 บาท ให้แก่ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ เพื่อนำไปสร้างห้องไอซียูความดันลบ (Negative Pressure Unit) จำนวน 4 เตียง พร้อมอุปกรณ์และติดตั้งเครื่องปรับอากาศปรับความดันลบ โดยมี นางสาวปาริฉัตร โอทยากุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เป็นผู้แทนบริษัทมอบเงินบริจาค และพลอากาศเอกแอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นผู้แทนรับมอบ ณ ห้องรับรอง กองทัพอากาศ ดอนเมือง 

พลอากาศตรีหญิง อิศรญา สุขเจริญ ผอ.รพ.ภูมิพล กล่าวถึงสถานการณ์การรับมือผู้ป่วยโควิด-19 ว่า โรงพยาบาลสามารถรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ได้ประมาณ 80 ราย ซึ่งยังไม่เพียงพอกับความต้องการใช้งาน โรงพยาบาลจึงจำเป็นต้องมีห้องความดันลบเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการระบาดระลอกใหม่มีผู้ป่วยซึ่งเป็นเด็กมากขึ้น 

“สำหรับห้องไอซียูความดันลบที่ CKPower มอบให้ในครั้งนี้ เป็นห้องความดันลบสำหรับผู้ป่วยเด็กโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นประโยชน์กับคนไข้ คุณหมอ และผู้ปกครองของเด็ก ส่วนในอนาคตหากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายแล้ว ห้องความดันลบนี้ก็จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่ออีกมากมาย และจะมีความหมายมากสำหรับกลุ่มคนไข้ที่เป็นโรคทางเดินหายใจ เช่นวัณโรคปอด หรือผู้ป่วยกลุ่มโรคมะเร็งในเด็ก นับเป็นการให้ที่สร้างประโยชน์ในระยะยาว” ผอ.รพ.ภูมิพลกล่าว

นอกจากความช่วยเหลือโรงพยาบาลในเขตพื้นที่สีแดงของการระบาดระลอกใหม่ ที่ผ่านมา CKPower ร่วมกับโรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจนเนอเรชั่น ส่งความช่วยเหลือไปยังสถานพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ โดยร่วมกับ บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) รวบรวมขวด PET และเปลี่ยนขวด PET เป็นเส้นใยรีไซเคิลสำหรับผลิตชุด PPE แก่บุคลากรทางการแพทย์ โดยมอบให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ในประเทศไทยได้ถึง 823 ชุด ในช่วงการระบาดของโควิดรอบแรก 

ขณะเดียวกันยังส่งการช่วยเหลือไปยังประชาชนใน สปป.ลาว โดย CKPower ร่วมกับบริษัทในเครือ มอบเงินสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข สปป.ลาว ผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ นครหลวงเวียงจันทน์ และยังมอบเงินสนับสนุนหน่วยงานสาธารณสุขแขวงไซยะบุรี ซึ่ง สปป.ลาว เป็นประเทศที่ตั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำทั้ง 2 แห่งภายใต้การบริหารงานของ CKPower ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี รวมจำนวน 1,500,000 บาท เพื่อช่วยบริหารจัดการลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ใน สปป.ลาวอีกด้วย 


กิจกรรมช่วยเหลือสังคมที่กล่าวมาข้างต้นของ CKPower อยู่ภายใต้แนวคิดการทำประโยชน์และอยู่ร่วมกับสังคม ควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานโดยมุ่งมั่นดำเนินการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง พร้อมการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต