คุณคิดว่า “บุหรี่ไฟฟ้า” ปลอดภัยหรือไม่?
หากเป็น “มาริษ กรัณยวัฒน์” ผู้เปลี่ยนจากบุหรี่มวนมาเป็นบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 7 ปีย่อมจะตอบว่า “ปลอดภัย” พร้อมทั้งงัดหลักฐานงานวิจัยจากนานาประเทศขึ้นมาเล่าให้ฟังเพื่อยืนยันว่า บุหรี่ไฟฟ้านั้นปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน และสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเลิกบุหรี่มวนได้จริ ง ซึ่งนั่นเป็นประสบการณ์ตรงที่เกิดขึ้นกับเขาเอง!
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
“ถามว่าเป็นอุปาทานไหม ถ้างั้นคงเป็นอุปาทานหมู่ ทุกคนที่ใช้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ทานอาหารอร่อยขึ้น ออกกำลังกายได้มากขึ้น รู้สึกตื่นเช้ามาแล้วสดชื่นขึ้น และไม่สามารถกลับไปสูบบุหรี่มวนได้”
แต่แล้วมาริษและกลุ่มผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในไทยกลับต้องฝันสลาย เมื่อรัฐบาลประกาศแบนบุหรี่ไฟฟ้าในฐานะสินค้าต้องห้ามในประเทศไทย เมื่อปี 2557 โดยอ้างว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าบุหรี่มวน สมาชิกเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST) จึงดำเนินการเคลื่อนไหวเพื่อเป้าหมายการ “ปลดล็อกบุหรี่ไฟฟ้า” ให้กลับคืนจาก “ตลาดมืด” มาสู่ตลาดปกติ
ล่าสุด การประชุมวาระร้อน “บุหรี่ไฟฟ้า” ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเครือข่ายฯ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (31 ต.ค. 61) แม้ว่าพอจะมีแสงรำไรสำหรับการตั้ง “คณะกรรมการ” เพื่อร่วมมือศึกษาประเด็นนี้อย่างจริงจัง แต่ก็ยังไร้ข้อสรุปที่ปลายทางว่าจะเป็นเช่นไร
.
“ประชาชาติธุรกิจ” คุยกับ “มาริษ กรัณยวัฒน์” ในฐานะผู้บริโภคซึ่งคาดหวังว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการศึกษาบุหรี่ไฟฟ้าที่จะตั้งในอนาคตอันใกล้ “ผู้บริโภคต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการพิจารณากฎหมายตรงนี้ เพราะเราคือผู้ที่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุม เราคือผู้ที่รับผลของการควบคุมของกฎหมายนั้น”