หมอมิ้ง-จุลพันธ์ เผย 6 ทุนใหญ่สนใจ “คอมเพล็กซ์” เล็งตอกเข็มรัฐบาลนี้

เลขาธิการนายกฯ-รมช.คลัง เผยบิ๊กต่างชาติ 6-7 ราย สนใจลงทุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คาด 7-9 เดือนดันกฎหมายบังคับใช้ วางเป้าตอกเข็มทันรัฐบาลนี้ ตัดหน้าโอซากา

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเปิดเผยถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ม.ค. มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า หลักคิดสำคัญของโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่เรื่องกาสิโน แต่เป็นการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อเป็นศูนย์กลางความบันเทิงหลากหลายรูปแบบเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะสำหรับครอบครัว หรือที่เรียกว่า Entertainment Family พ่อแม่สามารถพาเด็กมาเที่ยวได้ กาสิโนเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ 3-5% เท่านั้น ไม่อยากให้ตั้งต้นที่คำว่ากาสิโน เพราะจะทำให้ทุกคนมองว่าเป็นปัญหาของสังคม

สำหรับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ภายในจะมีองค์ประกอบที่หลากหลาย ทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้า สวนสนุก สถานที่จัดงานอีเวนต์ เช่น คอนเสิร์ตหรือกีฬา ทั้งหมดนี้เป็นโอกาสสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย

ตั้งบนที่ดินรัฐ-6 ยักษ์ใหญ่สนใจลงทุน

นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะสร้างขึ้นบนที่ดินของรัฐบาลที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว มีความพร้อมด้านการคมนาคมขนส่ง ส่วนจะสร้างกี่แห่งและที่ไหนยังไม่สามารถตอบได้ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการศึกษาที่จะจัดตั้งขึ้น โดยความเห็นส่วนตัวมองว่าพื้นที่กรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ มีศักยภาพ

นพ.พรหมินทร์กล่าวถึงรูปแบบการดำเนินโครงการว่า รัฐบาลจะเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลแข่งขัน โดยจะต้องมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจบันเทิงระดับมืออาชีพ

เบื้องต้นอาจแบ่งการดำเนินโครงการออกเป็นเฟส เฟสแรกคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท สามารถจ้างงานคนไทยระหว่างการก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคน รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 119,000-238,000 ล้านบาท โดยอาจเริ่มต้นจากธุรกิจโรงแรมก่อนเพื่อดึงดูดคนเดินทางเข้ามาพักผ่อน จากนั้นจะตามมาด้วยห้างสรรพสินค้า และธุรกิจอื่น ๆ

ADVERTISMENT

“ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจีดีพีและการลงทุนในไทยต่ำ รัฐจึงต้องเร่งให้เอกชนนำเงินมาลงทุนมากขึ้น ขณะนี้มีนักลงทุนรายใหญ่จากต่างประเทศ 5-6 รายแสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนแล้ว

“เงื่อนไขการลงทุนจะเป็นการก่อสร้างในพื้นที่ใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของรัฐ มีขนาดที่ดินราว 300 ไร่ มีโรงแรมประมาณ 5,000 ห้อง มีสวนสนุกขนาดใหญ่ ศูนย์ประชุมนานาชาติ สามารถจัดคอนเสิร์ตหรือกิจกรรมอื่น ๆ ได้ ส่วนของกาสิโนจะมีเพียง 3-5% เท่านั้น

ADVERTISMENT

“การลงทุนแต่ละแห่งจะใช้เงินมากกว่า 1 แสนล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 3-5 ปี โดยปีที่ 3 คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายจะให้เปิดบริการภายใน 2572 ก่อนที่ศูนย์เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในเมืองโอซากาจะเปิดบริการในปี 2573” น.พ.พรหมินทร์กล่าว

เล็งตอกเข็มรัฐบาลนี้-เชื่อลดพนันนอกระบบได้

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงขั้นตอนการดำเนินโครงการว่าขณะนี้ได้ส่งร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … กลับไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนครึ่ง และจะสามารถเสนอเข้าสภาผู้แทนราษฎรทันในสมัยประชุมนี้ คาดว่าภายใน 1 ปีจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน

จุลพันธ์ประเมินว่า โครงการดังกล่าวจะเพิ่มรายได้ให้กับรัฐ 12,037-39,427 ล้านบาทต่อปี โดยรายได้จากกิจการกาสิโน เช่น ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ภาษีการเล่นพนันขั้นต่า 3,264 ล้านบาทต่อปี รายได้ภาษีจากกิจการอื่น ๆ เช่น โรงแรม 5 ดาว สวนสนุก 8,773-35,093 ล้านบาทต่อปี และทำให้สามารถนำรายได้ไปใช้พัฒนาประเทศ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ระบบดูแลสังคม ระบบการศึกษาและการสร้างสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ ได้

จุลพันธ์กล่าวว่า จากโมเดลการศึกษาของสิงคโปร์ พบว่าตลอด 15 ปีของการดำเนินการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จากปี 2548-2563 พบว่า การพนันนอกระบบหายไปเกือบครึ่ง ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 50% ดังนั้นเชื่อว่าเมื่อประเทศไทยสามารถจัดตั้งได้สำเร็จ การพนันนอกระบบลดลง และมีผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างแน่นอน นับเฉพาะการลงทุนก่อสร้างในระยะแรก 1 แสนล้านบาท จะมีผลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) 0.2% และหากแล้วเสร็จทั้งโครงการจะมีผลต่อจีดีพี 0.7%

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นการเอื้อนักลงทุนรายใหญ่หรือไม่ ขอยืนยันว่าไม่ใช่เหตุผลดังกล่าว ประเด็นสำคัญคือ เราต้องการนักลงทุนที่มีประสบการณ์และมืออาชีพในด้านความบันเทิงระดับโลก ขณะที่รายย่อยอื่น ๆ สามารถร่วมทำธุรกิจได้

ประเด็นที่เกรงว่าจะเป็นการเปิดช่องให้มีการฟอกเงิน รัฐบาลมีมาตรการที่จะป้องกันปัญหาเรื่องนี้แล้ว โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการบริหารขึ้นมาดูแล มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน และเชิญปลัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงพาณิชย์ รวมไปถึงหน่วยงานด้านความปลอดภัย เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้ามาร่วมทำงาน

นอกจากนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่มีประสบการณ์ มีกระบวนการตรวจสอบที่เป็นมืออาชีพ ต้องรักษาคุณภาพและความไว้วางใจ ยากที่จะปล่อยให้มีการทุจริต

สำหรับโครงสร้างในการกำกับดูแล แบ่งออกเป็น 3 ส่วน

ส่วนที่ 1 คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการจำนวน 9 คน รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ชุดนี้จะทำหน้าที่กำหนดนโยบาย การพิจารณาใบอนุญาต การกำหนดเงื่อนไขการดำเนินโครงการ การกำหนดพื้นที่ก่อสร้าง เป็นต้น

ส่วนที่ 2 คณะกรรมการบริหาร นายกรัฐมนตรีจะแต่งตั้งประธานคณะกรรมการบริหาร มีกรรมการที่มาจากปลัดกระทรวง 11 คน รวมทั้งตัวแทนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ

ส่วนที่ 3 สำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร คณะกรรมการนโยบายจะแต่งตั้งเลขาธิการสำนักงานขึ้น โดย ครม.เป็นผู้เห็นชอบ

นพ.พรหมินทร์และจุลพันธ์ยืนยันว่า รัฐบาลจะพยายามเดินหน้าทุกกระบวนการเพื่อให้โครงการเริ่มต้นได้ในรัฐบาลนี้